- Details
- Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ
- Published: Tuesday, 02 December 2014 07:10
- Hits: 2520
สั่งระงับสร้างคอนโดซอยสายลม กระทบบ้านเรือนปชช.พังเสียหาย
แนวหน้า : นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า เมื่อวันพุธที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมาสมาคมฯ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลางในคดีหมายเลขดำที่ ส.53/2557 ซึ่งเป็นคดีที่สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนกับพวกรวม 22 คน ได้ยื่นฟ้องผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครกับพวกรวม 4 คน เพื่อขอให้ศาลทำการไต่สวนฉุกเฉิน กรณีโครงการก่อสร้างคอนโดมิเนียมในซอยสายลม (พหลโยธิน ซอย 8) หรือโครงการ ดิ เมโมเรีย-พหลโยธิน 8 ได้สร้างผลกระทบกับบ้านเรือนของประชาชนที่อยู่โดยรอบโครงการอย่างมาก จนบ้านเรือนแตกร้าว ทรุดตัว โครงสร้างเสียหายอย่างรุนแรง จนมิอาจอยู่อาศัยต่อไปได้ ต้องหนีไปอยู่อาศัยที่อื่นแทน ซึ่งศาลปกครองได้รับคำร้องและไต่สวนเป็นกรณีฉุกเฉินให้ทันที และปรากฏว่าเมื่อ 18.00 น. ของวันศุกร์ที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา ศาลปกครองกลางได้แจ้งคำสั่งมายังผู้ฟ้องคดีว่า ศาลได้มีคำสั่งให้การคุ้มครองชั่วคราวต่อชาวบ้านในพื้นที่พิพาทกับโครงการคอนโดฯ ดังกล่าวแล้ว โดยศาลได้มีคำสั่ง ดังนี้
1.ให้ผู้ร้องสอดหรือผู้รับจ้างของผู้ร้องสอดระงับการก่อสร้างโครงการ ดิ เมโมเรีย-พหลโยธิน 8 ไว้ก่อนทันที จนกว่าจะแสดงหลักฐานต่อศาลให้เชื่อได้ว่าความเสียหายของตัวอาคารของชาวบ้านและหรือผู้ฟ้องคดี ไม่ได้เกิดจากการก่อสร้างโครงการของผู้ร้องสอด หรือแสดงให้เห็นว่าการก่อสร้างจะไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อขาวบ้านข้างเคียง
2.ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้อำนวยการเขตพญาไท ในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่นตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร ควบคุมตรวจสอบให้ผู้ร้องสอดหรือผู้รับจ้างของผู้ร้องสอดปฏิบัติตามคำสั่งของศาลทันทีและให้รายงานต่อศาลทันทีภายในวันที่ 1 ธันวาคม 2557 ว่าผู้ร้องสอดปฏิบัติตามคำสั่งหรือไม่ อย่างไร
“กรณีดังกล่าวเป็นการยืนยันในสิทธิของชาวบ้านและชุมชนที่ศาลปกครองให้การคุ้มครองตามที่กฎหมายกำหนด และเป็นต้นแบบที่สำคัญที่ต้องฝากไปยังผู้ประกอบการคอนโดมิเนียม หรือเรียลเอสเตรทต่าง ๆ ว่าหากจะดำเนินโครงการใด ๆ ต้องได้รับความเห็นชอบจากชุมชนข้างเคียงโดยรอบเสียก่อน และวิศวกรควบคุมงานก่อสร้างจะต้องเข้มงวดในการก่อสร้างให้เป็นไปตามแบบแปลน ตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด ไม่เช่นนั้น สมาคมฯอาจต้องนำคำสั่งศาลไปยื่นต่อสภาวิศวกรเพื่อถอดถอนใบทะเบียนการประกอบวิชาชีพ เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไปได้”นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด