- Details
- Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ
- Published: Thursday, 25 December 2014 07:46
- Hits: 2145
อีโค+โฟกัส: อสังหาฯ ปี 58 มั่นใจโตต่อ อานิสงส์..รัฐเร่งลงทุน-เปิดเออีซี
ไทยโพสต์ : ปี2557 แม้สถานการณ์โดยรวมของประเทศจะดูอึมครึมมาตั้งแต่ช่วงต้นปี ซึ่งภาคเอกชนได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า ไม่เว้นแม้กระทั่ง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่มีความอ่อนไหวต่อสถานการณ์เป็นอย่างมาก ที่แน่ๆ ช่วงครึ่งปีแรก ยอดขายหายวูบกันเป็นว่าเล่น แต่พอเข้าช่วงครึ่งปีหลัง ประเทศไทยมีรัฐบาลใหม่ เอกชนเริ่มมีความมั่นใจเปิดโครงการใหม่ๆ เพิ่มขึ้น รวมถึงผู้บริโภคเองก็เริ่มกลับมาให้ความสนใจแวะเวียนเข้าเยี่ยมชมโครงการเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
ปัจจุบัน ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อตลาดในภาพรวม ทั้งปัจจัยภายในประเทศ และจากต่างประเทศ ที่ทำให้เกิดความผันผวนและอาจส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อ โดยเฉพาะ ภาวะเศรษฐกิจโลก ที่ส่งผลมาจากหลายประเด็น ตั้งแต่ราคาน้ำมันโลกที่ยังมีทิศทางปรับลงอย่างต่อเนื่อง และความรุนแรงต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อความมั่นใจในการลงทุนทั่วโลก ในส่วนของประเทศไทยซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลก ทำให้เกิดภาพความไม่แน่นอนของอุตสาหกรรมการส่งออก ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจไทย
เหล่ากูรูในแวดวงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต่างได้ออกมาคาดการณ์อนาคตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2558 ว่าจะเป็นเช่นไร
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ รวมไปถึงสมาคมภาคอสังหาริมทรัพย์ และบริษัทในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ต่างให้ความคิดเห็นไปแนวทางเดียวกันว่า "ปี 2558 มั่นใจว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะเติบโตอย่างต่อเนื่องแน่นอน"
ทั้งนี้ นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ได้กล่าวแสดงความคิดเห็นถึงทิศทางภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปี 2558 ว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2558 เชื่อว่าตลาดจะกลับมาสู่ภาวะปกติ และมีแนวโน้มเติบโตได้ประมาณ 5% และมีแนวโน้มจะเติบโตถึง 10% ภายใต้เงื่อนไขไม่มีเหตุการณ์ทางการเมืองเกิดขึ้น และเศรษฐกิจโลกที่เข้ามากระทบต่อเศรษฐกิจไทย
สำหรับ โครงการที่อยู่อาศัยในปีหน้า คาดว่า ธุรกิจบ้านจัดสรร จะมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีการเปิดหน่วยขายประมาณ 4.5-4.8 หมื่นยูนิต ใกล้เคียงกับปี 2557 ขณะที่ ตลาดคอนโดมิเนียม จะมีการเติบโตค่อนข้างมาก เป็นผลมาจากการขยายโครงข่ายรถไฟฟ้าที่ออกสู่ชานเมืองมากขึ้น ประเมินปีหน้าจะมีซัพพลายเปิดขายสูงเกือบ 7-8 หมื่นยูนิต จากทั้งปี 2557 มีซัพพลายเปิดใหม่ประมาณ 6.5-6.8 หมื่นยูนิต โดยทำเลที่ได้รับความนิยมและจะเติบโตสูงจะเป็นโซนบางบัวทอง เนื่องจากมีโครงการห้างสรรพสินค้า "เกตเวย์" ของกลุ่มเซ็นทรัลที่เตรียมเปิดให้บริการในปี 2558
ในส่วนของ 3 สมาคมอสังหาริมทรัพย์ มีความคิดเห็นที่สอดคล้องด้วยเช่นกัน เริ่มกันที่ สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย โดย นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมฯ ได้กล่าวถึงทิศทางธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปีนี้ว่า จะเติบโตดีขึ้นหลังจากการเมืองนิ่ง และคาดว่าจะมียอดขายใกล้เคียงกับปีก่อน
"ปีหน้าถือว่ายังเป็นปีทองของอสังหาริมทรัพย์ ที่จะเติบโตดีที่สุดในรอบ 16-20 ปี โดยมีปัจจัยบวกมาจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จปีหน้าหลายสาย ซึ่งทำให้กำลังซื้อสูงขึ้น และการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) จะทำให้อสังหาริมทรัพย์ไทยมีความต้องการมากขึ้น โดยคาดว่าปริมาณคอนโดมิเนียมเกิดใหม่ปีหน้าจะเพิ่มสัดส่วนเป็น 50% ของจำนวนอสังหาริมทรัพย์เกิดใหม่ทั้งหมด"
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องกังวล คือ การขาดแคลนแรงงานภาคการก่อสร้าง ซึ่งอาจทำให้หลายโครงการต้องชะลอการส่งมอบที่อยู่อาศัยให้ลูกค้า และอาจถึงขั้นแย่งชิงแรงงานภาคการก่อสร้าง
"ทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มเข้าสู่สภาวะที่ดีขึ้น ทำให้คาดว่าไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะมีการเติบโตต่อเนื่อง จนทำให้ตลาดกลับมาเป็นบวกได้ และคาดว่าทั้งปีนี้ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์จะติดลบเพียง 5% อย่างไรก็ตาม คาดว่าภาพรวมเศรษฐกิจเติบโตมากขึ้น เนื่องจากรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะส่งผลดีต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ ที่จะกลับมาฟื้นได้ดีเหมือนเดิม ตามสภาพเศรษฐกิจที่เติบโตมากขึ้น ส่วนการเข้าสู่เออีซีนั้น จะทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางการค้าและการลงทุน ยิ่งทำให้ความต้องการในที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นมากตามด้วย"
ในส่วนของโครงการคอนโดมิเนียม นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิตนายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ทั้งปีนี้ยังคงติดลบ 10% เนื่องจากครึ่งปีแรกติดลบสูงถึง 21% จากเหตุการณ์ไม่สงบทางการเมืองเป็นปัจจัยฉุดที่สำคัญ
อย่างไรก็ดี มั่นใจว่าปี 2558 ภาคอสังหาริมทรัพย์จะกลับมาสดใสมากขึ้น เนื่องจากปัจจัยภายในประเทศต่างๆ เริ่มส่งผลในเชิงบวกต่อความมั่นใจของผู้ประกอบการและผู้บริโภค รวมทั้งการลงทุนระบบรถไฟฟ้า จะส่งเสริมให้มีความต้องการที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า
"ทั้งนี้ ยอมรับว่าสิ่งที่น่ากังวล คือ ทิศทางดอกเบี้ยที่คาดว่าจะปรับขึ้นในปีหน้า เพราะอาจส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการและผู้บริโภค โดยเฉพาะในด้านกำลังซื้อ หลังจากขณะนี้ดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ จึงส่งผลบวกต่อภาคอสังหาริมทรัพย์"
สำหรับ ผู้ประกอบการที่เข้ามาพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมมาอย่างยาว อย่าง บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) โดย นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการ ผู้อำนวยการสายงานกลยุทธ์การตลาด คาดการณ์ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2558 ว่า ในช่วงครึ่งปีแรกมีแนวโน้มฟื้นตัวและเติบโตมากกว่าปีนี้ ประกอบกับในช่วงปลายปี 2558
ด้วยเพราะเหตุผลที่ว่า ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จะยิ่งทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัวมากยิ่งขึ้น โดยน่าจะเห็นภาพบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่เริ่มเปิดตัวโครงการกันตั้งแต่ต้นปี อย่างไรก็ตาม ยังคงไม่สามารถระบุอัตราการเติบโตได้
โดยมีปัจจัยบวกที่จะช่วยส่งเสริมการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ สามารถแบ่งเป็น 3 ปัจจัยหลักๆ คือ การลงทุนของภาครัฐ โดยหากนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ เช่น การลงทุน Mega Project หรือแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นต้น ก็จะเกิดการหมุนเวียนของการใช้จ่ายและการจ้างงาน ทำให้เกิดการเติบโตของเศรษฐกิจในภาพรวม ซึ่งจะช่วยส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ดีขึ้น เพราะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจรวมของประเทศ การลงทุนของภาคเอกชนในปีหน้าที่อั้นมาจากปีนี้ ประกอบกับอัตราการว่างงานก็ยังคงต่ำมาก ทำให้ผู้บริโภคยังมีกำลังซื้อสินค้าสำหรับการก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในช่วงปลายปี 2558
ทั้งนี้ เชื่อว่าน่าจะส่งผลดีต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ ที่จะดึงดูดผู้ซื้อต่างชาติจากการเพิ่มขึ้นของการเคลื่อนย้ายเข้ามาทำงานของต่างชาติในไทย และการลงทุนร่วมกัน เนื่องจากการขยายตัวของเมือง โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร ที่มีความพร้อมของสาธารณูปโภคสามารถรองรับการขยายตัวของเมืองได้อย่างดี
ด้านผู้พัฒนาโครงการภายใต้แนวคิด "ชุมชนน่าอยู่" อย่าง บมจ.แอลพีเอ็น ดีเวลลอปเม้นท์ โดย นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ กล่าวถึงทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ว่า ในปีหน้ายังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าภาพรวมตลาดจะเติบโตมากน้อยเพียงใด ทั้งนี้เนื่องจากในช่วงปลายปี 2557 นี้ภาพรวมทั้งเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย ยังคงดูทรงตัว แต่ก็มีแนวโน้มฟื้นตัวในปีหน้าด้วยเช่นกัน
แต่ยังเชื่อมั่นว่า ในปีหน้าอสังหาริมทรัพย์จะสามารถเติบโตไปในทิศทางที่ดีได้อย่างแน่นอน โดยมีปัจจัยจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของทางภาครัฐ ที่เร่งก่อสร้างระบบขนส่ง โดยเฉพาะการเพิ่มส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้าบีทีเอส เชื่อว่าจะทำให้ผู้ประกอบการตามไปเปิดโครงการกันเป็นจำนวนมาก
สำหรับ ผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยประเภทแนวราบ ที่ยึดทำเลในโซน บางบัวทอง ก็เชื่อมั่นว่าในปีหน้าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะเติบโตด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ นายไพโรจน์ สุขจั่น ประธานกรรมการบริหารกลุ่มบัวทอง พร็อพเพอร์ตี้ กล่าวว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2558 มีแนวโน้มฟื้นตัว จากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี ซึ่งจะช่วยให้ตลาดคึกคักขึ้น โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่ต่างชาติมีสิทธิ์ซื้อได้ ในส่วนของตลาดแนวราบ มองว่ามีแนวโน้มเติบโตขึ้น จากโครงการภาครัฐในการขยายเส้นทางรถไฟฟ้า ซึ่งจะทำให้ความต้องการในที่อยู่มีเพิ่มมากขึ้น
สำหรับ สถานการณ์บ้านเมืองที่เกิดขึ้นในปีนี้ ที่เริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ บริษัทมองว่าเป็นเรื่องที่ดีของผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่จะเรียกความมั่นใจจากนักลงทุน เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติยังไม่มีความเชื่อมั่นในการที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศ ซึ่งในสายตานักลงทุนเขาอยากให้มีการเลือกตั้งให้เร็วที่สุด ซึ่งหมายถึงการมีเสถียรภาพของประเทศ
ด้วยเหตุผลต่างๆ ที่เหล่ากูรูในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้กล่าวถึง ไม่ว่าจะเป็นภาพรวมเศรษฐกิจโลก ที่ในปีหน้ามีแนวโน้มฟื้นตัว หรืออาจจะผันผวนน้อยลง ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทย ภายใต้การบริหารงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ซึ่งจะทำให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ การที่ภาครัฐเร่งอนุมัติลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ขยายระบบขนส่ง โดยเฉพาะการขยายแนวรถไฟฟ้าให้ครอบคลุมในเขต กทม.และปริมณฑล เชื่อว่าจะมีโครงการเกิดขึ้นตามแนวรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอีกมากมาย
จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมปีหน้า "ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์" จึงมั่นใจว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง!!!.