- Details
- Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ
- Published: Wednesday, 26 November 2014 21:29
- Hits: 2935
แนวโน้มตลาดไฟเบอร์ซีเมนต์ปี’58 โต 10% เฌอร่า มั่นใจโกยรายได้ 5,500 ล้าน
แนวหน้า : นางนิลุบล จิราพัฒนพงศ์ รองผู้อำนวยการบริหารการตลาด กลุ่มมหพันธ์ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายวัสดุไฟเบอร์ซีเมนต์ แบรนด์'เฌอร่า'ครอบคลุมวัสดุก่อสร้างแบบครบวงจร ทั้งหลังคา ฝ้า เพดาน ผนัง งานพื้น รวมถึงงานตกแต่ง ด้วยกำลังการผลิต 1.5 ล้านตันต่อปี เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดรวมผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์ซีเมนต์ในประเทศไทยมีมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท โดยแบรนด์เฌอร่าครองสัดส่วนการตลาดอยู่ที่ 40% หรือประมาณ 4,000 ล้านบาท และคาดว่าในปี 2558 จะเติบโตขึ้นอีก 10% จากการกระตุ้นการลงทุนของภาครัฐ
ทั้งนี้ ในปี 2558 ถือเป็นปีทองที่แต่ละแบรนด์จะช่วงชิงตลาด โดยขึ้นอยู่กับความรวดเร็วในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ที่น่าสนใจตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งปัจจุบันนอกจากการเลือกวัสดุที่คุ้มค่า ทนทาน มีดีไซน์ทันสมัยแล้ว ยังต้องคำนึงถึงความปลอดภัยต่อสุขภาพ รวมถึงใส่ใจผลกระทบที่มีต่อสภาพแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งแบรนด์เฌอร่าสามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี
สำหรับ กลยุทธ์การตลาดของบริษัท แบ่งเป็นในประเทศไทย จะเน้นเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแบบครบวงจร ทั้งการสื่อสารผ่านสื่อและไม่ผ่านสื่อ โดยสร้างการรับรู้ผ่านโฆษณาทางโทรทัศน์ วิทยุ วีทีอาร์ผ่านจอแอลอีดี และบิลบอร์ดใจกลางเมืองทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด หนังสือพิมพ์ และนิตยสารต่างๆ รวมถึงการสร้างโปรดักส์ดิสก์เพลย์และสื่อโฆษณา ณ จุดขายตามร้านค้าวัสดุตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศกว่า 6,000 ร้านค้า และห้างค้าปลีกสมัยใหม่ (โมเดิร์นเทรด) ทั่วประเทศ
โดยกลยุทธ์ดังกล่าว เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสผลิตภัณฑ์จริง รับรู้ถึงการติดตั้งและการใช้งานอย่างถูกวิธี นอกจากนี้เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ยุคดิจิตอล บริษัทจะเปิดตัว SHERA application นำเสนอข้อมูลต่างๆในมุมมองที่น่าสนใจ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจแก่ทุกกลุ่มเป้าหมายในการสร้างที่อยู่อาศัย รวมถึงการทำประชาสัมพันธ์และกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีและทั่วประเทศ แผนการตลาดในประเทศไทยทั้งหมดนี้ จะใช้งบประมาณรวมกว่า 200 ล้านบาท
ส่วนในต่างประเทศ บริษัทมีแผนจะรุกส่งออกไปกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ทั้งทวีปเอเชีย ตะวันออกกลาง แอฟริกา และยุโรป ซึ่งการเปิดตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) นับเป็นปัจจัยบวกต่อแบรนด์เฌอร่า เนื่องจากคาดว่าจะมีการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว เพิ่มมากขึ้น ส่งผลต่อความต้องการขยายตัวของบ้าน โครงการที่อยู่อาศัย ศูนย์การค้า และโรงแรม เพิ่มมากขึ้น และจากภาวะวิกฤติของป่าไม้ในปัจจุบัน ทำให้ทั่วโลกหันมาเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ดังนั้นบริษัทจึงตั้งเป้ารายได้รวมปี 2558 ไว้ที่ประมาณ 5,500 ล้านบาท เติบโต 15%