- Details
- Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ
- Published: Monday, 06 October 2014 23:33
- Hits: 2853
รับสร้างบ้าน'ติดลบ'พีดีเฮ้าส์หั่นรายได้เหลือ 1.7 พันล้าน
ไทยโพสต์ : วังน้ำเขียว * ‘พีดีเฮ้าส์’ คาดตลาดรับสร้างบ้านไตรมาส 4 ทรงตัว ฉุดทั้งปีติดลบ 8-10% ปรับเป้ารายได้ใหม่ เหลือ 1.6-1.7 พันล้านบาท เล็งรุกภูธรเพิ่มอีก 10 จังหวัด ให้ครบ 43 สาขา
นายสิทธิพร สุวรรณสุต ประ ธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีดี เฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดรับสร้างบ้านในช่วง ไตรมาส 4 คาดว่าจะอยู่ในภาวะ ทรงตัว เนื่องจากภาพรวมเศรษฐ กิจปีนี้ที่ชะลอตัวต่อเนื่อง ทั้งนี้คาด การณ์ว่าจะมีอัตราการเติบโตติด ลบ 8-10% หรือมีมูลค่าตลาดประ มาณ 13,500 ล้านบาท เปรียบเทียบจากปีที่ผ่านมาที่มีมูลค่าตลาดรวม 15,000 ล้านบาท
"ทิศทางของตลาดรับสร้างบ้านปีนี้ดูไม่ค่อยหวือหวา เนื่องจากหลายปัจจัยที่ทำให้ความต้องการในการสร้างบ้านเองของผู้บริโภคลดน้อยลง ที่เห็นได้ชัด น่าจะเป็นของภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่ยังคงผันผวน ในส่วนของไทยเอง ภาพรวมเศรษฐกิจยังไม่มีความแน่ชัด เพราะเพิ่งได้รัฐบาลใหม่ คงต้องมารอลุ้นช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้าว่าเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวได้มากน้อยแค่ไหน" นายสิทธิพรกล่าว
สำหรับ ผลดำเนินงานในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายแล้วกว่า 1,300 ล้านบาท จากเป้าหมายที่วางไว้ 2,000 ล้านบาท แต่ด้วยภาพรวมเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวมาก และความไม่มั่นใจของผู้ บริโภคทำให้ยอดขายชะลอตัว บริษัทจึงมีการปรับยอดขายใหม่เหลือ 1,600-1,700 ล้านบาท
สำหรับ แผนดำเนินงานในปีนี้ บริษัทเตรียมขยายตลาดต่างจัง หวัดเพิ่มมากขึ้นอีกกว่า 10 จังหวัด โดยตั้งเป้าเปิดสาขาให้ครบ 43 สาขา ซึ่งสาขาใหม่ที่เปิดให้บริการแล้ว ประกอบด้วย สาขาสุพรรณบุรี ลำปาง ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ บุรีรัมย์ มุกดาหาร ประจวบคีรีขันธ์ และเลย ทั้งนี้ มั่นใจว่าการที่บริษัทรุกสาขาในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น จะช่วยให้การเข้าถึงกำลังซื้อและความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มใหม่ๆ ได้มากขึ้น และมั่นใจว่าจะ สามารถเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด พร้อมลดความเสี่ยงในภาวะที่มีการแข่งขันที่รุนแรงอีกด้วย
อย่างไรก็ดี ช่วงระยะเวลาที่เหลืออีก 3 เดือนของปีนี้ บริษัทจะยังเน้นกลยุทธ์การเข้าถึงและเจาะกลุ่มกำลังซื้อใหม่ๆ เป็นหลัก รวมทั้งยังได้จัดโปรโมชั่นลุ้นรับรางวัลส่วนลดเงินสดสูงสุด 40% ของราคาบ้าน และรางวัลอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อและการตัดสินใจของผู้บริโภคในไตรมาส 4 นี้
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนขยายสาขาไปยังกลุ่มประเทศอา เซียน ซึ่งหลังจากเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ปี 2558 บริษัทมีแผนจะรุกขยายสาขาไปยังจังหวัดชายแดน รวมทั้งขยายไปยังประเทศพม่าและกัมพูชา ในรูปแบบการร่วมทุนกับพันธมิตรท้องถิ่น หรือในรูปแบบการขายแฟรนไชส์.