- Details
- Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ
- Published: Thursday, 25 December 2014 07:47
- Hits: 2333
คุยนอกรอบ : รัฐ โกศัยดิลก ฝันดัน Tomato KidZ เบอร์ 1 เฟอร์นิเจอร์เด็ก
ไทยโพสต์ : จากประสบการณ์ด้านบริหารที่อยู่ในวงการธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงความรู้ด้านวิศวกรรมโรงงานที่ได้ศึกษาจบมาจาก Sirinthon International Institute of Technology มหาวิทยาธรรมศาสตร์ ทำให้นายรัฐ โกศัยดิลก กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซินเนอร์จี้ เฮ้าส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ค่อนข้างที่จะมีทักษะและมุมมองต่อวงการเฟอร์นิเจอร์นั้นเด็ดขาดเป็นอย่างมาก จากสิ่งที่ได้สะสมมาเป็นระยะเวลา 13 ปี ทำให้ผู้บริหารวัย 36 ปี สนใจที่จะเข้ามาดูแลธุรกิจเฟอร์นิเจอร์เด็กภายใต้แบรนด์ "Tomato KidZ"
"ผมได้เข้ามาดูแลแบรนด์โทเมโท คิดซ์ มาประมาณปีครึ่ง ได้แล้ว ซึ่งจุดเริ่มต้นก็มาจากมีบุคคลในโรงงานที่ผมรู้จักตอนทำงานให้กับบริษัทแรกได้มีการติดต่อมา ผมมองว่าสินค้ามีคอนเซ็ปต์อยู่แล้ว รวมถึงยังมีความน่ารักไม่เหมือนใคร ในขณะเดียว กันก็ยังมีผู้เล่นในตลาดไม่มากนัก จึงได้เข้ามาดูแลแบรนด์นี้ ตอนนี้ท้าทาย เพราะคนไม่ค่อยใช้จ่ายเท่าไหร่ เพราะสินค้าอยู่ในกลุ่มที่ไม่จำเป็นขนาดนั้น แต่ลูกค้าก็ยังต้องการให้ลูกนอนเอง โดยการทำตลาดให้ตรงและสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ เป็นสิ่งสำคัญที่ผมจะต้องทำ เพราะตอนนี้มันมีหลายช่องทางมากที่สามารถใช้ในการสื่อสารไปยังลูกค้าได้ และปีนี้ผมเองก็มองว่าค่อนข้างจะท้าทายอยู่เหมือนกัน เพราะสภาพเศรษฐกิจ กำลังซื้อก็ไม่ค่อยจะดี" รัฐเริ่มเล่า
สำหรับ Tomato KidZ เป็นแบรนด์เฟอร์นิเจอร์เด็กเข้ามาในเมืองไทยตั้งแต่ปี 2556 หลังจากที่ได้ส่งไปยังประเทศอังกฤษ และอเมริกามายาวนาน ภายใต้ชื่อบริษัท ซิน เนอร์จี้ เฮ้าส์ (ไทยแลนด์) เป็นแบรนด์ที่ตอบสนองความต้องการของเหล่าบรรดาเด็กทั้ง หลายได้มากที่สุด เพราะจับกลุ่มลูกค้าตั้งแต่เด็กเล็กถึงเด็กโต และด้วยเอกลักษณ์ของสินค้า ดีไซน์และคุณภาพการผลิตระดับมาตรฐานยุโรปของสินค้า ประกอบกับเสน่ห์ของสีและลายไม้ที่สบายตา ทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ปกครองได้อย่างรวดเร็ว และสามารถสร้างแบรนด์ได้ระดับหนึ่งแล้วอีกด้วย
รัฐเล่าว่า ทางบริษัทแม้จะมีการพัฒนาสินค้าใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในอนาคตอยากจะขายสินค้าเด็กอ่อนที่มีอายุระหว่าง 0-3 ปีด้วย โดยจะเป็นสินค้าที่นำเข้ามาจากอิตาลี ตอนนี้ก็มีส่วนได้ช่วยออกแบบบ้าง แต่บริษัทแม่ก็มีคนออกแบบอยู่แล้ว ผมจะช่วยแนะนำว่าตลาดไทยเหมาะกับสินค้าแบบไหนมากกว่า เพื่อให้เข้ากับคนไทยมากขึ้น ส่วนตัวผมเป็นคนชอบเด็กและเฟอร์นิเจอร์อยู่แล้วด้วย เวลาเห็นเด็กเอาเฟอร์นิเจอร์ไปใช้งานที่บ้านแล้วถ่ายภาพส่งมา ผมรู้สึกดีมากๆ
ตลาดเฟอร์นิเจอร์ในกลุ่มเด็กยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และแน่นอนว่าไม่ใช่เพียงแค่ "รัฐ" ที่มองเห็นถึงโอกาสของการทำธุรกิจนี้ ยังคงมีผู้เล่นที่จะทยอยเดินหน้าเข้ามารุกตลาดนี้อย่างแน่นอน "เป้าหมายของผมคืออยากเป็นเบอร์หนึ่งของตลาดเฟอร์นิเจอร์เด็กให้ได้ ซึ่งผมก็จะเน้นการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ เนื่องจากคนซื้อของออนไลน์กันมากขึ้น รวมถึงในช่วง 3-4 ปี เราจะสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักให้มากขึ้น แต่ในปีหน้าจะทำให้เป็นไลฟ์สไตล์มาก ในตอนนี้เรามีร้านที่เอกมัย 21 เป็นโชว์รูม ในปีหน้ามองหาพื้นที่ภายในศูนย์การค้า 2 แห่ง ในบริเวณกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพราะหมู่บ้านจะอยู่นอกเมืองเยอะ" รัฐกล่าวปิดท้าย.