- Details
- Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ
- Published: Sunday, 08 February 2015 17:25
- Hits: 2413
เซ็นจูรี่ 21 มั่นใจตลาดอสังหาฯปีนี้โต 10% ผู้ประกอบการรายใหม่รุกลงทุน
แนวหน้า : นายกิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นจูรี่ 21 (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2558 ว่า โดยรวมของตลาดที่อยู่อาศัยยังไม่น่าห่วง คาดว่าปี 2558 นี้จะเติบโตประมาณ 5-10% ตามทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจ หรือจีดีพีของประทศ ขณะที่ตลาดที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล น่าจะมีมูลค่าตลาดอยู่ที่กว่า 2.5-3 แสนล้านบาท ใกล้เคียงกับปี 2557
ทั้งนี้ เชื่อว่า การลงทุนในปี 2558 จะมีผู้ประกอบการรายใหม่ ที่เป็นกลุ่มทุนจากอุตสาหกรรมอื่นมาลงทุนอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น โดยจะเห็นการเคลื่อนไหวของกลุ่มทุนในอุตสาหกรรมเหล็กที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และมีการควบรวมหรือซื้อกิจการกันในปี 2557 ที่พร้อมจะเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจ เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้ผ่านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
นอกจากนี้ ยังจะมีผู้ประกอบการที่เคยมีชื่อเสียงในอดีตกลับเข้ามาสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงมีบริษัทที่ปรึกษาด้านการตลาดและการขาย ขยายขอบข่ายธุรกิจสู่การพัฒนาโครงการจัดสรรขายทั้งบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียม
อย่างไรก็ตาม แม้ภาคธุรกิจต่างๆจะเผชิญกับปัจจัยลบ แต่ที่อยู่อาศัยก็ยังเป็นปัจจัยสี่ที่จำเป็นและในแต่ละปีก็จะมีกำลังซื้อเกิดขึ้นใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งที่เกิดจากการซื้อเป็นบ้านหลังแรก หรือการซื้อเพื่อลงทุน ด้วยเหตุนี้แม้จะมีปัจจัยลบเกิดขึ้น แต่ดีมานด์ยังมี ดังนั้นการลงทุนเปิดตัวโครงการใหม่ก็ยังคงต้องมี เพียงแต่ต้องเดินหน้าลงทุนด้วยความระมัดระวัง แต่ก็ยังมีปัจจัยบวกต่างๆที่คาดว่าจะเกิดขึ้นตามมาจากการที่ไทยนับถอยหลังเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี ซึ่งคาดว่าจะช่วยเป็นแรงสนับสนุนให้มีดีมานด์ใหม่เข้ามาเพิ่ม และผลักดันให้เกิดการลงทุนอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ หากพิจารณาการทยอยประกาศเปิดตัวโครงการใหม่ตั้งแต่เดือนมกราคม 2558 คาดว่ามูลค่าการเปิดตัวโครงการใหม่ของ
ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในบางบริษัทมีมูลค่าการเปิดตัวโครงการใหม่มากกว่า 30% แต่โดยเฉลี่ยทั้งหมดน่าจะปรับเพิ่มประมาณ 20% สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากปัญหาการเมืองในปี 2557 และมีบางโครงการที่ติดปัญหาการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ผู้ประกอบการจึงมีการยกยอดโครงการมาเปิดในปี 2558
นายกิติศักดิ์ กล่าวว่า สิ่งที่กังวลคือการเกิดภาวะเงินฝืด ขณะเดียวกันราคาที่ดินที่ปรับขึ้นตลอด อาจส่งผลให้กำลังซื้อตามไม่ทันราคาที่ดิน หรือราคาที่อยู่อาศัยที่ปรับขึ้น ซึ่งนั่นอาจเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ตลาดรวมในปี 2558 เติบโตในระดับที่ไม่หวือหวานัก ส่วนที่อยู่อาศัยในต่างจังหวัดอาจชะลอตัวทั้งด้านการขาย รวมถึงการเปิดตัวโครงการใหม่ ซึ่งต่างจากเมื่อ 2-3 ปีก่อน ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ก็จะมีความเข้มงวดใช้นโยบายการให้เครดิตการปล่อยกู้โครงการที่รัดกุม เพื่อตอบโจทย์ด้านการบริหารสินทรัพย์ให้มีคุณภาพมากขึ้น และเข้มงวดขึ้นกับกลุ่มที่ขอสินเชื่อบ้านหลังที่ 2 เพื่อรักษาคุณภาพของสินเชื่อที่อยู่อาศัยให้อยู่ในเกณฑ์ดี
โดยในปี 2558 นี้คาดว่าจะมีที่อยู่อาศัยที่สร้างเสร็จเข้ามาสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่ลงทุนในปี 2556-2557 เพราะกว่าจะสร้างเสร็จและส่งมอบให้ลูกค้าหรือโอนกรรมสิทธิ์ ส่วนใหญ่จะอยู่ระหว่างปี 2559-2560
เซ็นจูรี่ 21 ฟันธงอสังหา 58 รุ่ง โครงการรัฐกระตุ้นคาดราคาบ้านขยับเริ่มต้น 2 ล้าน
ไทยโพสต์ *เซ็นจูรี่ 21 มองลงทุนโครงการภาครัฐ กระตุ้นตลาดอสังหาฯ ปี 58 บริเวณ กทม.-ปริมณฑล โตต่อ 5-10% มูลค่ารวมกว่า 2.5-3 แสนล้านบาท คาดระดับราคาขยับขึ้นเริ่มต้นมากกว่า 2 ล้านบาท
นายกิติศักดิ์ จำปาทิพย์ พงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นจูรี่ 21 (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ในปี 2558 มีแนวโน้มเติบโตขึ้นประมาณ 5-10% เป็นไปตามทิศทางการ เติบโตของเศรษฐกิจหรือจีดีพี ของประทศ นอกจากนี้ยังมองว่าหากโครงการการลงทุนขนาด ใหญ่ของภาครัฐได้รับอนุมัติและเร่งดำเนินการ มีการเบิก จ่ายงบประมาณจะส่งผลบวก ต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เนื่อง จากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ จะเปิดพื้นที่การลงทุนใหม่ๆ และทำให้เกิดการขยาย การลงทุนเพิ่มขึ้นด้วย
"แม้ภาคธุรกิจจะเผชิญกับปัจจัยลบ แต่ที่อยู่อาศัยก็ยังเป็นปัจจัยสี่ที่จำเป็น และในแต่ละปีก็จะมีกำลังซื้อเกิดขึ้นใหม่เรื่อยๆ ทั้งที่เกิดจากการซื้อ เป็นบ้านหลังแรก หรือการซื้อเพื่อลงทุน ด้วยเหตุนี้แม้จะมีปัจจัยลบเกิดขึ้น แต่ดีมานด์ยัง มีมาเรื่อยๆ อย่างไรก็ดี ยังมี ปัจจัยบวกต่างๆ ที่คาดว่าจะเกิด ขึ้นตามมาจากการที่ประเทศ ไทยนับถอยหลังเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี คาดว่าจะช่วยเป็นแรงสนับสนุนให้มีดีมานด์ใหม่เข้ามาเพิ่มและผลักดันให้เกิดการลงทุนอย่างต่อเนื่อง" นายกิติศักดิ์กล่าว
ในส่วนของราคาที่ดินที่ปรับ ขึ้นตลอด อาจส่งผลให้กำลังซื้อตามไม่ทันราคาที่ดินหรือราคาที่อยู่อาศัยที่ปรับขึ้น ทั้งนี้ เชื่อเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ตลาดรวมในปีนี้เติบโตในระดับที่ไม่หวือหวานัก ขณะที่ที่อยู่อาศัยในต่างจังหวัดอาจชะลอตัวทั้งด้านการขาย รวมถึงการเปิดตัวโครงการใหม่ ซึ่งจะต่างจากเมื่อ 2-3 ปีก่อน ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ก็จะมีความเข้มงวดใช้นโยบายการให้เครดิตการปล่อยกู้โครงการที่รัดกุมเพื่อตอบโจทย์ด้านการบริหารสินทรัพย์ให้มีคุณภาพมากขึ้นและเข้มงวดขึ้นกับกลุ่มที่ขอสินเชื่อบ้านหลังที่ 2 เพื่อรักษาคุณภาพของสินเชื่อที่อยู่อาศัยให้อยู่ในเกณฑ์ดี
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้คาดว่าตลาดที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลน่าจะมีมูลค่าตลาดอยู่ที่กว่า 2.5-3 แสนล้านบาท ทั้ง นี้ เชื่อว่าการลงทุนในปีนี้จะมีผู้เล่นรายใหม่ที่เป็นกลุ่มทุนจากอุตสาห กรรมอื่นมาลงทุน โดยจะเห็นการ เคลื่อนไหวของกลุ่มทุนในอุตสาห กรรมเหล็กที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และมีการควบรวมหรือซื้อกิจการกัน
ทั้งนี้ หากพิจารณาการทยอย ประกาศเปิดตัวโครงการใหม่ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา คาดมูลค่าการเปิดตัวโครงการใหม่ของผู้ประ กอบการอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะ เบียนในตลาดหลักทรัพย์ในบางบริษัทมีมูลค่าการเปิดตัวโครงการใหม่มากกว่า 30% แต่โดยเฉลี่ยทั้ง หมดน่าจะปรับเพิ่มประมาณ 20% สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากปัญหาการ เมืองในปี 2557 และก็มีบางโครง การติดปัญหาอีไอเอจึงมีการยกยอดโครงการมาเปิดในปีนี้
สำหรับ ในปีนี้คาดว่าจะมี ที่อยู่อาศัยที่สร้างเสร็จเข้ามาสู่ตลาด อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะคอนโดมิ เนียมที่ได้ลงทุนไปในช่วงปี 2556-2557 และกว่าจะสร้างเสร็จและส่งมอบให้ลูกค้าหรือโอนกรรมสิทธิ์ส่วนใหญ่จะอยู่ระหว่างปี 2559-2560 ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าในปีนี้จะเป็นปีเริ่มแห่งการปรับฐานราคาที่อยู่อาศัยที่สร้างใหม่ทั้งระบบที่ขยับฐานเริ่มที่ 2.0-2.5 ล้านบาท เข้ามาแทนที่ตลาด จากเดิมที่เริ่ม ต้นราคา 1.5 ล้านบาท เมื่อเทียบ ทำเลต่อทำเลในการเปิดตัวโครง การในปีนี้เทียบกับ 2-3 ปีก่อน.