- Details
- Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ
- Published: Monday, 05 May 2014 23:20
- Hits: 6508
AREA วิเคราะห์ตลาด อสังหาฯ ส่อทรุดหนักเพราะพิษการเมือง
ดร.โสภณ พรโชคชัย วิเคราะห์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2557 เผยส่อแววทรุดหนักเพราะโดนพิษการเมือง
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA แถลง ฉบับที่ 51/2557 วันนี้ (21 เม.ย.57) ระบุ ปีนี้ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะทรุดหนักเพราะพิษการเมืองเล่นงาน โดย ดร.โสภณ เปิดเผยว่า จากปัญหาทางการเมืองในปัจจุบันพบว่า ตลาดจะเสื่อมทรุดหนักกว่าแต่ก่อน สถานการณ์อาจเป็นเช่นในปี พ.ศ.2554 ที่น้ำท่วมใหญ่ รัฐควรช่วยทั้งผู้ประกอบการและผู้ซื้อบ้านด้วยการคุ้มครองเงินดาวน์ของคู่สัญญา (Escrow Account)
โครงการอสังหาริมทรัพย์ในภาพรวมช่วง 3 เดือนแรก 2557 (มกราคม-มีนาคม 2557) เปรียบเทียบกับ 3 เดือนแรกปี 2556 มีจำนวนโครงการที่เปิดใหม่รวม 78 โครงการ (ลดลงประมาณ -28%) มีจำนวนหน่วยขายรวม 20,433 หน่วย (ลดลงประมาณ -42%) มีมูลค่ารวม 56,478 ล้านบาท (ลดลงประมาณ –43%) และมีราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยลดลงจาก 2.830 ล้านบาทเป็น 2.764 ล้านบาท (ลดลงประมาณ -2.4%)
อย่างไรก็ตาม หากประมาณการทั้งปี เชื่อว่าในปี พ.ศ.2557 จะมีการเปิดตัวใหม่ทั้งหมด 94,038 หน่วย รวม 259,799 ล้านบาท ซึ่งถือว่าลดลงกว่าปี พ.ศ.2556 อย่างชัดเจน โดยในแง่ของจำนวนหน่วยลดลงถึง 29% เพราะในปี พ.ศ.2556 เปิดตัว 131,645 หน่วย ส่วนในแง่ของมูลค่า ลดลงถึง 33% คือในปี พ.ศ.2556 เปิดตัวใหม่ถึง 385,447 ล้านบาท แต่เดิมในช่วงเดือนมกราคม 2557 ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส คาดว่าจะมีโครงการเปิดใหม่ถึง 103,330 หน่วย ซึ่งลดลงจากปีก่อนเพียง 22% และมีมูลค่ารวมกัน 295,168 ล้านบาท หรือลดมูลค่าเพียง 22%
ปรากฏการณ์สำคัญของความเสื่อมทรุดประการหนึ่งก็คือ อัตราการขายได้ จะพบว่าในเดือนแรกของการเปิดขายมีอัตราการขายได้เฉลี่ยที่ 29% ซึ่งจากเดือนที่ผ่านมาที่มีอัตราการขายได้ที่ 8% ต่อเดือน ซึ่งดีขึ้นมากจากเดือนที่ผ่านมา แต่ก็ยังย่ำแย่กว่าแต่ก่อนที่ภายในเดือนแรกจะสามารถขายได้ประมาณหนึ่งในสาม โดยประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่มีจำนวนหน่วยขายได้มากสุดอันดับ 1 คือ อาคารชุดระดับราคา 1-2 ล้านบาท จำนวน 3,145 หน่วย ขายได้แล้ว 1,218 หน่วย (39%) รองลงคือ อาคารชุดระดับราคา 2-3 ล้านบาท จำนวน 1,475 หน่วย ขายได้แล้ว 612 หน่วย (41%) และอันดับ 3 คืออาคารชุดระดับราคา 3-5 ล้านบาท จำนวน 284 หน่วย ขายได้แล้ว 96 หน่วย (-34%)
อย่างไรก็ตาม หากการเมืองยังยืดเยื้อไม่หยุดหย่อน ก็จะทำให้การเปิดตัวโครงการใหม่ย่ำแย่กว่านี้อีก กล่าวคือ จะตกอยู่ในสภาพเช่นปี พ.ศ.2554 ที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ ซึ่งในปีนั้นมีการเปิดตัวเพียง 85,800 หน่วย รวมมูลค่า 256,042 ล้านบาท ปรากฏการณ์นี้จะเป็นการทรุดตัวอย่างรุนแรงเช่น Hard Landing ทำให้ผู้ประกอบการและผู้ซื้อบ้านจะต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอดอย่างหนัก ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จึงขอเสนอให้รัฐบาลคุ้มครองเงินดาวน์ผู้บริโภค ให้ตลาดมีความมั่นคงปลอดภัยแก่ผู้ซื้อและผู้ขาย แต่อย่าไปลดดอกเบี้ยหรือภาษีและค่าโอน เพราะไม่ใช่การแก้ไขปัญหาที่ตรงจุด