WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

COLLIERคอลลิเออร์ส ไตรมาสแรก ยอดขายคอนโดวูบไตรมาสแรกยอดขายคอนโดวูบ

    บ้านเมือง : นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนลประเทศไทย กล่าวว่า "คอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ในไตรมาสที่ 1 พ.ศ.2558 มีประมาณ 10,450 ยูนิต ลดลงจากไตรมาสที่ 4 พ.ศ.2557 ประมาณ 32% ซึ่งเกิดขึ้นจากตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพมหานครยังคงอยู่ในภาวะชะลอตัว เนื่องจากคนไทยส่วนใหญ่ยังไม่มีความเชื่อมั่นในภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่ยังไม่เป็นไปตามที่รัฐบาลคาดหวังในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ส่งผลต่อเนื่องให้คนไทยชะลอการตัดสินซื้อที่อยู่อาศัยหรือสร้างหนี้ที่มีภาระผูกพันระยะยาวออกไปก่อน และมีผลให้ผู้ประกอบการเลือกที่จะเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ลดลงเช่นกัน แต่ยังคงมีสัญญาณที่ดีขึ้นในเดือนมีนาคม เพราะว่ามีคอนโดมิเนียมเกือบ 7,000 ยูนิตเปิดขายในเดือนมีนาคม ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังคงแผนการเปิดขายโครงการใหม่ในปีนี้ไว้ แต่เลือกที่จะจับตาดูภาวะตลาดอย่างใกล้ชิด"

    ทั้งนี้ คอนโดมิเนียมที่เปิดขายในไตรมาสที่ 1 พ.ศ.2558 ส่วนใหญ่ยังอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครรอบนอก หรือนอกเหนือพื้นที่เส้นทางรถไฟฟ้าสายปัจจุบัน โดยคิดเป็นประมาณ 51% ของจำนวนยูนิตที่เปิดขายในไตรมาสที่ 1 ทั้งหมด แต่ว่ายังเป็นสัดส่วนที่น้อยกว่าไตรมาสอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด โดยนายสุรเชษฐ ได้ขยายความในเรื่องนี้ว่า "ในไตรมาสที่ 1 พ.ศ.2558 ผู้ประกอบการให้ความสำคัญกับพื้นที่กรุงเทพมหานครชั้นในมากขึ้นเนื่องจากเปิดขายโครงการที่มีราคาขายมากกว่า 100,000 บาทต่อตารางเมตรมากขึ้น อีกทั้งมีหลายโครงการที่มีราคาขายมากกว่า 200,000 บาทต่อตารางเมตร หรือมากกว่า 300,000 บาทต่อตารางเมตร"

   ขณะที่อัตราการขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ในไตรมาสที่ 1 พ.ศ.2558 อยู่ที่ประมาณ 54% ต่ำกว่าหลายไตรมาสที่ผ่านมา แต่ยังคงดีกว่าไตรมาสที่ 1 ของปี พ.ศ.2557 แม้ว่าความเชื่อมั่นของผู้ซื้อจะยังคงต่ำกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ โดยในกลุ่มของคอนโดมิเนียมระดับราคาไม่เกิน 100,000 บาทต่อตารางเมตรจะอยู่ที่ประมาณ 50% เท่านั้น ในขณะที่คอนโดมิเนียมที่มีราคาขายในช่วงระหว่าง 200,001-250,000 บาทต่อตารางเมตร กลับมีอัตราการขายได้ที่ประมาณ 81% สูงที่สุดเมื่อเทียบกับระดับราคาอื่นๆ เนื่องจากคอนโดมิเนียมในระดับราคานี้จะเป็นของผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีชื่อเสียง และตั้งอยู่ในทำเลที่ดี

   นายสุรเชษฐ กองชีพ กล่าวเพิ่มเติมว่า "กลุ่มผู้ซื้อในกลุ่มของผู้ที่มีรายได้ระดับปานกลางลงไปยังคงมีปัญหาในเรื่องของหนี้ครัวเรือนที่มีผลต่อสถานะการเงิน และการขอสินเชื่อจากธนาคาร ซึ่งทำให้มียอดการขอสินเชื่อไม่ผ่านในกลุ่มนี้ค่อนข้างสูงคือที่ประมาณ 25-30% และมีผลต่อเนื่องไปยังผู้ประกอบการ ดังนั้นผู้ประกอบการส่วนใหญ่จึงชะลอการเปิดขายโครงการในระดับนี้ออกไปก่อน โดยเน้นการเพิ่มสัดส่วนในตลาดระดับบน และ Luxury รวมทั้งเพิ่มสัดส่วนในโครงการบ้านจัดสรรให้มากขึ้น

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!