- Details
- Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ
- Published: Tuesday, 24 September 2019 11:19
- Hits: 3647
SCC ยกระดับกลุ่มซีเมนต์-วงการก่อสร้าง ชูนวัตกรรมแก้ปัญหาลูกค้าครบวงจร ผนวกดิจิทัลเทคโนโลยีตอบโจทย์ศก.หมุนเวียน
นายชนะ ภูมี Vice President Cement and Construction Solution Business ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) หรือ เอสซีจี กล่าวว่า เอสซีจี ร่วมมือกับพันธมิตรทุกส่วนส่งมอบนวัตกรรมการก่อสร้างครบวงจร'CPAC Construction Solution' ให้ลูกค้าได้งานคุณภาพ-สร้างเสร็จไว คุมงบประมาณได้ พร้อมกับผนวกเทคโนโลยีดิจิทัลช่วยลดของเสียในงานก่อสร้างตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน ด้วยการยกระดับกระบวนการทำงานของกลุ่มธุรกิจซีเมนต์และโซลูชั่นการก่อสร้าง (Cement and Construction Solution Business) โดยอาศัยเครือข่ายความร่วมมือที่เข้มแข็งทั้งในระดับท้องถิ่นถึงระดับประเทศ เพื่อยกระดับวงการก่อสร้างไทยให้เป็นสังคมรุ่งเรือง (Wealth Community) ที่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายตลอดห่วงโซ่คุณค่าได้รับประโยชน์และเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน
รวมทั้งเกิดสังคมสีเขียว (Green Society) ที่มีการบริหารจัดการทรัพยากรในการก่อสร้างทั้งวัตถุดิบ คน งบประมาณ และเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดผลประโยชน์ที่จับต้องได้ในเชิงคุณค่าทางเศรษฐกิจ ผ่านกลยุทธ์ 3 ด้าน คือ การใช้ Construction Solution Technology ตอบโจทย์ความต้องการและการแก้ปัญหาให้ลูกค้า การนำเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น BIM มาช่วยตอบโจทย์การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าสูงสุด และการตั้งศูนย์รวมความเชี่ยวชาญ "CPAC Solution Center"
กลยุทธ์แรกในการยกระดับกระบวนการทำงาน ประกอบด้วย การใช้ Construction Solution Technology ตอบโจทย์ความต้องการและการแก้ปัญหา ให้ลูกค้าเจ้าของงานทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งช่าง ผู้รับเหมา บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทั้งรายใหญ่และรายย่อย และผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ ได้อย่างครบวงจร มีประสิทธิภาพ และได้มาตรฐานสูงสุด โดยซีแพค (CPAC) ในธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี ได้ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตร นำเทคโนโลยีและเครื่องมือการบริการที่ล้ำสมัยและได้มาตรฐานสากล เช่น เทคโนโลยีการออกแบบ การตรวจสอบโครงสร้าง และการขนส่ง ผนวกกับสินค้าคุณภาพสูง และความรู้ความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมานาน มาพัฒนาเป็นโซลูชั่นใหม่ๆ ในการก่อสร้างที่ครบวงจร ภายใต้ชื่อ "CPAC Construction Solution"
ตัวอย่างโซลูชั่นสำหรับกลุ่มเจ้าของบ้าน ช่าง และผู้รับเหมารายย่อย ที่นำสินค้าคุณภาพพร้อมทีมช่างมืออาชีพซึ่งได้รับการเสริมศักยภาพจากซีแพคให้มีความรู้และความชำนาญไปให้บริการ อีกทั้งยังสร้างความสบายใจให้เจ้าของบ้านด้วยการติดตั้งกล้องวงจรปิดที่สามารถติดตามการทำงานของทีมช่างได้ตลอดเวลา ตั้งแต่โซลูชั่นงานพื้น ที่ให้บริการเท ปาด ขัด โซลูชั่นเสาและคาน ที่ช่วยเสริมการก่อสร้างให้แข็งแรงขึ้น ด้วยระบบเสาและคานสำเร็จรูป โซลูชั่นผนังสำเร็จรูป ที่ให้บริการฉาบ รวมทั้งยังพัฒนาเป็นโซลูชั่นอื่นๆ ตามความต้องการของลูกค้า เช่น โซลูชั่นสำหรับฟาร์มปศุสัตว์ ที่ให้บริการออกแบบและให้คำปรึกษาการก่อสร้างโรงเรือนที่ได้มาตรฐาน สร้างเสร็จเร็ว และคุมงบได้ด้วยวัสดุก่อสร้างแบบสำเร็จรูป
ส่วนโซลูชั่นสำหรับผู้รับเหมาและบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ เช่น โซลูชั่นสำหรับงานโครงสร้างขนาดใหญ่ เช่น งานก่อสร้างพื้นไร้คานสำหรับสถานีรถไฟฟ้า หรืองานหล่อคานสำหรับสะพาน ที่ให้บริการออกแบบ การจัดหาวัสดุ การควบคุมการผลิต รวมถึงการติดตั้ง โซลูชั่นซ่อมแซมหรือยืดอายุสิ่งก่อสร้าง เช่น โครงสร้างอาคาร โรงงาน สะพาน หรือท่าเทียบเรือ และโซลูชั่นงานฐานรากใต้พื้นดิน ที่ให้บริการออกแบบระบบงานดินและระบบระบายน้ำเพื่อลดเวลาการก่อสร้าง รวมทั้งการแก้ปัญหาอื่นๆ ตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งเหมาะกับพื้นที่ภาคกลางที่มีการทรุดตัวของดินสูง
นอกจากนี้ อีกหนึ่งปัญหาสำคัญในการก่อสร้าง คือ การเกิดของเสีย (Waste) จำนวนมาก โดยเฉพาะการสำรองปริมาณวัสดุก่อสร้างเกินความจำเป็น ที่นำมาซึ่งการสูญเสียทรัพยากรวัตถุดิบ แรงงานคน เวลา และงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์ เอสซีจี จึงนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนมาประยุกต์ใช้ด้วย
กลยุทธ์ที่สอง การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยตอบโจทย์การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าสูงสุด เช่น การใช้ BIM (Building Information Modeling) ซึ่งเป็นโมเดล 3 มิติ ที่รวมแบบสถาปัตย์ โครงสร้าง และงานระบบเข้าด้วยกัน ในการออกแบบก่อสร้างอาคารตั้งแต่เริ่มต้น ทำให้สามารถวางแผนสั่งวัสดุต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ และสามารถตรวจสอบตำแหน่งหรือความผิดพลาดในจุดต่างๆ ผ่านโมเดลได้ก่อนลงมือสร้างจริง จึงช่วยลดของเสียจากการเผื่อวัสดุ ประหยัดพื้นที่จัดเก็บ เวลา และต้นทุนการก่อสร้าง รวมถึงการนำวัสดุเหลือใช้ในงานก่อสร้าง เช่น เศษคอนกรีต หมุนเวียนกลับมาเป็นวัตถุดิบในกระบวนการผลิตอีกครั้ง ทำให้ของเสียกลายมาเป็นประโยชน์ที่เกิดกับทุกฝ่าย (From Waste to Wealth)
กลยุทธ์ที่สาม การตั้ง 'CPAC Solution Center' เป็นศูนย์รวมที่คนในวงการก่อสร้างแต่ละจังหวัดสามารถมาแลกเปลี่ยนความรู้ วิธีบริหารงานก่อสร้าง รวมถึงหาโซลูชั่นต่างๆ ในพื้นที่ ซึ่งซีแพคจะช่วยเชื่อมโยงนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีจากผู้เกี่ยวข้องมาแก้ไขปัญหาต่างๆ ในงานก่อสร้างให้อย่างมีประสิทธิภาพและครบวงจร ด้วย "CPAC Construction Solution" โดยได้เปิด CPAC Solution Center แห่งแรกที่เชียงใหม่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา พร้อมตั้งเป้าเปิดครบ 9 สาขา ทั้งเชียงใหม่ ขอนแก่น พิษณุโลก ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี อุบลราชธานี พัทยา นนทบุรี และนครปฐม ในสิ้นปี 2562 ก่อนขยายเป็น 20 สาขาทั่วประเทศ ในปี 2563 โดยหวังขยายเครือข่ายช่างและผู้รับเหมาท้องถิ่นจาก 2,000 คน เป็น 20,000 คน ในปี 2563 เพื่อเกิดประโยชน์กับวงการก่อสร้างไทยอย่างยั่งยืนต่อไป
Click Donate Support Web