- Details
- Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ
- Published: Saturday, 04 October 2014 07:41
- Hits: 2965
การเคหะแห่งชาตินำร่องสิงห์บุรีสร้างบ้านกลางที่พักให้ผู้สูงอายุ
บ้านเมือง : พล.ท.สุชาติ หนองบัว กรรมการการเคหะแห่งชาติและประธานคณะอนุกรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดี และความรับผิดชอบต่อสังคม เปิดเผยถึงทิศทางของโครงการปรับปรุงที่อยู่อาศัยผู้สูงอายุรายได้น้อยและผู้ยากไร้ หรือโครงการบ้านสบาย เพื่อยายตา ว่า การเคหะแห่งชาติพยายามตอบโจทย์สังคมไทยที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) ซึ่งมีสัดส่วนผู้สูงอายุมากกว่า 10% ของจำนวนประชากรแล้ว โดยดำเนินการในลักษณะโครงการนำร่องกระจายทั่วประเทศ จากนั้นส่งไม้ต่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เช่น เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ดูแลงานด้านที่อยู่อาศัยผู้สูงอายุในพื้นที่โดยตรง
แนวทางการดำเนินงาน จะเน้นทำงานร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรมากขึ้น นอกเหนือจาก อปท.แล้ว ยังมีส่วนราชการอื่นๆ ด้วย โดยเฉพาะหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุขที่ดูแลสุขภาพผู้สูงอายุเป็นประจำอยู่แล้ว หรือแม้กระทั่งภาคเอกชนที่จะสนับสนุนด้านเงินทุน หรือวัสดุก่อสร้าง
ส่วนงานออกแบบปรับปรุงที่อยู่อาศัยผู้สูงอายุ ขณะนี้ได้ร่วมมือกับคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ของ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิตในการสำรวจข้อมูล และออกแบบปรับปรุงที่อยู่อาศัยผู้สูงอายุ ในเริ่มในโครงการบ้านสบายเพื่อยายตา ในเขตเทศบาลถอนสมอ อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี ซึ่งมีผู้สูงอายุมากถึง 25% ของจำนวนประชากร โดยมีอาจารย์จากสถาบันฯ และสถาปนิกของการเคหะแห่งชาติร่วมเป็นที่ปรึกษา
พร้อมทั้งระบุว่า ปัญหาที่น่ากังวลคือ ผู้สูงอายุที่ไร้ที่อยู่อาศัย หรือมีที่อยู่อาศัยในพื้นที่บุกรุก ซึ่งการเคหะแห่งชาติไม่อาจเข้าไปดำเนินการช่วยเหลือได้ จึงได้วางแผนร่วมกับเทศบาลถอนสมอ จ.สิงห์บุรี จัดหาที่ดินเพื่อก่อสร้างบ้านกลางขึ้นเป็นแห่งแรกในประเทศไทย สำหรับให้ผู้สูงอายุที่มีปัญหาได้รับสิทธิเข้าไปอยู่อาศัยจนกว่าจะเสียชีวิต แล้วจึงเลือกรายอื่นหมุนเวียนเข้าไปอาศัยแทนต่อไป
"ขณะนี้เทศบาลถอนสมอ กำลังอยู่ในกระบวนการจัดหาที่ดิน เพื่อเตรียมให้การเคหะฯ เข้าไปก่อสร้างบ้านกลาง คาดว่าจะเริ่มลงมือได้ในปี 2558" พล.ท.สุชาติกล่าว
การเคหะแห่งชาติ ดำเนินโครงการบ้านสบายเพื่อยายตาในพื้นที่เทศบาล ต.บางตะบูน อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี เป็นแห่งแรก เมื่อปี 2554 จากนั้นขยายโครงการไปสู่พื้นที่หลายจังหวัด เช่น เชียงใหม่ อำนาจเจริญ ระยอง สงขลา เป็นต้น ขณะนี้มีบ้านผู้สูงอายุได้รับการปรับปรุงและสร้างใหม่จำนวน 106 หลัง