- Details
- Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ
- Published: Saturday, 03 May 2014 22:22
- Hits: 4664
ไนท์แฟรงค์ คาดตลาดคอนโดฯ ขอนแก่นสดใส หลังปี 54-56 ยอดขายโต 74.9% ชี้เป็นทำเลทองของผู้ประกอบการ
ไนท์แฟรงค์คาดตลาดคอนโดฯ ขอนแก่นเติบโดตได้รวดเร็ว ชี้ทั้ง ซี พี แลนด์ และ แสนสิริ ลงมาจับจองพื้นที่ เผยปี 54-56 ยอดขายโต 74.9% ชี้บริเวณกลางเมืองได้รับความนิยมสูงสุด เนื่องจากเป็นบริเวณที่ตั้งของหน่วยราชการต่างๆ โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า และตลาด ด้านราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 5 หมื่นต้นๆต่อตารางเมตร ขณะที่ราคาสูงสุดมีถึงระดับตรม.ละ 1 แสนบาท
นายสุรศักดิ์ ลิมปอารยะกุล กรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายที่ปรึกษาและประเมินมูลค่าทรัพย์สิน บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ณ สิ้นปีพ.ศ. 2556 จำนวนคอนโดมิเนียมที่เปิดขายในขอนแก่นตั้งแต่ช่วงปีพ.ศ. 2554-2556 มีจำนวนทั้งสิ้น 6,803 หน่วย โดยในปีพ.ศ. 2556 พบว่า มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายมากที่สุด กล่าวคือ ราว 3,284 หน่วย โดยโครงการส่วนใหญ่เริ่มเปิดขายในช่วงครึ่งปีแรกของปีพ.ศ. 2556 คือ 2,155 หน่วย ณ ครึ่งปีหลังจำนวนคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ลดลงเหลือเพียง 1,129 หน่วย ทั้งนี้เป็นเพราะสถาณการณ์การเมืองไทยที่ไม่ปกติ สำหรับในช่วงครึ่งปีหลังของปีที่แล้ว รูปแบบห้องโดยส่วนใหญ่จะเป็นแบบ 1 ห้องนอน มีจำนวนราว 3,961 หน่วย คิดเป็นอัตราส่วนร้อยละ 58 รองลงมาได้แก่ สตูดิโอ มีจำนวน 2,113 หน่วย
ตลาดคอนโดมิเนียมในขอนแก่นเริ่มมีการพัฒนาเมื่อ 4-5 ปีก่อน แต่ที่เริ่มมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วอยู่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งพบว่ามีนักลงทุนและนักพัฒนาที่ดินรายใหญ่จากส่วนกลางเข้ามาลงทุนที่ขอนแก่นหลายราย เช่น บริษัท ซี พี แลนด์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเข้ามาพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมกัลปพฤกษ์ และบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้เข้ามาพัฒนาโครงการคอนโด ชื่อ เดอะ เบส เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีนักพัฒนาคอนโดมิเนียมท้องถิ่นของขอนแก่นที่ทำการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในขอนแก่น ได้แก่ บริษัท พิมานกรุ๊ป จำกัด ซึ่งได้ทำการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในพื้นที่หลายบริเวณในขอนแก่น เช่น เมโทรคอนโด ตั้งอยู่ใกล้ห้างเซ็นทรัลพลาซ่าขอนแก่น นอร์ทพาร์คคอนโดมิเนียม ตั้งอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซิตี้พาร์คคอนโดมิเนียม ตั้งอยู่บนถนนศรีจันทร์ และยังมีอีกหลายโครงการ ส่วนกลุ่มริเวนเดล ได้พัฒนาทั้งโครงการคอนโดมิเนียม และอพาร์ทเมนท์ให้เช่า โดยโครงการโดยส่วนใหญ่ของกลุ่มนี้จะมีสถานที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับมหาวิทยาลัยขอนแก่น
จากการสำรวจ พบว่า บริเวณที่มีคอนโดมิเนียมกระจุกตัวหนาแน่น คือ บริเวณกลางเมือง ซึ่งมีจำนวนคอนโดมิเนียมทั้งสิ้น 2,823 หน่วย คิดเป็นอัตราส่วนร้อยละ 42 รองลงมาได้แก่บริเวณรอบมหาวิทยาลัยขอนแก่น และบริเวณใกล้บึงหนองโคตร มีจำนวน 1,934 หน่วย และ 1,511 หน่วย ตามลำดับ
คุณสุรศักดิ์ ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า ตลาดคอนโดมิเนียมในขอนแก่น มียอดขายที่ค่อนข้างดี ซึ่งจากการสำรวจพบว่า โครงการที่เปิดขายระหว่างปีพ.ศ. 2554 ถึง พ.ศ. 2556 มีจำนวนหน่วยขายไปได้แล้วราว 5,096 หน่วย จากจำนวนหน่วยทั้งสิ้น 6,803 หน่วย คิดเป็นอัตราการขายที่ร้อยละ 74.9 มีจำนวนหน่วยเหลือขายราว 1,707 หน่วย จำนวนหน่วยขายเฉลี่ยต่อปี อยู่ที่ 1,699 หน่วยต่อปี โดยห้องพักแบบ 1 ห้องนอน เป็นที่นิยมสูงสุด มีจำนวนหน่วยขายไปได้ถึง 3,008 หน่วย รองลงมาได้แก่ ห้องพักแบบสตูดิโอ มีจำนวนหน่วยขายไปราว 1589 หน่วย ห้องพักแบบ 2 ห้องนอน มีจำนวนหน่วยขายไป 491 หน่วย ซึ่งกล่าวได้ว่าตลาดคอนโดมิเนียมของขอนแก่นนิยมห้องพักที่มีขนาดเล็กคือ สตูดิโอ และ 1ห้องนอน หากเป็นห้องพักขนาดใหญ่ตั้งแต่ 2 ห้องนอนเป็นต้นไปคนนิยมไปซื้อทาวเฮาส์ หรือ บ้านมากกว่าเพราะระดับราคาใกล้เคียงกัน
ในส่วนบริเวณพื้นที่ที่เป็นที่นิยมมากที่สุดของคอนโดมิเนียมในขอนแก่น คุณสุรศักดิ์ กล่าวว่า บริเวณกลางเมืองได้รับความนิยมสูงสุด เนื่องจากเป็นบริเวณที่ตั้งของหน่วยราชการต่างๆ โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า และตลาด ซึ่งเป็นแหล่งงาน แหล่งอำนวยความสะดวก และการเดินทางที่สะดวก โดยมีจำนวนหน่วยขายสูงถึงราว 2,016 หน่วย รองลงมาได้แก่บริเวณรอบมหาวิทยาลัย ซึ่งมีหน่วยขายราว 1,614 หน่วย
คุณสุรศักดิ์ ให้ความเห็นในเรื่องระดับราคาขายคอนโดมิเนียมในขอนแก่นว่า มีระดับราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 50,322 บาท ต่อ ตารางเมตร โดยบริเวณที่มีระดับราคาขายสูงที่สุดคือ บริเวณบึงแก่นนคร มีระดับราคาขายเริ่มต้นที่ 54,000 บาท ต่อ ตารางเมตร ไปจนถึง 100,000 บาท ต่อ ตารางเมตร บริเวณนี้เป็นบริเวณที่ได้ชื่อว่าเป็นบริเวณที่อยู่อาศัยที่สงบเงียบ และเป็นบริเวณที่อยู่อาศัยที่มีระดับราคาแพง มีโครงการบ้านเดี่ยวที่มีระดับราคาแพง ปัจจุบันบริเวณนี้มีโครงการบ้านระดับราคา 6-9 ล้านบาท ต่อ หน่วย อยู่ประมาณ 1,800 หลังคาเรือน เป็นบริเวณที่มีความเป็นส่วนตัว มีวิวของบึงแก่นนคร คอนโดมิเนียมในบริเวณนี้จะตั้งอยู่รอบบึงแก่นนคร และ มีวิวทิวทัศน์ของบึงแก่นนคร โครงการที่มีระดับราคาขายแพงที่สุดคือ โครงการกันยารัตน์ เลควิว ซึ่งเป็นโครงการที่เป็นอาคารสูงมีทั้งหมด 12 ชั้น มีการพัฒนาคอมมิวนิตี้มอลล์อยู่ด้านหน้าโครงการด้วย
บริเวณถัดมาที่มีระดับราคาขายคอนโดมิเนียมสูงรองจากบริเวณบึงแก่นนครคือ บริเวณกลางเมือง มีระดับราคาขายคอนโดมิเนียม เริ่มต้นที่ 33,000 บาท ต่อ ตารางเมตร ไปจนถึงสูงสุด ที่ราว 97,828 บาท ต่อ ตารางเมตร โดยโครงการที่มีระดับราคาขายสูงที่สุด คือ โครงการ เดอะ เบส ถนนศรีจันทร์ เป็นอาคารสูง 8 ชั้น เปิดขายปีนี้ สาเหตุที่ระดับราคาขายโครงการนี้ค่อนข้างสูงเนื่องจากระดับราคาที่ดินที่ทางโครงการซื้อมามีระดับราคาแพง ดังนั้นโครงการนี้จึงมีระดับราคาขายแพงกว่าโครงการของแสนสิริ ที่เป็นอาคารสูงที่ชื่อ เดอะเบสเทพารักษ์ หรือ แม้แต่เดอะเบส ไฮท์ ที่อยู่ใกล้เซ็นทรัล
บริเวณถัดมาที่มีระดับราคาขายคอนโดมิเนียมสูงเป็นอันดับที่สาม คือ บริเวณรอบบึงหนองโคตร มีระดับราคาขายคอนโดมิเนียม เริ่มต้นที่ 31,971 บาท ต่อ ตารางเมตร ถึง 80,000 บาท ต่อ ตารางเมตร โดยโครงการที่มีระดับราคาขายสูงที่สุดในบริเวณนี้ คือ เมโทร อาคารดี ซึ่งมีระดับราคาขายที่ 80,000 บาท ต่อ ตารางเมตร โดยทางผู้พัฒนาโครงการสร้างอาคารนี้ ให้เป็นอาคารแบบพรีเมี่ยม มีความเป็นส่วนตัว เพราะมีจำนวนหน่วยห้องพักเพียง 46 หน่วย และห้องส่วนใหญ่จะเป็นห้องขนาดใหญ่คือ ตั้งแต่ 2 – 3 ห้องนอน ราคาขายรวมตกแต่งเฟอร์นิเจอร์
บริเวณที่มีระดับราคาขายคอนโดมิเนียมถูกที่สุด คือ บริเวณรอบมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีระดับราคาขายเริ่มต้นที่ 29,277 บาท ต่อ ตารางเมตร ไปจนถึง 57,000 บาท ต่อ ตารางเมตร บริเวณนี้จับกลุ่มผู้ซื้อคือ ผู้ปกครองของนักศึกษาที่ซื้อห้องพักเพื่อให้บุตรหลานพักในช่วงที่ศึกษา หากบุตรหลานจบก็จะนำห้องพักมาปล่อยเช่าให้กับนักศึกษาต่อไป หรืออาจจะขายต่อให้กับผู้ปกครองรายอื่น
สำหรับระดับราคาของห้องพักแต่ละแบบ จากการสำรวจพบว่า ห้องพักแบบสตูดิโอ และ 1 ห้องนอนในขอนแก่น มีระดับราคาขายเริ่มต้นที่ 690,000 บาท ต่อ หน่วย และ สูงสุดราคาไม่เกิน 4,534,000 บาท ต่อ หน่วย โดยราคาสูงสุดของสตูดิโอ คือ 3,510,000 บาท ต่อ หน่วย ส่วนห้องพักแบบ 2 ห้องนอนเริ่มต้นที่ 1,590,000 บาท ต่อ หน่วย และ สูงสุด คือ ราคา 9,397,500 บาท ต่อ หน่วย ห้องพักแบบ 3 ห้องนอนมีระดับราคาขาย ตั้งแต่ 8,400,000 ถึง 9,600,000 บาท ต่อ หน่วย โดยพบว่าห้องพักแบบสตูดิโอ และ 1 ห้องนอนที่มีระดับราคาขายอยู่ไม่เกิน 2 ล้านบาท จะขายค่อนข้างดี ส่วนที่เหลือจะเป็นห้องพักแบบสตูดิโอ และ 1 ห้องนอนที่มีระดับราคาขาย 3-4 ล้านบาท ส่วนห้องพักแบบ 2 ห้องนอน ที่ราคาอยู่ในระดับ 2 ล้าน ถึง 3 ล้านบาท ก็ยังถือว่าสามารถขายได้ แต่ถ้าหากเกิน 3 ล้านบาทขึ้นไป จะค่อนข้างขายยาก
คุณสุรศักดิ์ ได้กล่าวสรุปว่า คอนโดมิเนียมในขอนแก่นมีแนวโน้มที่ดี โดยเฉพาะบริเวณสถานที่ตั้งบางสถานที่ที่อยู่ใจกลางเมือง หรืออยู่ใกล้มหาวิทยาลัยขอนแก่น เนื่องจากมีความต้องการซื้อของผู้ที่ทำงาน หรือ นักศึกษาที่ย้ายเข้าเรียน หรือ แม้แต่นักลงทุนซื้อเพื่อปล่อยเช่า
คอนโดมิเนียมในขอนแก่นเป็นตลาดที่ซื้อเพื่ออยู่เองเป็นส่วนใหญ่ หากเป็นการลงทุนมักเป็นการลงทุนระยะยาว คือ ซื้อเพื่อสำหรับปล่อยเช่า โดยโครงการที่เหมาะสมสำหรับซื้อเพื่อปล่อยเช่าคือโครงการที่มีสถานที่ตั้งอยู่บริเวณโดยรอบมหาวิทยาลัยขอนแก่น ตลาดคอนโดมิเนียมที่ขอนแก่นไม่เหมาะกับการซื้อเพื่อเก็งกำไร หรือขายต่อ เนื่องจากหากคอนโดมิเนียมนั้นเต็มไปด้วยนักศึกษา สภาพแวดล้อมของโครงการมักจะไม่ต่างจากหอพักนักศึกษา การเก็งกำไรค่อนข้างยาก
นอกจากนี้ คอนโดมิเนียมในขอนแก่น หากมีระดับราคาสูงกว่า 2 ล้านบาท มักขายได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากระดับราคาดังกล่าวใกล้เคียงกับราคาขายทาวเฮ้าส์ หรือ บ้านเดี่ยว ผู้ซื้อจึงมักนิยมซื้อบ้านเดี่ยวหรือทาวเฮ้าส์มากกว่า เนื่องจากได้กรรมสิทธิ์ที่ดิน อีกประการหนึ่งคือ การจราจรในขอนแก่นไม่ติดเท่ากับกรุงเทพมหานคร ทำให้คนนิยมซื้อบ้านซึ่งอาจตั้งอยู่ห่างออกไปไม่มากนัก เพราะสามารถขับรถเข้ามาทำงานในตัวเมืองขอนแก่นได้ในเวลาไม่มากนัก
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย