- Details
- Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ
- Published: Wednesday, 05 January 2022 14:32
- Hits: 43310
FPCT ขยายพอร์ตรีเทลเจาะกลุ่มสตาร์ทอัพ เปิดจองพื้นที่ Silom Edge แซนด์บ็อกซ์ กลางเมืองแห่งเดียวที่เข้าใจทุกธุรกิจหน้าใหม่อย่างแท้จริง
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) หรือ FPCT เผยกลยุทธ์พร้อมแผนธุรกิจรีเทลปี 2565 เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจภายใต้กลุ่มเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย ในปีที่ผ่านมา FPCT ได้ขยายขีดความสามารถในการรองรับดีมานด์ตลาดด้วยแนวคิด Fluid Approach ที่ปรับตัวตามเทรนด์อย่างรวดเร็ว โดยมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ที่สดใหม่ให้แก่ลูกค้า (Customer Experience) การันตีความสำเร็จจากแคมเปญการตลาดที่เกาะกระแสนิยมแบบ Real Time ตลอดทั้งปีของ ‘สามย่านมิตรทาวน์’ จนเป็นหนึ่งในเดสติเนชันที่ต้องมาเช็คอินของคนกรุงเทพฯ สำหรับ ปี 2565 นี้ FPCT เตรียมเดินหน้าสร้างสีสันใหม่ให้แก่วงการธุรกิจรีเทล กับโครงการล่าสุด ‘สีลมเอจ’ (Silom Edge) ที่จะเป็นสังคมแซนด์บ็อกซ์แห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพที่เข้าใจสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการหน้าใหม่อย่างแท้จริง
นางสาวธีรนันท์ กรศรีทิพา รองกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจรีเทล เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) กล่าว “FPCT ต้อนรับศักราชใหม่ด้วยความพร้อมทางด้านกลยุทธ์และแผนงาน พร้อมด้วยทีมงานมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในธุรกิจสายรีเทล ทั้งยังมีฐานลูกค้าจำนวนมากและพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง จึงมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินงานได้ตามโรดแมป เพื่อสร้างการเติบโตให้แก่
บริษัทฯได้อย่างแน่นอน”
FPCT ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยการเนรมิตพื้นที่รีเทลเพื่อสร้างประสบการณ์ผสานแรงบันดาลใจได้ทุกวัน หรือ ‘Inspiring Everyday Experiences’สอดคล้องกับแนวคิดของกลุ่ม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ที่ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หลายหลายประเภททั่วโลก โดยมีธุรกิจรีเทลเป็นหนึ่งในธุรกิจหลักของกลุ่มฯ ครอบคลุม 4 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ ออสเตรเลีย เวียดนาม และ ประเทศไทย ด้วยการผสานประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของ FPCT เข้ากับแนวคิดและเทรนด์การพัฒนาพื้นที่รีเทลของกลุ่มเฟรเซอร์สฯ ทำให้โครงการในพอร์ตโฟลิโอของบริษัทฯมีความแตกต่างจากโครงการของผู้พัฒนารายอื่นๆ สะท้อนได้จากแนวทางการดำเนินงานทั้ง 4 ด้าน ดังนี้
- ลื่นไหลไปกับกระแสนิยมแบบ Real Time (Fluid Approach) การตลาดแบบทันท่วงทีคือหัวใจสู่ความสำเร็จในยุคที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การปลดล็อคข้อจำกัดและรูปแบบการดำเนินงานแบบเดิมๆ ทำให้สามารถเอาชนะใจลูกค้าและทำให้กลับมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง
- กำหนดนิยามใหม่ในการใช้ประโยชน์จากสถานที่ (Redefine Physical Location) ด้วยการพัฒนาพื้นที่ที่เปิดกว้างและยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น โดยมุ่งเน้นการสร้างสเปซให้เกิดประโยชน์กับชุมชนเป็นสำคัญ ส่งเสริมบทบาทศูนย์การค้าที่เป็นเดสติเนชัน
- ยกระดับการใช้เทคโนโลยีในพื้นที่รีเทล (Leverage Digital Technology) เตรียมรองรับการชำระค่าบริการด้วยเงินดิจิทัล เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้แก่ลูกค้า พร้อมยกระดับคุณภาพการบริการด้วยแอพพลิเคชัน MitrCare โดยล่าสุดบริษัทฯได้ร่วมมือกับ KBTG เพิ่มฟังก์ชั่นระบบจัดซื้อ หรือ E-Catalogue อำนวยความสะดวกขั้นสูงสุดให้แก่ร้านค้าตลอด 24 ชั่วโมง
- ส่งเสริมสุขอนามัยของผู้ใช้บริการและป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง (Hygiene and Safety Practice) ตามมาตรการ PREVENTIVE ด้วยการคงความเข้มงวดในการคัดกรองผู้ใช้บริการ ณ จุดตรวจวัดอุณหภูมิ การรักษาระยะห่างอย่างเหมาะสม การบังคับสวมหน้ากาก และการทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคอย่างสม่ำเสมอตามระยะเวลาที่กำหนด
ในปีนี้ บริษัทฯเตรียมรุกขยายพอร์ตรีเทลด้วยโครงการใหม่ล่าสุดบนหัวมุมถนนสีลม ทำเลทองทางเศรษฐกิจ สีลมเอจ (Silom Edge) ที่เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่และสตาร์ทอัพโดยเฉพาะ พร้อมเป็นแพลตฟอร์มให้ทุกธุรกิจเริ่มต้นได้ง่าย ด้วยบริการที่ตอบโจทย์ ครอบคลุมทุกความต้องการ (All Inclusive Services) ปัจจุบันสีลมเอจอยู่ระหว่างการดำเนินการพัฒนาพื้นที่ และจะพร้อมเปิดให้บริการในเดือนกันยายนปีนี้ โดยพร้อมอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการทุกช่วงเวลา ด้วยโซนรีเทลที่ทำการเปิดตั้งแต่ 11:00 น. ถึงเที่ยงคืน และโซนพิเศษ 2 ชั้นแรกที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมรองรับลูกค้าที่ต้องการใช้บริการร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายยา และเครื่องจำหน่ายสินค้าคุณภาพด้วยระบบอัตโนมัติ
“หัวใจสำคัญสู่ความสำเร็จในยุคที่ธุรกิจต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายและ ความไม่แน่นอน คือการทลายทุกข้อจำกัด และเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์อยู่เสมอ ด้วยการปรับกลยุทธ์และแผนการตลาดอย่างทันท่วงที จะทำให้สามารถก้าวข้ามผ่านอุปสรรคไปได้ด้วยดี นอกจากนี้ เรายังปรับการดำเนินธุรกิจแบบ B2B เป็นแบบ Partnership ที่ช่วยให้เราใกล้ชิดกับลูกค้ามายิ่งขึ้น เราจึงเข้าใจถึงปัญหาและความต้องการที่แท้จริง ทำให้สามารถนำเสนอโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ให้แก่ลูกค้าได้เป็นอย่างดี
สำหรับ แผนการดำเนินธุรกิจในปี 2565 เราเชื่อมั่นว่า ธุรกิจของกลุ่มฯ จะสามารถสร้างสีสันให้กับวงการรีเทลด้วยรูปแบบการให้บริการและกิจกรรมทางการตลาดที่น่าจับตามอง ซึ่งการเพิ่มโครงการใหม่อย่างสีลมเอจเข้ามาในพอร์ตรีเทล จะช่วยขยายขีดความสามารถในการรองรับดีมานด์ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มรายได้และกระจายความเสี่ยงให้แก่บริษัทฯอีกด้วย” นางสาวธีรนันท์ เสริม
ภาพรวมการดำเนินงานของศูนย์การค้าในพอร์ตโฟลิโอของ FPCT ในช่วงปีที่ผ่านมา:
สามย่านมิตรทาวน์
ถึงแม้ในปีที่ผ่านมาจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ยืดเยื้อ แต่ FPCT ก็ยังคงรักษาอัตราผู้เช่าไว้ในระดับสูงที่ 98% โดยหลังจากที่รัฐบาลได้ประกาศคลายล็อคดาวน์ โครงการสามย่านมิตรทาวน์ก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า มีจำนวนผู้เข้าใช้บริการในโครงการเพิ่มขึ้นทุกวันเฉลี่ย 55,000 คน/วัน สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจของลูกค้าที่มีต่อมาตรฐานความปลอดภัยของโครงการ ประกอบกับการดำเนินงานเชิงรุก หรือ Fluid Approach ซึ่งเป็นกลยุทธ์ในการดึงดูดทราฟฟิคให้กับศูนย์การค้าฯ เน้นการจับกระแสอย่างรวดเร็ว แล้วลงมือสร้างกิจกรรมทางการตลาดผ่านแคมเปญต่างๆ อย่างทันท่วงที สำหรับปี 65 นี้ สามย่านมิตรทาวน์ ก็ได้เตรียมแคมเปญใหญ่ เรียนทาวน์ เพื่อตอกย้ำการเป็นแหล่งอาหารและการเรียนรู้
สีลมเอจ
โครงการมิกซ์ยูสที่จะเป็นสังคมแซนด์บ็อกซ์แห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพ ภายในโครงการจะประกอบด้วยพื้นที่สำนักงานและรีเทล 7 ชั้น รวมพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร พร้อมโซนเปิดให้บริการถึงเที่ยงคืนทุกวัน เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ไม่ยึดติดกับรูปแบบเดิมๆ รองรับกลุ่มผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพที่ต้องการทดสอบตลาดและวางจำหน่ายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มแซนด์บ็อกซ์ด้านรีเทล ทั้งยังส่งเสริมการทำธุรกรรมในรูปแบบดิจิทัล (Cashless Society) และสนับสนุนการชำระค่าบริการด้วย คริปโตฯ
###
เกี่ยวกับ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) จำกัด
ปัจจุบัน เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ คอมเมอร์เชียล ประเทศไทย มีพื้นที่เชิงพาณิชยกรรมที่อยู่ภายใต้การดูแล รวมทั้งสิ้น 6 อาคาร ได้แก่ อาคารสีลมเอจ อาคารสามย่านมิตรทาวน์ อาคารเอฟวายไอ เซ็นเตอร์ อาคารโกลเด้นแลนด์ และภายใต้ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โกลเด้นเวนเจอร์ (GVREIT) ได้แก่ อาคารสาทรสแควร์ และอาคารปาร์คเวนเชอร์ คิดเป็นพื้นที่รวมกว่า 260,000 ตารางเมตร มีพนักงานของบริษัทฯ ผู้เช่าชั้นนำในประเทศไทยและต่างประเทศกระจายในหลากหลายธุรกิจซึ่งมีผู้ใช้บริการมากกว่า 50,000 คนต่อวัน นับเป็นผู้นำกลุ่มพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชยกรรมลำดับต้นๆ ของประเทศ
เกี่ยวกับ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย” ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีชื่อย่อหลักทรัพย์ “FPT” และเป็นบริษัทในกลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ จากการเข้าซื้อกิจการของบริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวล ลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ “GOLD” ทำให้ปัจจุบัน เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย เป็นผู้นำในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรรายแรกของประเทศไทย ที่มีแพลตฟอร์มด้านอสังหาริมทรัพย์ครอบคลุมประเภทที่อยู่อาศัย พาณิชยกรรม และ อุตสาหกรรม
นอกจากนี้ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย ยังเป็นผู้สนับสนุนและผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ หรือ FTREIT อีกทั้งยังเป็นผู้สนับสนุนและผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โกลเด้นเวนเจอร์ หรือ GVREIT เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชยกรรม ทั้งนี้ FPT, FTREIT และ GVREIT เป็นบริษัทและกองทรัสต์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู www.frasersproperty.co.th
เกี่ยวกับบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด (‘เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้’ หรือ ‘กลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้’) เป็นบริษัทข้ามชาติที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศสิงคโปร์ (SGX-ST) ซึ่งมีแนวทางการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทั้งการเป็นเจ้าของ ผู้พัฒนา และผู้บริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์หลากหลายประเภทแบบครบวงจร โดยมีมูลค่าทรัพย์สินรวมประมาณ40.3 พันล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ (ณ วันที่ 30 กันยายน 2564)
สินทรัพย์ของเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ครอบคลุมอสังหาริมทรัพย์5 ประเภท ประกอบด้วย อสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย อสังหาริมทรัพย์ประเภทศูนย์การค้าและพื้นที่เชิงพาณิชยกรรมและโรงแรม รวมถึงบิสซิเนส พาร์ค และอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ กลุ่มธุรกิจดำเนินงานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ออสเตรเลีย ยุโรป และจีน
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเป็นเจ้าของ และ/หรือเป็นผู้บริหารจัดการเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์และโรงแรมมากกว่า70 เมือง ใน 20 ประเทศ ทั่วทั้งในทวีปเอเชีย ออสเตรเลีย ยุโรป ภูมิภาคตะวันออกกลาง และแอฟริกา ทั้งนี้กลุ่มบริษัทฯ มีความมุ่งมั่นเดียวกันในการส่งมอบประสบการณ์ที่มีคุณค่า และน่าจดจำให้แก่ลูกค้า และผู้ถือหุ้น โดยอาศัยความรู้ และความสามารถจากทุกตลาดและภาคอสังหาริมทรัพย์ เพื่อส่งมอบคุณค่าในสินทรัพย์ที่หลากหลายที่มีอยู่
ข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู www.frasersproperty.comหรือติดตามบริษัทฯ ได้ที่LinkedIn