WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

COคอลลเออรส

    ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดปทุมธานีโดยเฉพาะในอำเภอลำลูกกา และคลองหลวงที่ติดต่อกับกรุงเทพมหานครนั้นเป็นอีกพื้นที่ที่ผู้ประกอบการให้ความสนใจตั้งแต่ช่วง 3 - 4 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม และสีเขียวเริ่มมีความชัดเจน แม้ว่าในอดีตก่อนหน้านี้พื้นที่ทั้ง 2 อำเภอนี้จะมีโครงการที่อยู่อาศัยมากอยู่แล้วก็ตาม แต่เริ่มมีโครงการคอนโดมิเนียม และบ้านจัดสรรเปิดขายมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วง 3 - 4 ปีที่ผ่านมา

      คอนโดมิเนียม และบ้านจัดสรรที่เปิดขายในช่วงระหว่างปีพ.ศ.2554 – ไตรมาสที่ 1 พ.ศ.2558

COคอลลเออรส1

      ที่มา: ฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย

    นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) ได้กล่าวถึงตลาดอสังงหาริมทรัพย์ส่วนนี้ว่า ตลาดที่อยู่อาศัยในทั้ง 2 อำเภอนี้มีการขยายตัวอย่างเห็นได้ชัดในปีพ.ศ.2556 ที่มีโครงการคอนโดมิเนียมจำนวนมากเปิดขาย โดยโครงการส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในพื้นที่รอบๆ มหาวิทยาลัยรังสิตเพื่อรองรับกำลังซื้อของนักศึกษา และบุคลากรในมหาวิทยาลัย รวมทั้งคนที่ต้องการซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อลงทุนปล่อยเช่าให้กับคนกลุ่มข้างต้น โดยส่วนใหญ่เป็นโครงการของผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ที่เข้ามาดักกำลังซื้อในบริเวณนี้ อีกหนึ่งพื้นที่ที่ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมคือ ในอำเภอคลองหลวงช่วงที่ไม่เกินรังสิตคลอง 2 ที่มีโครงการขนาดใหญ่ของผู้ประกอบการรายหนึ่งทีเปิดขายเป็นหลักหมื่นยูนิตต่อโครงการ ทำให้การดูดซับในบริเวณนี้เกิดการชะลอตัวลงไปในตลาดคอนโดมิเนียม เนื่องจากมีคอนโดมิเนียมเปิดขายมากเกินไป ประกอบกับมีโครงการบ้านจัดสรรที่เปิดขายอย่างต่อเนื่องในช่วงปีพ.ศ.2554 – 2557 โดยในแต่ละมีบ้านจัดสรรเปิดขายมากกว่า 3,000 ยูนิต ต่อปี ยกเว้นปีพ.ศ.2557 ที่มีโครงการบ้านจัดสรรเปิดขายใหม่มากกว่า 5,600 ยูนิต แสดงให้เห็นถึงความต้องการที่อยู่อาศัยในพื้นที่นี้ที่มีต่อเนื่องจนผู้ประกอบการต้องเปิดขายโครงการใหม่ๆ มากขึ้น

   “สำหรับราคาขายเฉลี่ยของโครงการคอนโดมิเนียมในพื้นที่ ณ ไตรมาสที่ 1 พ.ศ.2558 อยู่ที่ประมาณ 35,000 บาทต่อตารางเมตร หรือประมาณ 1 ล้านบาทต่อยูนิต เนื่องจากมีโครงการขนาดใหญ่ที่มีจำนวนยูนิตประมาณ 10,000 ยูนิตซึ่งถ้าตัดโครงการนี้ออกจะทำให้ราคาขายเฉลี่ยในพื้นที่เพิ่มขึ้นไปถึงประมาณ 40,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งผู้ประกอบการโครงการคอนโดมิเนียมต่างพยายามดึงดูดกำลังซื้อในพื้นที่โดยการคงราคาขายไว้ไม่ให้สูงเกินกว่า 2 ล้านบาท เนื่องจากในพื้นที่นี้มีบ้านจัดสรรที่มีราคาขายต่ำกว่า 2 ล้านบาทอยู่อีกเป็นจำนวนมากซึ่งทำให้คนจำนวนไม่น้อยเลือกซื้อบ้านจัดสรรแทนที่จะซื้อคอนโดมิเนียม โดยถ้าแยกตามประเภทของบ้านจัดสรรที่เปิดขายอยู่ในปัจจุบันนั้นพบว่า มีบ้านเดี่ยว 8,800 ยูนิต ทาวน์เฮ้าส์ประมาณ 8,600 ยูนิต บ้านเดี่ยว 3,780 ยูนิต และอาคารพาณิชย์ 700 ยูนิต”  นายสุรเชษฐกล่าวเพิ่มเติม

    อัตราการขายเฉลี่ยของโครงการคอนโดมิเนียมในพื้นที่นี้อยู่ที่ประมาณ 65% จากจำนวนที่เปิดขายทั้งหมดประมาณ 19,220 ยูนิต แสดงให้เห็นว่ามีการตอบรับที่ไม่ได้ดีมากนัก อาจจะเป็นเพราะว่ามีตัวเลือกในตลาดมากเกินไป ในขณะที่อัตราการขายเฉลี่ยของบ้านจัดสรรก็ต่ำกว่าคอนโดมิเนียมโดยอยู่ที่ประมาณ 57% เท่านั้น จากทั้งหมดของจำนวนบ้านจัดสรรที่เปิดขายอยู่ในปัจจุบันประมาณ 21,800 ยูนิต ซึ่งจากอัตราการขายของทั้งคอนโดมิเนียม และบ้านจัดสรรดังกล่าวทำให้ยังมีคอนโดมิเนียม และบ้านจัดสรรเหลือขายอยู่ในพื้นที่นี้อีกมากกว่า  16,000 ยูนิต ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาในการดูดซับอีกระยะหนึ่ง ประกอบกับความเชื่อมั่นของกำลังซื้อที่ลดลงต่อเนื่อง และปัญหาเรื่องการขาดคูณสมบัติของผู้ซื้อที่ทำให้ยอดการยกเลิกสินเชื่อสูงถึงประมาณ 25 – 30% โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีรายได้ปานกลางลงมาซึ่งเป็นคนกลุ่มหลักของโครงการคอนโดมิเนียม และบ้านจัดสรรในบริเวณนี้

   “เส้นทางรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้มที่ต่อขยายจากบางซื่อไปรังสิตที่เริ่มมีการก่อสร้างแล้วในปีที่ผ่านมา ในขณะที่สายสีเขียวที่ขยายจากหมอชิตไปคูคตคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในช่วงกลางปีนี้นั้น คาดว่าจะช่วยกระตุ้นการขยายตัวของตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่ตามแนวเส้นทางทั้ง 2 เส้นนี้ โดยเฉพาะในอำเภอลำลูกกา และอำเภอคลองหลวงให้เป็นที่น่าสนใจมากขึ้นแม้ว่ากำลังซื้อจะยังคงมีปัญหาเรื่องของหนี้ครัวเรือนที่อาจจะต้องใช้เวลาสักระยะในการจัดการ” นายสุรเชษฐ กล่าวสรุป

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม : พัทธ์ธีรา  สุกใส (แตงโม) โทร 080 562 4719 E-Mail: [email protected]

ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!