- Details
- Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ
- Published: Sunday, 23 November 2014 16:45
- Hits: 2570
จี้พัฒนาผังเมืองใหม่ดูแลผู้มีรายได้น้อย เชื่อเศรษฐกิจปีหน้ายังชะลอตัว
แนวหน้า : นายกิตติ พัฒนพงศ์พิบูล ประธานสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย เปิดเผยในงานเสวนาวิชาการประจำปี 2557 เรื่อง 'นโยบายอสังหาริมทรัพย์และการพัฒนาเมือง' จัดโดยมูลนิธิประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทยร่วมกับโรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย ว่า ที่ผ่านมาการวางผังเมืองของไทยค่อนข้างมีปัญหา ทำให้ต้องมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงสำหรับการออกแบบผังเมือง คือ ไม่ได้คำนึงถึงผู้มีรายได้น้อยหรือรายได้ต่ำกว่าเฉลี่ย เพราะปัจจุบันการออกแบบผังเมืองเพียงเพื่อต้องการให้กรุงเทพฯกลายเป็นสวรรค์สำหรับคนรวย โดยไม่ได้มีการแก้ปัญหาคนจนที่อยู่อาศัยตามสลัมต่างๆ
ทั้งนี้ การออกแบบผังเมือง คำนึงถึงรายได้ของคนกรุงเทพฯ และผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ผู้ที่มีที่อยู่อาศัยแล้วได้อยู่สบายขึ้น ดังนั้น ปัญหาการวางผังเมืองของไทย คือ จะทำอย่างไรให้คนจนมีที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ ซึ่งที่ผ่านมามีการหารือร่วมกับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และมีการเขียนผังเมืองใหม่ให้ผู้มีรายได้น้อยมีที่อยู่อาศัย แต่ยังเป็นสัดส่วนที่น้อยเพียง 4-5% ของโครงการ จึงควรมีการแก้ปัญหา โดยให้ผู้ประกอบการนำกำไรมาเพิ่มสัดส่วนให้แก่ผู้มีรายได้น้อย วิธีการนี้จะช่วยลดงบประมาณแผ่นดินได้
นายโสภณ พรโชคชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มูลนิธิประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ไทยจะได้ประโยชน์จากนโยบายอสังหาริมทรัพย์และการพัฒนาเมือง หากมีนโยบายพัฒนาผังเมืองชัดเจนและถูกต้อง จะช่วยการอยู่อาศัยที่หนาแน่นแต่ไม่แออัด พื้นที่ชนบทไม่ถูกทำลาย และช่วยลดงบประมาณของประเทศลงได้ เพราะที่ผ่านมาไทยไม่มีแผนพัฒนาที่ชัดเจน แม้จะมีการพัฒนา แต่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง
ในขณะเดียวกันการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานของไทยเป็นเรื่องดี ส่งผลให้ราคาที่ดินปรับเพิ่มขึ้น แต่ต้องมีการปรับปรุงใหม่ เชื่อมโยงเส้นทางมายังเมืองมากขึ้น รัฐบาลจะได้ประโยชน์จากการจัดเก็บภาษีต่างๆ เพื่อนำมาพัฒนาด้านอื่นๆ ต่อไป
ส่วนภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 9 เดือนแรกปี 2557 พบว่ามีการเปิดตัวโครงการใหม่ 272 โครงการ หรือเฉลี่ยเดือนละ 34 โครงการ รวมเป็นจำนวน 77,626 หน่วย (ยูนิต) มูลค่ารวม 235,515 ล้านบาท ประมาณการทั้งปี 2557 จะมียูนิตที่เปิดตัวใหม่ 105,571 ยูนิต รวมมูลค่า 320,300 ล้านบาท โดยมียูนิตเปิดขายลดลง 20% และมีมูลค่าการพัฒนาลดลง 17% เมื่อเทียบกับปี 2556
สำหรับ ราคาที่ดินรวมถึงราคาบ้านจัดสรรปรับตัวเพิ่มขึ้น 4-5% ทุกปี แต่ในปี 2558 การซื้อขายบ้านและที่ดินอาจมีการฝืดเคืองและลดลงเล็กน้อย เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทยยังไม่ดีมากนัก ขณะเดียวกัน มองว่าเศรษฐกิจปี 2558 มีแนวโน้มชะลอตัว การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์อาจจะมีการฝืดเคืองและยอดขายลดลง เนื่องจากคนไม่มีกำลังซื้อ จึงมองว่ายังไม่มีภาวะฟองสบู่เกิดขึ้นในตลาดอสังหาริมทรัพย์
อย่างไรก็ตาม นโยบายอสังหาริมทรัพย์และการพัฒนาเมืองนั้น อยากให้รัฐบาลสนับสนุนเรื่องการคุ้มครองเงินดาวน์ และการพัฒนาสาธารณูปโภค โดยให้ภาคเอกชนร่วมลงทุนด้วย รวมถึงการพัฒนาที่อยู่อาศัยใจกลางเมืองให้เป็นเมืองใหม่ นำที่ดินของเมืองเก่ามาสร้างเมืองใหม่ เป็นต้น