- Details
- Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ
- Published: Tuesday, 24 March 2020 08:17
- Hits: 5326
URBANA Pre-Sales'ศุภาลัย เออร์บานา เเจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด'มาร่วมสวิทช์ชีวิตให้สนุกทุกวัน กับงานทาวน์โฮมที่ต่อติดที่ชีวิตเมือง 28 - 29 มี.ค. นี้
บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) โดย นางสาวธัญวรัตน์ ปัญญารัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาดและการขาย และนายชัยจักร วทัญญู ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายสร้างสรรค์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ ขอเชิญร่วมงาน Pre-Sales โครงการใหม่ล่าสุด'ศุภาลัย เออร์บานา เเจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด'ทาวน์โฮม 3 ชั้น รูปแบบใหม่ ชูแนวคิด ‘Living Urban Life’ เปลี่ยนที่อยู่อาศัยแบบเดิมๆ สู่ความท้าทายใหม่ๆ สามารถออกแบบพื้นที่อเนกประสงค์ได้ตามไลฟ์สไตล์ สะท้อนภาพลักษณ์การใช้ชีวิต ของคนรุ่นใหม่ ราคาเริ่มต้น 3.49 ล้านบาท
ผู้ที่สนใจสามารถจับจองเป็นเจ้าของภายในงาน Pre-Sales ในวันที่ 28-29 มี.ค. 63 นี้ พร้อมรับส่วนลด รวมมูลค่าสูงสุดกว่า 120,000 บาท และของรางวัลพิเศษมากมายภายในงานเท่านั้น (เงื่อนไขตามที่บริษัทฯกำหนด) ณ สำนักงานขายโครงการ ทั้งนี้ บริษัทตระหนักถึงความปลอดภัยของลูกค้าเป็นสำคัญ ยกระดับมาตรการเพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกค้าอย่างเข้มงวด โดยจัดเตรียมเจลล้างมือแอลกอฮอล์ที่ ได้มาตรฐาน บริการแก่ลูกค้าที่เข้าชมโครงการ การตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าสำนักงานขาย รวมไปถึงพนักงานที่ให้บริการลูกค้า จะสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ปฏิบัติงาน สอบถามข้อมูล โทร.1720 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.supalai.com/URBANA
ศุภาลัย เผยผลประกอบการปี 62 เร่งรุกตลาดอสังหาฯ พร้อมปักหมุดทำเลศักยภาพอย่างต่อเนื่อง
บมจ.ศุภาลัย เผยตัวเลขผลประกอบการปี 2562 รายได้รวม 23,957 ล้านบาท และกำไร 5,403 ล้านบาท เร่งรุกตลาดอสังหาฯ ปี 2563 ทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียม พร้อมปักหมุดทำเลศักยภาพ ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ รองรับความต้องการของผู้บริโภค เพื่อเดินหน้าผลักดันยอดขาย สู่ 26,000 ล้านบาท
ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลประกอบการของบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย ในปี 2562 ที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จและอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ซึ่งภาพรวมของธุรกิจในปีที่ผ่านมามีปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัว แต่บริษัทฯ ยังสามารถทำยอดขายได้กว่า 22,324 ล้านบาท โดยเป็นคอนโดมิเนียม 38% และแนวราบ 62% จากการเปิดตัวโครงการ ทั้งหมด 24 โครงการ แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 19 โครงการ และโครงการคอนโดมิเนียม 5 โครงการ
โดยบริษัทสามารถ ทำรายได้รวม 23,957 ล้านบาท ลดลง 7% เมื่อเทียบกับปี 2561 และมีกำไรสุทธิ 5,403 ล้านบาท ลดลง 6% เนื่องจากจำนวนโครงการที่เปิดตัวลดลงและมาตรการ LTV ใหม่ ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2562 ซึ่งรายได้หลักมาจากการทยอยส่งมอบคอนโดมิเนียมและแนวราบ โครงการต่างๆ แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สินทรัพย์เติบโตขึ้น 5% ส่วนของผู้ถือหุ้น เติบโต 9% โดยมีอัตราหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของ ผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 34% ส่วนต้นทุนการเงินที่อัตราเฉลี่ย 2.31% ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2562 และมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ประมาณ 38,655 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2562 เพื่อรองรับการเติบโตด้านรายได้ของบริษัทในอนาคต (Ref : http://investor-th.supalai.com/slides.html)
จะเห็นได้ว่าสถานะของบริษัทฯ มีความมั่นคงแข็งแรงยิ่งขึ้น และมีความเสี่ยงทางการเงินลดลง เพราะมีหนี้สินลดลง และค่าใช้จ่ายทางการเงินลดลง แต่ส่วนของผู้ถือหุ้นกลับเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันก็มีการกระจายการเติบโตไปในทำเลต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นทั้งการเพิ่มศักยภาพการเติบโต และการกระจายความเสี่ยงไปด้วย
สำหรับ ภาพรวมของธุรกิจอสังหาฯ ในจังหวัดนครราชสีมา ปัจจุบันบริษัทฯ ได้เข้าไปลงทุนอสังหาฯ ในจังหวัดอย่างต่อเนื่องรวม 5 โครงการ อาทิ ศุภาลัย การ์เด้นวิลล์ นครราชสีมา, ศุภาลัย เบลล่า นครราชสีมา, ศุภาลัย วิลล์ นครราชสีมา, ศุภาลัย พรีโม่ สุรนารี และ โนโว วิลล์ สุรนารี และโครงการที่ 6 ล่าสุดอย่าง “ศุภาลัย พรีมา วิลล่า นครราชสีมา” คฤหาสน์หรู Modern Luxury Style ตั้งอยู่บนพื้นที่โครงการกว่า 56 ไร่ มูลค่าโครงการ 1,250 ล้านบาท โดดเด่นด้วยทำเลศักยภาพ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน นอกจากนี้ยังมีที่ดินเปล่าที่ซื้อมาแล้ว ที่คอยการพัฒนาอีก 3 แปลง ซึ่งจะพัฒนาต่อเนื่องในปีต่อๆ ไป
สำหรับทิศทางในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในจังหวัดนครราชสีมา ยังคงมุ่งเดินหน้าพัฒนาโครงการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเล็งเห็นถึงศักยภาพที่มีโอกาสเติบโตของจังหวัด โดยเฉพาะ ด้านการคมนาคม ที่มีการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-นครราชสีมา และสายรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-หนองคาย-ลาว ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงสร้างพื้นฐาน ภายใต้แผนกระตุ้นเศรษฐกิจ สามารถเชื่อมต่อการคมนาคมขนส่งระหว่างภาคต่างๆ ได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งยังมีความสำคัญต่อการพัฒนาพื้นที่ นำไปสู่การเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งของภูมิภาคได้ต่อไป
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงภาพรวมตลาดอสังหาฯ ในปีที่ผ่านมา เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว อีกทั้งผลกระทบจากมาตรการ LTV ในช่วงแรกของปี ส่งผลให้ผู้บริโภคและนักลงทุนชะลอการตัดสินใจซื้ออสังหาฯ แต่ขณะเดียวกันก็ยังมี ปัจจัยบวกในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้ภาพรวมของตลาดอสังหาฯ กลับมามีแนวโน้มที่ดีขึ้น เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง นโยบายผ่อนปรนมาตรการ LTV การลดค่าจดจำนอง โครงการบ้านดีมีดาวน์ เป็นต้น
สำหรับ ปี 2563 บริษัทฯ มุ่งมั่นพัฒนากลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ เพื่อผลักดันยอดขายให้สู่เป้าหมาย ที่ตั้งไว้ โดยตั้งเป้าหมายยอดขาย 26,000 ล้านบาท และเป้าหมายรายได้ 24,000 ล้านบาท
จากการเปิดตัวโครงการใหม่ 30 โครงการ แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 25 โครงการ และโครงการ คอนโดมิเนียม 5 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวม 30,000 ล้านบาท พร้อมรุกเปิดตลาดอสังหาฯ ในจังหวัดใหม่ๆ เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค พร้อมด้วยทำเลศักยภาพ อาทิ พระนครศรีอยุธยา พิษณุโลก และฉะเชิงเทรา เพื่อครอบคลุมความต้องการของผู้บริโภคทั่วทุกภูมิภาค สำหรับในกรุงเทพฯ ปริมณฑล ทำเลที่น่าสนใจยังเป็นส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าที่สร้างเสร็จแล้ว ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีมากขึ้น และรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้างอย่างสายสีเหลือง สีชมพู และสีส้ม ที่มีโอกาสเติบโตในทิศทางที่ดี เนื่องจากมีความต้องการของที่อยู่อาศัยสูงพร้อมมุ่งพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่มากขึ้น รวมไปถึงการพัฒนารูปแบบการซื้อที่ดินสำหรับพัฒนาโครงการใหม่ในอนาคตของบริษัท
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web