- Details
- Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ
- Published: Thursday, 16 July 2015 23:29
- Hits: 11593
นายกสมาคมอาคารชุดไทย เพิ่มเป้าอสังหาฯปีนี้โต 13% จากเดิมคาด 5% เหตุคอนโดฯโตแรง เตือนผู้ประกอบการระวังดีมานด์เทียม
นายกสมาคมอาคารชุดไทย เพิ่มเป้าเติบโตอสังหาฯปีนี้เป็น 13% จากเดิม 5% เหตุคอนโดฯโตแรง ดันภาพรวมครึ่งปีแรกพุ่ง 31% พร้อมเตือนผู้ประกอบการระวัง หลังพบพฤติกรรมเก็งกำไรคอนโดฯระดับกลาง-บน หวั่นสร้างดีมานด์เทียม มองแนวโน้มการควบรวมกิจการของบริษัทอสังหาฯมีมากขึ้นในครึ่งปีหลัง เหตุรายเล็กอยู่ยาก
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS และในฐานะนายกสมาคมอาคารชุดไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ปีนี้คาดว่าจะโตเพิ่มขึ้นเป็น 13% หรืออยู่ที่ 3.3 แสนล้านบาท จากเดิมที่คาดว่าจะโต 5% เนื่องจากภาพรวมตลาดในช่วงครึ่งปีแรกเติบโตถึง 31% จากภาพรวมตลาดคอนโดฯ ที่เติบโตถึง 72% โดยโดยเฉพาะคอนโดฯ ระดับกลางและบน
ขณะที่ทาวน์เฮ้าส์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 20% ส่วนบ้านเดี่ยวติดลบ 14% โดยส่วนตัวมองว่าบ้านเดี่ยวปีนี้จะลดลงเพียง 7% แต่มองในช่วงครึ่งปีหลังความต้องการบ้านเดี่ยวน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น
"จากการรวบรวมตัวเลขภาพรวมตลาดอสังหาฯ ในเขตกทม. และปริมณฑล ช่วงครึ่งปีแรก พบว่าเติบโตสูงถึง 31% ส่วนใหญ่มาจากตลาดคอนโดฯ โดยเฉพาะระดับกลางถึงบน ซึ่งพบว่ามีแรงเก็งกำไเข้ามาด้วย ซึ่งในส่วนนี้ผู้พัฒนาอสังหาฯ ต้องระมัดระวัง เพราะอาจเป็นดีมานด์เทียมได้"นายประเสริฐ กล่าว
นอกจากนี้ แนวโน้มการซื้อกิจการ ควบรวมกิจการ (M&A) และการร่วมลงทุน (Joint Venture) ในธุรกิจอสังหาฯ ช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะการดำเนินธุรกิจอสังหาฯ ในปัจจุบันต้องใช้ฐานเงินทุนที่ใหญ่ และโครงสร้างกฎหมายก็เอื้อให้กับบริษัทขนาดใหญ่ ทำให้ผู้ประกอบการรายเล็กมีการดำเนินธุรกิจที่ลำบากมากขึ้น เห็นได้จากครึ่งปีแรกมาร์เก็ตแชร์ของผู้พัฒนาอสังหาฯ ในกทม. 51% เป็นของผู้ประกอบการเพียง 12 บริษัทเท่านั้น โดยในครึ่งปีแรกก็เห็นว่ามีการซื้อกิจการแล้วคือ บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK กับ พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ และบริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ PRIN กับกลุ่มเคพีเอ็น
สำหรับ PS ยังคงเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 10% จากปี 2557 ที่มีรายได้ 43,026 ล้านบาท และคงเป้าการเติบโตยอดขายปีนี้ 20% หรืออยู่ที่ 47,000 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯจะมีการรับรู้รายได้จากงานในมือ โดยปัจจุบันมี Backlog อยู่ 3.6-3.7 หมื่นล้านบาทที่จะทยอยรับรู้ในปีนี้และบริษัทฯ มีแผนเปิดโครงการใหม่ในครึ่งปีหลังประมาณ 45-48 โครงการ ทำให้ปีนี้รวมแล้วบริษัทฯ จะมีการเปิดโครงการใหม่ 70-75 โครงการ มูลค่ารวม 5.5-6 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทฯ เตรียมเงินที่จะซื้อที่ดินในช่วงครึ่งปีหลัง 1.5-2 หมื่นล้านบาทเพื่อรองรับการเปิดโครงการใหม่ โดยแหล่งเงินทุนจะมาจากการกู้และกระแสเงินสดของบริษัทฯ ซึ่งบริษัทฯมีหนี้สินต่อทุน 0.7 เท่า ซึ่งมีความสามารถในการกู้เพิ่มขึ้น และบริษัทฯ อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะออกหุ้นกู้เพิ่มอีกหรือไม่ หลังจากเดือนที่ผ่านมาได้มีการออกไปแล้ว 3,000 ล้านบาท ซึ่งมีความต้องการล้น 3 เท่า
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
