- Details
- Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ
- Published: Sunday, 27 September 2015 21:10
- Hits: 11897
แสนสิริ คาดปิดยอดขาย 9 เดือน ทะลุ 20,000 ล้านบาท เติบโต 200%รายได้ไตรมาส 3 เติบโตเด่นสุด Backlog หนุนผลประกอบการครึ่งหลัง 58‘ไตรมาสสุดท้าย เปิดอีก 10 โครงการใหม่ มูลค่า 21,500 ล้านบาท’
‘ไฮไลท์คอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ THE LINE และบ้านเดี่ยวที่โคราช’
แสนสิริเผยคาดการณ์สรุปผลงาน 9 เดือน ปิดไตรมาส 3 ด้วยยอดขายประมาณ 20,000 ล้านบาท เติบโตขึ้น 200% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้ไตรมาส 3 ของปีนี้จะเติบโตโดดเด่นที่สุดจาก Presale Backlog ที่รอรับรู้รายได้ ขณะที่แผนธุรกิจไตรมาสสุดท้าย เตรียมเปิดอีก 10 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 21,500 ล้านบาท ไฮไลท์คอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ THE LINE (เดอะ ไลน์) และเปิดตัว บ้านเดี่ยวที่โคราช
นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฎิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เปิดเผยถึงสรุปผลการดำเนินธุรกิจในช่วง 9 เดือนของปี 2558 บริษัทคาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้สูงถึง 20,000 ล้านบาทภายในช่วงปิดไตรมาส 3 หรือสิ้นเดือนกันยายนนี้ ซึ่งจะทำให้มีอัตราเติบโตถึง 200% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 6,800 ล้านบาท โดยเฉพาะรายได้ไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโตโดดเด่นที่สุดจากการทยอยรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมที่เริ่มทยอยโอน อาทิ โครงการเดอะ เบส พาร์คอีสต์ สุขุมวิท77, ดีคอนโด แคมปัส รีสอร์ท บางแสน, ดีคอนโด โคโค่ สุราษฏร์ธานี, เดอะ เดค ป่าตอง ภูเก็ต และ บ้านไม้ขาว ภูเก็ต เป็นต้น ทั้งนี้จากการที่ลูกค้าให้การตอบรับโอนที่อยู่อาศัยต่างๆ อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ยังส่งผลให้ปัจจุบัน บริษัทมีรายได้ในช่วงครึ่งปีแรกไปแล้วกว่า 17,000 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมกับยอดขายรอรับรู้รายได้ที่มีอยู่ในมือซึ่งจะรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลังอีกประมาณ 16,000 ล้านบาท เป็น 33,000 ล้านบาท นับเป็น Presale Backlog ที่สามารถ Secured Revenue เป้ารายได้ที่สูงมากถึง 90% จากเป้าหมายรายได้รวมที่ตั้งไว้ในปีนี้ 35,000 ล้านบาท ทำให้เหลือยอดขายและยอดโอนที่จะต้องทำให้ได้ตามเป้าหมายอีกเพียง 10% เท่านั้น บริษัทจึงมั่นใจว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายรายได้ที่วางไว้ นอกจากนี้ปัจจุบันบริษัทยังมียอดขายรอรับรู้รายได้ ที่จะรองรับการรับรู้รายได้ใน 3 ปีข้างหน้าไปแล้วถึง 32,000 ล้านบาท
ขณะที่การบริหารงานภายใต้แผนงาน Engineer For Growth หรือ EFG นับว่าประสบความสำเร็จและมีประสิทธิภาพ ทั้งการลดสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขาย เพิ่มยอดโอนและเน้นการสร้างกำไรเพิ่มขึ้นได้ตามเป้าหมายที่ประกาศไว้ จึงคาดว่าในสิ้นปีนี้บริษัทจะมีอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาที่ 12% และมีอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 15% ในช่วง 3 ปีข้างหน้านี้
“บริษัทประสบความสำเร็จจากการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่และได้รับการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่องทั้งจากนักลงทุนชาวไทยและชาวต่างชาติ และโดยเฉพาะคอนโดมิเนียมทำเลแนวรถไฟฟ้า เห็นได้จากโครงการคอนโดมิเนียมของแสนสิริ ซึ่งในปีนี้สามารถปิดการขายได้ทันทีในวันพรีเซลส์ ถึง 3 โครงการ ได้แก่ 'เดอะ โมนูเมนต์ สนามเป้า' พรีเมี่ยมคอนโดมิเนียม มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท มาสเตอร์พีซของถนนพหลโยธิน ห่างจาก BTS สนามเป้าเพียง 300 เมตร และคอนโดมิเนียมภายใต้การร่วมทุนระหว่างแสนสิริและบีทีเอส ‘เดอะ ไลน์ จตุจักร-หมอชิต’ ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS หมอชิต มูลค่าโครงการเกือบ 6,000 ล้านบาท และล่าสุด “เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 71” คอนโดมิเนียมใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS พระโขนง มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท รวมถึงการที่ลูกค้าให้การตอบรับกับโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ต่างๆ และความสำเร็จจากการจัดแคมเปญการตลาด ทั้งแคมเปญการตลาดโครงการคอนโดมิเนียมตากอากาศที่หัวหิน The Joy of Huahin และแคมเปญการตลาดโครงการแนวราบ Make It Yours ส่งผลให้ยอดขายรวมของบริษัทในช่วง 9 เดือนที่คาดว่าจะปิดยอดขายได้ถึง 20,000 ล้านบาท”นายวันจักร์ กล่าว
สำหรับ แผนการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2558 บริษัทยังมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่อีก 10 โครงการ มูลค่ารวม 21,500 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการพัฒนาคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ เดอะ ไลน์ อีก 3 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 8,800 ล้านบาท และโครงการแนวราบอีก 7 โครงการ มูลค่ารวม 12,700 ล้านบาท โดยบริษัทยังได้เตรียมเปิดตัว โครงการบ้านเดี่ยวที่ โคราช เพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้าในหัวเมืองใหญ่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนืออีกด้วย