- Details
- Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ
- Published: Tuesday, 18 October 2022 23:49
- Hits: 1388
อาลียาห์ คอร์ป เปิดตัว ALIYAH RESERVE วิลล่าระดับ อัลตร้าลักชัวรี่สุดเอ็กซ์คลูซีฟเพียง 6 ยูนิต ปักหมุดพัฒนาการ 32 ทำเลทองพักอาศัยใจกลางเมือง
อาลียาห์ คอร์ป ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์บูติกระดับไฮเอนด์ เปิดตัวโครงการ ALIYAH RESERVE วิลล่าระดับอัลตร้าลักชัวรี่ สุดเอ็กซ์คลูซีฟย่านพัฒนาการ 32 หนึ่งในทำเลทอง แห่งการพักอาศัยของกรุงเทพฯ และแหล่งรวมบ้านหรูราคาแพงหลายโครงการ ชูจุดเด่นบ้านเดี่ยวพร้อม พื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ สำหรับการอยู่อาศัยทุกเจเนอเรชันและสวนป่าขนาดใหญ่ใจกลางเมือง เป็นครั้งแรกในตลาด
ALIYAH RESERVE เป็นโครงการแรกของบริษัท อาลียาห์ คอร์ป โดยเป็นคอมมูนิตี้สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่มีวิลล่าระดับ อัลตร้าลักชัวรี่เพียง 6 ยูนิตเท่านั้น ถือเป็นโครงการที่มีจำนวนยูนิตไม่มากเมื่อเทียบกับขนาดพื้นที่ของโครงการกว่า 5 ไร่ บนทำเลทองย่านพัฒนาการ 32 ซึ่งเป็นทำเลสุดฮิต ของโครงการบ้านหรูราคาแพงหลายโครงการ เนื่องจากใกล้ทองหล่อ ซึ่งเป็นย่านที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์ของกรุงเทพฯ และยังแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งโรงเรียนนานาชาติ 9 แห่ง โรงพยาบาลชั้นนำ 6 แห่ง และช้อปปิ้งมอลล์-ซูเปอร์มาร์เก็ตกว่า 10 แห่ง พร้อมการเดินทางที่สะดวกสบายที่เชื่อมต่อทางด่วนและสนามบินสุวรรณภูมิ
ไลโอเนล ลี ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาลียาห์ คอร์ป จำกัด กล่าวว่า “เรามีความมั่นใจในตลาดที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรี่ในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านแนวราบที่ยังคงเติบโตแข็งแกร่งและได้รับผลบวกหลังเกิดสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้บ้านแนวราบเป็นที่ต้องการมากขึ้น จากรายงานการศึกษาวิจัยโดยซีบีอาร์อี ประเทศไทย พบ เทรนด์การอยู่อาศัยใหม่ที่เกิดขึ้นหลังโควิด-19 ได้แก่ การใส่ใจสุขภาพและเวลเนส พื้นที่ใช้สอยที่ใหญ่และสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นได้หลากหลายรูปแบบ บ้านอัจฉริยะ และบริการความช่วยเหลือพิเศษตามความต้องการของลูกบ้านหรือ Concierge Services ซึ่งเกิดจากพฤติกรรมการใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้น ALIYAH RESERVE เป็นโครงการที่ตอบโจทย์เทรนด์ดังกล่าว ด้วยการออกแบบให้มีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่และเป็นพื้นที่ที่ยืดหยุ่นที่สามารถจัดพื้นที่ใช้สอยได้ตามฟังก์ชั่นที่ต้องการ ซึ่งคอนโดมิเนียมไม่ตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าว”
วิลล่าทั้ง 6 ยูนิต ได้รับการออกแบบโดยถอดแบบมาจากสไตล์วิลล่าหรูหลังใหญ่ในยุคเรอเนสซองค์ของอิตาลี ซึ่งห้องรับแขกหลักของตัวบ้านหรือที่เรียกว่า “เปียโน โนบิเล่” (Piano Nobile) อยู่บริเวณชั้นบนของบ้าน มีโซนนั่งเล่นและทานอาหารขนาดกว้าง ล้อมรอบไปด้วยการจัดแลนด์สเคปสีเขียว เปิดมุมมองโปร่งโล่งจากระดับถนน และยกระดับประสบการณ์ของการ พักอาศัยในทุกๆ วัน พร้อมห้องสวีทส่วนตัวสไตล์อพาร์ตเมนต์ภายในบ้านหลังใหญ่และพื้นที่สำหรับสมาชิกในครอบครัวใช้เวลาร่วมกัน ตอบโจทย์การอยู่อาศัยสำหรับทุกเจเนอเรชั่น
มร. ลี กล่าวเสริมว่า “เทรนด์คนรุ่นใหม่ที่ชอบอยู่บ้านมากขึ้น และเทรนด์ครอบครัวใหญ่ที่นิยมพักอาศัยร่วมกับผู้สูงอายุในบ้านหลังเดียวกัน เริ่มพบเห็นมากขึ้นเรื่อยๆ และกลายเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน เราจึงนำเสนอสัมผัสแห่งการพักอาศัยสมัยใหม่และการใช้ชีวิตร่วมสมัยที่ผสมกลมกลืนกันผ่านพื้นที่แห่งการพักอาศัยที่ไม่มีใครเทียบได้ ซึ่งกระตุ้นให้เกิดความเงียบสงบด้วยรายละเอียดและสัมผัสที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ โครงการนี้ได้รับการออกแบบอย่างมีสุนทรียะให้ความเป็นส่วนตัวสำหรับสมาชิกในครอบครัวทุกรุ่น สิ่งที่เรากำลังพัฒนาเป็นสิ่งที่ยังไม่เคยมีในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยมาก่อน”
ด้วยพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ระหว่าง 1,370–1,900 ตารางเมตร บนที่ดินเนื้อที่ 175 ตารางวาไปจนถึงกว่า 200 ตารางวา พร้อม Park Connector กว่า 300 เมตรที่เชื่อมต่อสวนหลังบ้านทุกยูนิต ได้สร้างบรรยากาศของพื้นที่โล่งขนาดใหญ่ และยกระดับประสบการณ์การใช้ชีวิตท่ามกลางความสงบในพื้นที่สีเขียวส่วนตัว เจ้าของยูนิตยังสามารถออกแบบบ้านในสไตล์ของตัวเองให้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่ไม่เหมือนใคร และสามารถนำไลฟ์สไตล์ที่ต้องออกไปใช้นอกบ้าน เช่น การออกกำลังกายในฟิตเนส การทำผม-ทำเล็บ เข้ามาใช้บริการที่บ้าน ด้วยพื้นที่ในบ้านที่จัดสรรไว้ เช่นห้องออกกำลังกาย สำหรับเทรนเนอร์เข้ามาเทรนการออกกำลังกาย หรือพื้นที่สำหรับช่างทำผมและช่างทำเล็บเข้ามาให้บริการถึงที่บ้านได้”
โครงการยังใช้การออกแบบที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ ระบบระบายอากาศ กระจกหน้าต่างแบบ Double Glaze ระบบบังแดด แผงโซลาร์เซลล์ แบตเตอรี่สำหรับเก็บไฟฟ้าที่ได้จากโซลาร์เซลล์ จุดชาร์จรถอีวี วัสดุที่ไม่มีสารระเหยที่เป็นพิษ ระบบเติมอากาศ Outdoor Air Processing Unit (OAU) ระบบปรับอากาศแบบ VRV (Variable Refrigerant Volume) การใช้ความร้อนจากระบบปรับอากาศมาช่วยผลิตน้ำร้อน และระบบกรองอากาศและฝุ่น PM 2.5 เป็นต้น
ไฮไลท์อื่นๆ ของโครงการ ได้แก่ Raffles Reserve Club ซึ่งเป็นเวลเนสบาร์พร้อมบริการความช่วยเหลือส่วนตัวที่บริษัทเป็นผู้บริหารและให้บริการ มีป่าขนาดเล็กในโครงการ บ้านต้นไม้สไตล์โมเดิร์นสำหรับเด็กๆ และห้องพักรับรองแขก นอกจากนี้ ยังมีแอพพลิเคชั่นสำหรับเทคโนโลยีบ้านอัจฉริยะ ทั้งระบบโฮมออโตเมชั่น ตรวจเช็คน้ำรั่วภายในบ้าน ติดตามการใช้ไฟฟ้าและน้ำประปา เช็คสถานะการชาร์จไฟของรถอีวี เช็คแบตเตอรี่สำรอง จองบริการต่างๆ ในพื้นที่ส่วนกลาง และตรวจสอบระบบความปลอดภัยและการเข้าออกของแขกที่มาเยี่ยมบ้าน
“อาลียาห์เป็นภาษาฮิบรูโบราณ แปลว่า ‘ขึ้นสูง’ สะท้อนปรัชญาและที่มาในการก่อตั้งบริษัทของเรา ที่เราจะเอื้อมมือคว้าดวงดาวทุกครั้งที่เราเริ่มโครงการใหม่ เราต้องการนำเสนอสิ่งใหม่ๆ ให้กับเจ้าของบ้านและตลาด ซึ่งไม่ใช่แค่การออกแบบ สถาปัตยกรรม และการวางผังที่มีนวัตกรรมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการก่อสร้างด้วยวัสดุที่ดีที่สุดอีกด้วย เรามุ่งมั่นที่จะเติบโตและก้าวไปสู่อีกระดับ เราจะสร้างสรรค์โครงการด้วยสถาปัตยกรรมอันสวยงามผสมผสานกับความเป็นอยู่ที่ทันสมัย” มร. ลี กล่าว
A10637