- Details
- Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ
- Published: Monday, 20 October 2014 23:42
- Hits: 3185
อรรจอศิราฯเปิดเกมรุกธุรกิจอสังหา หยิบแลนด์แบงก์ 4 ไร่ที่หัวหิน ผุดโครงการแรก The Bibury
แนวหน้า : นายอรรจอศิรา เข็มกลัด กรรมการผู้จัดการ บริษัท อรรจอศิรา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนมีประสบการณ์จากการเป็นนายหน้าซื้อขายที่ดินกับครอบครัว และพัฒนารีสอร์ท-วิลล่า ร่วมกับเพื่อน ภายใต้แบรนด์ 'เดอะ ไฮด์อะเวย์ รีสอร์ท หัวหิน'และเมื่อไปดูงานที่เมืองไอเบอรี่ ประเทศอังกฤษ ที่มีความสวยงามด้านสถาปัตยกรรม ตนจึงเกิดแรงบันดาลใจในการนำที่ดินสะสมที่หัวหิน พื้นที่ 4 ไร่ พัฒนาโครงการเองเป็นโครงการแรก ด้วยการตั้งบริษัท อรรจอศิรา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ทุนจดทะเบียน 250 ล้านบาท
โดยพัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์ The Bibury Hau Hin ในรูปแบบคอนโดมิเนียม สูง 7 ชั้น จำนวน 1 อาคาร ขนาด 35.1 ตารางเมตร และคอนโดเทล สูง 4 ชั้น จำนวน1 อาคาร ขนาด41.5 ตารางเมตร จำนวน 160 หน่วย (ยูนิต) ราคาขายเริ่มต้นที่ 80,000 บาทต่อตารางเมตร หรือ 2.7 ล้านบาทขึ้นไป มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท ใช้งบในการลงทุน 200 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินทุนส่วนตัว คาดว่าจะเปิดการขายในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายคนไทยในสัดส่วน 70% และชาวต่างชาติ 30% ขณะนี้อยู่ระหว่างคัดเลือกบริษัทที่จะมาบริหารการขาย โดยในส่วนของคอนโดเทลจะการันตีรายได้ 18% ภายในระยะเวลา 3 ปี ด้านการก่อสร้างนั้น คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2559
ทั้งนี้ ปัจจุบันราคาที่ดินที่หัวหินมีการปรับตัวสูงขึ้นมาก โดยที่ดินที่อยู่ติดทะเลจะมีราคาสูงตั้งแต่ 80 ล้านบาทต่อไร่ขึ้นไป ที่ดินที่อยู่ฝั่งเดียวกับทะเลแต่ไม่ติดทะเล ราคาขายเริ่มต้นตั้งแต่ 60 ล้านบาทต่อไร่ขึ้นไป ที่ดินฝั่งภูเขา ราคาขายอยู่ที่ 20-60 ล้านบาทต่อไร่ แต่ถ้าที่ดินแปลงใดมีขนาดใหญ่ แม้จะติดถนนเพชรเกษมและทะเล ก็จะค่อนข้างปล่อยขายยาก สุดท้ายต้องปรับลดราคาขายลง เมื่อเทียบกับที่ดินแปลงเล็กและทำเลดีจะขายได้ราคาดีกว่า
“หัวหินเป็นเมืองที่คนวัยเกษียณอายุมีความต้องการอยู่อาศัยมากเป็นอันดับ 7 ของโลก และยังเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักที่สงบ หากซื้อที่อยู่อาศัยในหัวหินจะมีความคุ้มค่ามาก เพราะราคาที่ดินนับวันจะมีมูลค่าสูงมากขึ้น”นายอรรจอศิรา กล่าว
สำหรับ แผนการลงทุนในระยะ 5 ปีนับจากนี้ บริษัทมีเป้าหมายสร้างแบรนด์ “อรรจอศิรา” ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น รวมทั้งพัฒนาโครงการใหม่ๆออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งโครงการแนวราบและแนวสูง ทั้วในกรุงเทพฯและหัวเมืองท่องเที่ยวสำคัญของประเทศ โดยในปี 2558 มีแผนจะพัฒนาโครงการแนวราบในต่างจังหวัด เช่น หัวหิน และบริเวณแม่น้ำแควน้อย จ.กาญจนบุรี แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
ทั้งนี้ การหันมาพัฒนาโครงการแนวราบ ก็เพื่อเสริมรายได้ให้โครงการแนวสูง และมีเงินทุนหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง โดยช่วงไตรมาส 3 ปี 2558 บริษัทมีแผนจะเข้ามาพัฒนาโครงการตามแนวรถไฟฟ้าสายปัจจุบันและในอนาคต ขณะนี้กำลังมองหาที่ดิน ซึ่งเตรียมงบในการซื้อที่ดินไว้ไร่ละไม่เกิน 40 ล้านบาท