- Details
- Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ
- Published: Saturday, 25 July 2015 21:39
- Hits: 5672
เนอวานาฯลั่นรายได้ช่วง 3 ปีกระโดดหมื่นล.สิงห์ฯทุ่ม 2 หมื่นล.ไล่ซื้อโรงแรม-อสังหา
ไทยโพสต์ : สี่พระยา * นายศรศักดิ์ สมวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทเซ็นสัญญาแลกหุ้นกับ บมจ.สิงห์ เอสเตท (S) และในการประชุมผู้ถือหุ้นครั้งที่ผ่านมา ได้ข้อสรุปด้านการทำงานร่วมกัน โดยคาดว่าบริษัทจะสามารถเติบโตแบบก้าวกระโดด และจะสามารถลงทุนพัฒนาโครงการได้ไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาทภายในปีหน้า และจะมีรายได้ปีละ 10,000 ล้านบาทภายใน 3 ปี หรือในปี 2561
ทั้งนี้ บริษัทมีแผน เข้าจดทะเบียนในตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยอยู่ในขั้นตอนเลือกที่ปรึกษาทางการเงิน คาดว่าช่วงกลางปี 2559 จะสามารถจัดทำแบบราย การข้อมูล (ไฟลิ่ง) แล้วเสร็จ
สำหรับ ช่วงปลายปีนี้ บริษัทเตรียมเปิดตัว 4 โครงการแนวราบ มูลค่ารวม 6,100 ล้านบาท โดยปีนี้ตั้งเป้ายอดขาย 2,800 ล้านบาท เติบโต 40% เทียบกับปีที่ผ่านมาที่มียอดขาย 2,000 ล้านบาท และตั้งเป้ารับรู้รายได้ 2,000 ล้านบาท
ส่วนครึ่งปีที่ผ่านมา มียอดขายประมาณ 1,000 ล้านบาท และมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ 600 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ในปีนี้ทั้งหมด นอกจากนี้ บริษัทตั้งงบซื้อที่ดินไว้ 1,500 ล้าน บาท ซึ่งซื้อไปแล้ว 3 แปลง และจะทยอยซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง.
สิงห์ฯทุ่ม 2 หมื่นล.ไล่ซื้อโรงแรม-อสังหา
บ้านเมือง : นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าไตรมาส 3 ปีนี้ บริษัทจะเปิดตัวคอนโดมิเนียม 55 ชั้น บนพื้นที่สิงห์เฮ้าส์ อโศกเดิม ซึ่งจะเป็นห้องชุด 420 ยูนิต ขนาดตั้งแต่ 36 ตารางเมตร ราคาขายเริ่มที่ ตารางเมตรละ 2 แสนบาท หรือราคาเริ่มที่ยูนิตละ 9 ล้านบาท มูลค่าโครงการรวม 4,500 ล้านบาท โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนในปลายเดือน ส.ค.นี้ และเปิดขายอย่างเป็นทางการในเดือน ก.ย. ส่วนความคืบหน้าโครงการสิงห์คอมเพล็กซ์ ติดถนนอโศก-เพชรบุรี เป็นโครงการมิกซ์ยูส พื้นที่ใช้สอยรวม 1.45 แสนตารางเมตร ประกอบด้วยอาคารสำนักงาน และพื้นที่ค้าปลีก มูลค่า 1 หมื่นล้านบาท โดยล่าสุด บริษัทอยู่ระหว่างทบทวนแผนปรับพื้นที่บางส่วนเป็นคอนโดมิเนียม ซึ่งราคาขายจะสูงกว่าทำเลสิงห์เฮ้าส์
นายนริศ กล่าวต่อว่า สำหรับแผนการลงทุนในการซื้อกิจการ หรือ M&A นับจากนี้ไปบริษัทเตรียมจัดงบลงทุนเฉลี่ย 2 หมื่นล้านบาทต่อปี เพื่อใช้ในการซื้อกิจการที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ ทั้งอาคารสำนักงาน โรงแรม และที่อยู่อาศัย มีเป้าหมายเพื่อขยายขนาดธุรกิจบริษัทให้มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้ภายในปี 2562 ไว้ที่ 2 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ในปี 2558 บริษัทคาดว่าจะมีการซื้อกิจการทั้งหมด 5 ดิว มูลค่ารวมเกือบ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งในครึ่งปีแรกสามารถปิดดิวไปแล้ว 2 ดิว คือ เนอวาดา ดีเวลลอปเมนท์ และ โรงแรม พีพี ไอซ์แลนด์ วิลเลจ บีช รีสอร์ต ที่ จ.กระบี่ ส่วนในครึ่งปีหลังบริษัทจะมีการซื้อกิจการ 1 บริษัท ซึ่งเป็นโครงการอสังหาเชิงพาณิชย์ มูลค่าทรัพย์สิน 4 พันล้านบาท โดยบริษัทจะแจ้งตลาดหลักทรัพย์ในเร็วๆ นี้
ขณะเดียวกัน บริษัทมีการลงนามบันทึกข้อตกลงในการซื้อกิจการโรงแรมในต่างจังหวัดอีก 2 บริษัท มูลค่ารวม 6-8 พันล้านบาท ซึ่งเงินลงทุนทั้งหมดบริษัทใช้แหล่งเงินจากการขายหุ้นเพิ่มทุน 2.45 พันล้านบาท เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ส่วนในปีหน้าคาดว่าจะซื้อกิจการได้อีก 6-7 บริษัท มูลค่าไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นล้านบาท "แผนลงทุนของบริษัท 3 ปีนับจากปีนี้ จะเน้นหนักไปที่การซื้อกิจการทั้งในประเทศและต่างประเทศในอาเซียน อย่างประเทศพม่า และมาเลเซีย เป็นต้น โดยเงินลงทุนจะมาจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท เงินกู้จากธนาคาร ตลอดจนอาจมีการเพิ่มทุน และการจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (รีท) รวมถึงการนำบริษัทลูกเข้าตลาดหลักทรัพย์ เพื่อนำมาใช้ในการลงทุนปีละ 2 หมื่นล้านบาท และควบคุมสัดส่วนหนี้สินต่อทุนให้อยู่ในระดับ 1.2 เท่า" นายนริศ กล่าว
นายณัฐวัฒิ มัธยมจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่พัฒนาธุรกิจพักอาศัย บมจ.สิงห์ เอสเตท กล่าวว่า ในส่วนของแผนการดำเนินธุรกิจในไตรมาส 3 ปีนี้ บริษัทจะเปิดตัวคอนโดมิเนียม 55 ชั้น บนพื้นที่สิงห์เฮ้าส์ อโศกเดิม ซึ่งจะเป็นห้องชุด 420 ยูนิต ขนาดตั้งแต่ 36 ตร.ม. ราคาขายเริ่มที่ ตร.ม. ละ 2 แสนบาท หรือราคาเริ่มที่ยูนิตละ 9 ล้านบาท มูลค่าโครงการรวม 4.5 พันล้านบาท โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนในปลายเดือน ส.ค.นี้ และเปิดขายอย่างเป็นทางการในเดือน ก.ย. ส่วนความคืบหน้าโครงการสิงห์คอมเพล็กซ์ ติดถนนอโศก-เพชรบุรี เป็นโครงการมิกซ์ยูส พื้นที่ใช้สอยรวม 1.45 แสน ตร.ม. ประกอบด้วยอาคารสำนักงาน และพื้นที่ค้าปลีก มูลค่า 1 หมื่นล้านบาท โดยล่าสุด บริษัทอยู่ระหว่างทบทวนแผนปรับพื้นที่บางส่วนเป็นคอนโดมิเนียม ซึ่งราคาขายจะสูงกว่าทำเลสิงห์เฮ้าส์ ส่วนแผนการดำเนินงานปีหน้ามีแผนเปิดตัวอีก 4 โครงการใหม่ มูลค่า 10,000 ล้านบาท แบ่งเป็น คอนโดมิเนียม 3 โครงการ ทำเลใจกลางกรุงเทพฯ, แนวรถไฟฟ้ารอบนอก และหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด นอกจากนี้ ยังมีโครงการบ้านเดี่ยว ราคาเริ่มต้น 50 ล้านบาท บริเวณถนนประดิษฐ์มนูธรรม บนที่ดิน 30 ไร่ อีก 1 โครงการ มูลค่า 3.5 พันล้านบาท แต่ทั้งนี้หากบริษัทสามารถเจรจาซื้อที่ดินข้างเคียงเพิ่มเติมได้ อาจมีการปรับรูปแบบใหม่อีกครั้ง
สำหรับ เป้าหมายผลประกอบการปี 2558 คาดว่าจะมีรายได้ 4 พันล้านบาท ซึ่งจะเป็นรายได้จากธุรกิจโรงแรมและการซื้อกิจการ ส่วนปีหน้าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 6 พันล้านบาท ด้านผลประกอบการบริษัทไตรมาสแรกปีนี้มีรายได้แล้วอยู่ที่ 300 ล้านบาท และมีทรัพย์สินรวมอยู่ที่ 10,341 ล้านบาท โดยตัวเลขดังกล่าวจะไม่รวมผลประกอบการและทรัพย์สินของกลุ่มเนอวานาที่บริษัทได้เข้าไปถือหุ้นใหญ่ด้วยสัดส่วนร้อยละ 51
