- Details
- Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ
- Published: Thursday, 16 April 2015 17:30
- Hits: 2440
บ้านเพื่อ 'ผู้สูงอายุ' ความลงตัวของคนในครอบครัว
ไทยโพสต์ : เป็นที่ทราบกันดีว่า ช่วงนี้ประเทศไทยเข้าสู่'สังคมผู้สูงอายุ' ซึ่งแนวโน้มที่ผู้สูงอายุมีอัตราเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเรามีวิวัฒนาการทางการแพทย์ที่ก้าวหน้าขึ้น ดังนั้น จึงต้องมีความจำเป็นในการพึ่งพาตัวเองมากขึ้น ทำให้มีแนวคิดในการออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อเน้นความเท่าเทียมของบุคคลทุกคน จะช่วยลดความแปลกแยก และสามารถช่วยเหลือพึ่งพาตัวเองได้
แนวคิดนี้ ได้ถูกนำไปต่อยอดและใช้ในการออกแบบ 'ที่พักอาศัย'ให้สอดคล้องกับการดำเนินชีวิต
ปัจจุบันประเทศไทยมีประชากร 67 ล้านคน และในอีก 5 ปี จะมีประชากรเพิ่มขึ้นสูงสุดไม่เกิน 68 ล้านคน เพราะมีแนวโน้มว่าอัตราการเกิดจะลดน้อยลง แต่จะมีการเพิ่มของประชากรสูงอายุที่อายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง
จนในปี 2568 ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัวคงจะดีหากประเทศไทยพัฒนาที่อยู่อาศัยและสิ่งอำนวยความสะดวกที่สามารถรองรับการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน ยังสามารถใช้ชีวิตร่วมกับคนวัยหนุ่มสาวเพื่อให้ชีวิตมี สีสันและกระฉับกระเฉง
จากแนวโน้มที่ว่าคนไทยจะมีอายุยืนยาวขึ้น บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ หรือ LPN จึงพัฒนาแนวคิดการพักอาศัยรูปแบบใหม่ คือ Pleasure Family หรือ "ครอบครัวสุขสันต์"เริ่มแรก 'Pleasure Family' เป็นแนวคิดที่พัฒนาคอนโดมิเนียมเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้สูงวัย โดยพิจารณาจากกลุ่มประชากรสูงวัยที่นับวันจะเพิ่มจำนวนมากขึ้น และมีความต้องการที่อยู่อาศัยที่มากด้วยคุณภาพชีวิตที่ดี
แต่จากประสบการณ์การดูแลโครงการผู้สูงวัย และผลการวิจัยของฝ่ายวิจัยและพัฒนาของบริษัทที่ได้ทำการเก็บสถิติเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ของผู้สูงวัย พบว่าส่วนใหญ่ต้องการใช้ชีวิตท่ามกลางคนวัยหนุ่มสาวเพื่อให้ชีวิตกระฉับกระเฉงและมีกิจกรรมที่มีสีสันร่วมกัน ดังนั้น การพัฒนาจึงออกแบบขึ้นมาเพื่อให้เหมาะกับคนทุกวัยในครอบครัว โดยนำแนวคิด Pleasure Family มาอยู่ในชั้น 4-6 ด้วยการออกแบบ ห้องชุดอาศัยที่นำรายละเอียดของ'Universal Design'เพื่อพร้อมรองรับกับการใช้ชีวิตของผู้สูงวัย
ยกตัวอย่าง ขนาดห้อง 34 ตารางเมตร ที่อำนวยความสะดวกในกรณีที่ต้องใช้ Wheel chair เพิ่มราวจับในห้องน้ำเพื่อความปลอดภัย รวมถึงวัสดุอุปกรณ์ทุกชิ้นในห้องที่ไม่มีเหลี่ยมมุม ปุ่มฉุกเฉินในกรณีต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน และพื้นที่ส่วนกลางเพื่อสามารถทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว ได้แก่ ห้องครัวรวม พื้นที่สำหรับชมภาพยนตร์ ห้องคาราโอเกะ และกิจกรรมนอกสถานที่
นอกจากนี้ ยังให้มีการสร้างห้องสุขภาพเพื่อผู้อยู่อาศัย ซึ่งมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีผู้ช่วยพยาบาลประจำเพื่อรับเหตุฉุกเฉินจากห้องชุดพักอาศัย โดยหากมีสัญญาณฉุกเฉินเพื่อขอความช่วยเหลือ จะมีระบบส่งต่อไปยังโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้อยู่อาศัยใน Pleasure Family และสามารถตอบสนองทุกความต้องการของผู้อยู่อาศัยได้อย่างลงตัว
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในไม่ช้า คำว่า "ยูนิเวอร์แซล ดีไซน์" จะกลายเป็นเรื่องใกล้ตัวสำหรับมนุษย์คอนโดมิเนียมมากขึ้น เนื่องจากเป็นงานออกแบบที่รองรับการใช้งานของคนทุกเพศ ทุกวัย เช่น ฝักบัวที่เลื่อนระดับได้, ห้องน้ำที่ดีไซน์ไว้รองรับการใช้งานผู้สูงอายุหรือผู้ที่ต้องนั่งรถเข็น มีมาตรฐานความกว้างและความสูงของสุขภัณฑ์อ่างล้างหน้าต่างจากปกติ, ภูมิทัศน์โครงการที่ออกแบบให้มีเนินสโลปรองรับผู้พิการนั่งรถเข็น ฯลฯ ซึ่งจะนำเข้ามานำร่องพัฒนาคอนโดมิเนียมที่ถูกดีไซน์รองรับกลุ่มลูกค้าผู้สูงอายุ
สำหรับ โครงการ "ลุมพินี วิลล์ นาเกลือ-วงศ์อมาตย์" ซึ่งเป็นโครงการนำร่องที่ตอบสนองต่อความสุข และคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนทุกวัยจากนวัตกรรมแนวคิดใหม่ โดยโครงการดังกล่าว เป็นอาคารชุดพักอาศัย ขนาดสูง 20 ชั้น อยู่บนถนนพัทยา-นาเกลือ มีเนื้อที่ทั้งหมด 12 ไร่ เริ่มจากชั้น G ที่จอดรถ โถงรับรอง ร้านค้า สำนักงานนิติบุคคลอาคารชุด ห้องเครื่อง ห้องอเนกประสงค์ และสวนรวมใจ ชั้น 2-3 ที่จอดรถ สามารถจอดรถได้ประมาณ 200 คัน (รวมจอดซ้อนคัน) ชั้น 4-20 เป็นห้องชุดพักอาศัยที่ลงตัว
นอกจากโครงการคอนโดมิเนียมแล้ว ในส่วนโครงการบ้านเดี่ยว หรือโครงการแนวราบ ก็มีแนวคิดในการทำ "บ้านเพื่อผู้สูงอายุ" ด้วยเช่นกัน อย่างเช่น บริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด โดยบ้านทุกโครงการมีห้องสำหรับผู้สูงอายุ เพราะต้องการให้คนแก่หรือคนชราได้อยู่กับครอบครัว จึงมีโปรเจ็กต์ทำบ้านผู้สูงอายุโดยเฉพาะ ซึ่งจะเห็นว่าทาวน์เฮาส์ระดับราคา 1 ล้านต้นๆ ก็มีห้องคนแก่รองรับไว้แล้ว
ด้วยนโยบายการดำเนินธุรกิจของบริษัทที่เน้นกลยุทธ์ Three Generation และจับกลุ่มลูกค้าครอบครัวที่ผสมผสาน หรือมีครอบครัวขนาดกลาง อยู่อาศัยร่วมของคนทั้ง 3 วัย คือ พ่อ แม่ ลูกและผู้สูงอายุ ซึ่งด้วยโอกาสของกลุ่มเป้าหมายนี้ บริษัทจึงมีแผนการเปิดตัวแบบบ้านรุ่นใหม่เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่อยู่อาศัยแบบครอบครัว หรือ Three Generation ด้วย โดยได้ออกแบบบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ใหม่ ให้ความสำคัญกับการแบ่งพื้นที่ใช้สอย ซึ่งเพิ่มเติมในส่วนของห้องนอนของบ้านรูปแบบใหม่ให้มีห้องนอน 4 ห้องนอน เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายหลัก
ทั้งนี้ ได้มีการศึกษาข้อมูลและพฤติกรรมของลูกค้าหลัก พบว่ากว่า 72% ของผู้ซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ จะมีการต่อเติมบ้านและเพิ่มเติมพื้นที่ใช้สอยให้มีขนาดเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุ ทำให้ลูกค้าโดยมากที่ซื้อบ้านใหม่มีการต่อเติมห้องนอนเพื่อผู้สูงอายุในชั้นล่าง ดังนั้น บริษัทจึงเล็งเห็นความสำคัญในการเพิ่มเติมพื้นที่ห้องนอนในบ้านเพื่อรองรับความต้องการลูกค้าให้ตรงโจทย์มากที่สุด
นอกจากนี้ ยังมีผู้พัฒนาโครงการอีกหลายรายที่ได้เห็นถึงความสำคัญกับ "ผู้สูงอายุ" ซึ่ง บมจ.เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ ก็อีกหนึ่งบริษัทที่มีแนวคิดที่จะพัฒนาโครงการ "หมู่บ้านจัดสรรสำหรับกลุ่มคน 60 ปี" หรือคนหลังวัยเกษียณอายุในย่านพัทยา เนื่องจากที่มีทำเลที่ดีเหมาะกับการอยู่อาศัยของคนกลุ่มนี้ และเดินทางสะดวกใกล้แหล่งความเจริญ
ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกับ "บ้านพักคนชราที่แคนาดา"โดยบริษัทได้ทำการสำรวจและคาดว่าต้องใช้ระยะเวลานาน เนื่องจากการทำบ้านเพื่อกลุ่มคนเหล่านี้มีรายละเอียดมากกว่าบ้านจัดสรรทั่วไปที่ทำอยู่แล้ว อาทิ รูปแบบที่ต้องออกแบบให้เหมาะสม ประตูเข้า-ออกที่ต้องกว้างกว่าปกติ เพื่อให้รถเข็นเข้า-ออกได้สะดวก ห้องน้ำที่ต้องมีราวจับและโถสุขภัณฑ์สำหรับคนชรา หรือในเรื่องของพื้น ผนัง เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีในเรื่องของพนักงานที่ต้องมีความรู้เรื่องของผู้สูงอายุ ว่าต้องการอะไร หรือเวลาเจ็บป่วยต้องทำอย่างไร ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องละเอียดที่ต้องใช้เวลามากในการพัฒนา เพราะเราต้องการทำหมู่บ้านให้คนชราได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขจริงๆ
ในส่วนของ บริษัท กู๊ด โฟร์ยู จำกัด เจ้าของโครงการ 'จีรัง เรสซิเดนซ์'หมู่บ้านสุขภาพองค์รวม ที่ตั้งอยู่ในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มคนต่างชาติหลังวัยเกษียณเริ่มให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพเพื่อให้มีอายุยืนยาวมากขึ้น จึงต้องการมองหาที่อยู่อาศัยที่รองรับการใช้ชีวิต ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่ทำให้เกิดโครงการจีรัง เรสซิเดนซ์ เฮลท์ แอนด์ รีสอร์ท ที่เชียงใหม่ขึ้น
โดยเลือกทำเลที่ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ย หยินและหยาง อยู่ท่ามกลางหุบเขา จึงการันตีได้ว่าคนที่มาอยู่ที่นี่จะมีชีวิตยืนยาวเฉลี่ย 80-100 ปี ด้วยอากาศที่บริสุทธิ์ อาหารปลอดสารพิษ มีคุณค่าทางโภชนาการ มีกิจกรรมให้ทำตลอด อาทิ โยคะ, ไทเก๊ก และศูนย์ปฏิบัติธรรม
เช่นเดียวกับ วิลล่า มีสุข เรสซิเดนท์ซี เชียงใหม่ พัฒนาโครงการตอบโจทย์ลูกค้าผู้สูงวัยในชื่อโครงการบ้านมีสุข เนอร์สซิ่งโฮม ที่คนเชียงใหม่รู้จักในนามของ'ศิวาพร'ศูนย์สุขภาพด้านการรักษาสำหรับโรคเกี่ยวกับโรคระบบประสาท และโรคประจำตัวผู้สูงอายุ ตั้งอยู่ อ.สันทราย ห่างจากตัวเมือง 15 นาที ใช้พื้นที่ 10 ไร่ พัฒนาคอนโดมิเนียม 3 ชั้น และวิลล่า บนที่ดินประมาณ 4 ไร่ ที่เหลือเป็นส่วนกลางรับกลุ่มเป้าหมายผู้สูงอายุ 60 ปี หรือวัยเกษียณขึ้นไป โดยออกแบบรายละเอียดให้สวิตช์ ปลั๊กไฟสูง 90 ซม. ประตูกว้างกว่าปกติ ขนาด 90 ซม. (ปกติประมาณ 70-80 ซม.), สวิตช์สำหรับเรียกห้องพยาบาลในห้องนอนและห้องน้ำ มีราวจับเดินพยุงตัว เป็นต้น
เมื่อผู้พัฒนาโครงการให้ความใส่ใจกับ 'บ้านเพื่อผู้สูงอายุ' มากขึ้น ความลงตัวของการอยู่ร่วมกันของคนในครอบครัวก็จะตามมา.