- Details
- Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ
- Published: Thursday, 23 July 2015 23:21
- Hits: 4076
นายก ส.อาคารชุดไทย เผย ดีมานด์เทียมดันราคาคอนโดฯ พุ่ง หวั่นหุ้นหลุด 1,400 จุดกระทบยอดโอนปี 60
นายก ส.อาคารชุดไทย แนะจับตาดีมานด์เทียมหวั่นทิ้งดาวน์ หลังพบการเก็งกำไรเพิ่มขึ้นเป็น 10-15% กระทบราคาคอนโด-ที่ดินพุ่งเกินจริง แต่ยืนยันไม่เกิดฟองสบู่ คาดปีนี้ยอดโอนคอนโดฯทุบสถิติที่ 1.9 แสนลบ. รับรู้ Backlog จากปี 56 ที่เลื่อนจากปัญหาการเมือง ขณะที่กังวลหากหุ้นหลุด 1,400 จุด กระทบยอดโอนคอนโดฯ ปี 60 หลังพบยอดขายคอนโดฯระดับกลาง-บนมีมากถึง 54%
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทยและกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS เปิดเผยว่า ปัจจุบันพบความต้องการ (ดีมานด์) เทียม เข้าซื้อเก็งกำไรในโครงการคอนโดฯ เพิ่มขึ้นเป็น 10-15% ซึ่งกังวลว่าจะมีการทิ้งเงินดาวน์ รวมถึงจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคาคอนโดและที่ดินปรับตัวสูงขึ้นเกินความเหมาะสม โดยจากการสำรวจพบว่าเกิดขึ้นในกลุ่มโครงการระดับกลาง-บน ที่มีมูลค่าการเปิดตัวค่อนข้างมากในปีนี้
อย่างไรก็ตาม มองว่าการเกิดฟองสบู่ในตลาดคอนโดมีความเป็นไปได้น้อย เนื่องจากพื้นฐานของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ ทั้งผู้ประกอบการ ผู้รับเหมา รวมถึงธนาคารพาณิชย์ มีความแข็งแกร่งกว่าปี 2540 ที่เกิดวิกฤติต้มยำกุ้ง ขณะที่มีการควบคุมด้านสินเชื่อมากยิ่งขึ้น ทำให้โอกาสที่จะถูก Force Sell หรือ เกิดหนี้เสียมีน้อยลง รวมไปถึงปัจจุบันอุตสาหกรรมมีระบบเตือนภัยที่เข้มข้น ด้วยการแจ้งข้อมูลตัวเลขต่างๆ ที่ผิดปกติอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรม สามารถเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับภาวะปัญหาต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น
"ตราบใดที่ผมยังเป็นนายกสมาคมฯ อยู่ จะไม่มีฟองสบู่เกิดขึ้นแน่นอน เพราะเรามีระบบเตือนภัยตลอดเวลาหากพบความผิดปกติ อย่าง 2 ปีก่อนที่เราเห็นสัญญาณขาลงของตลาดคอนโดต่างจังหวัดก็ได้มีการแจ้งเตือนเพื่อให้ผู้ประกอบการปรับกลยุทธ์และลดหรือชะลอการเปิดโครงการใหม่ ซึ่งก็ทำให้ผู้เกี่ยวข้องเตรียมตัวและระมัดระวัง และไม่ถูกผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญมากนัก อย่างตอนนี้ก็เช่นกันที่เราออกมาเตือนว่าสัญญาณดีมานด์เทียมเพิ่มขึ้นแล้ว ผู้ประกอบการต้องควบคุมให้ดี เหล่านี้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ป้องกันไม่ให้อุตสาหกรรมได้รับผลกระทบหนักๆ เหมือนสมัยต้มยำกุ้ง" ประเสริฐ กล่าว
นายประเสริฐ คาดว่าปีนี้ยอดโอนคอนโดจะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.9 แสนล้านบาท มากกว่าจุดสูงสุดเดิมที่ 1.6 แสนล้านบาทในปี 2555 โดยส่วนใหญ่มาจากการโอนโครงการที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมืองในปี 2556 ทำให้มีการเลื่อนก่อสร้างเป็นจำนวนมาก และมาแล้วเสร็จพร้อมกันในปีนี้ ซึ่งคาดว่าส่วนใหญ่จะทยอยโอนในครึ่งปีหลัง
ขณะเดียวกันได้ปรับเพิ่มเป้าหมายมูลค่าคอนโดเปิดใหม่ปีนี้เป็นเติบโต 27% จากปีก่อน หรือแตะ 1.8 แสนล้านบาท จากเดิมคาดโตแค่ 4% เนื่องจากในช่วงครึ่งปีแรกมีการเปิดตัวโครงการใหม่ถึง 1.01 แสนล้านบาท เติบโต 72% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นโครงการที่เน้นเจาะลูกค้าระดับบน (5 ล้านบาทขึ้นไป) เนื่องจากกำลังซื้อของกลุ่มดังกล่าวไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจมากนัก โดยมีสัดส่วนถึง 40% ของโครงการคอนโดที่เปิดตัวใหม่ในปีนี้ จากเดิมเพียง 20%
ทั้งนี้ เป็นห่วงว่าภาวะตลาดหุ้นที่ผันผวนจะส่งผลกระทบต่อกลุ่มผู้บริโภคระดับบน เนื่องจากส่วนใหญ่มีการลงทุนในตลาดหุ้น โดยหากดัชนีหลุด 1,400 จุด อาจจะส่งผลกระทบด้านความมั่งคั่ง (Wealth) ของกลุ่มลูกค้าดังกล่าวลดลง โดยปัจจุบันพบว่าสัดส่วนยอดขายคอนโดที่มีมูลค่ามากกว่า 5 ล้านบาท/ยูนิต มีถึง 54% จากเดิมราว 20%
พร้อมกันนี้มองว่าราคาหุ้นอสังหาฯ ที่ยังไม่ฟื้นตัว เนื่องจากนักลงทุนปรับกลยุทธ์และรอดูยอดโอนซึ่งจะสะท้อนผลประกอบการที่แท้จริงมากกว่า ดังนั้นอาจจะเป็นโอกาสในการเลือกหาหุ้นอสังหาที่ราคาต่ำกว่าพื้นฐาน เพราะปีนี้จะเป็นปีแห่งการโอนกรรมสิทธ์ โดยหลายบริษัทจะมีผลการดำเนินงานดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
นายประเสริฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า อุตสาหกรรมอสังหาฯ ทั้งหมดปีนี้จะเติบโต 13% จากปีก่อน หรือมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอีก 3.3 แสนล้านบาท โดยการเติบโตมาจากโครงการคอนโด 27% ทาวน์เฮาส์ 7% ส่วนบ้านเดี่ยวจะใกล้เคียงหรือลดลงจากปีก่อนเล็กน้อย เนื่องจากมีปัญหาเรื่องราคาที่ดินรวมถึงทำเลที่จำกัด เพราะผู้บริโภคเน้นอยู่ในตัวเมืองเป็นหลัก ส่วนตลาดต่างจังหวัดจะยังคงติดลบต่อเนื่องจากปีก่อนที่ -3% เป็นไปตามกำลังซื้อที่ลดลงจกาภาวะเศรษฐกิจ เพราะกลุ่มผู้บริโภคต่างจังหวัดจะได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจค่อนข้างมาก
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย