- Details
- Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ
- Published: Thursday, 15 August 2019 23:15
- Hits: 3476
ศุภาลัย เผยผลงานครึ่งปี 62 ปลื้มแคมเปญ ครบรอบ 30 ปี กระแสตอบรับดีเยี่ยมพร้อมลุยเปิดโครงการใหม่ รุกตลาดอสังหาฯ ครึ่งปีหลัง
บมจ.ศุภาลัย เผยผลประกอบการครึ่งปีแรก2562 เปิดตัวโครงการทั้งแนวราบและคอนโดฯ อย่างต่อเนื่อง ปลื้มแคมเปญครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี ‘ศุภาลัย ใจดี ครบรอบ 30 ปี แจก 30 ล้าน’ สร้างความประทับใจแก่ลูกค้า พร้อมลุยเปิดโครงการใหม่ 21 โครงการ มูลค่า 20,240 ล้านบาท รุกตลาดอสังหาฯ ครึ่งปีหลัง เพื่อผลักดันให้ทะลุเป้ายอดขาย 35,000 ล้านบาท
ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ที่ผ่านมาบริษัทฯ มุ่งมั่นพัฒนาและสร้างสรรค์นวัตกรรมที่อยู่อาศัย เพื่อยกระดับมาตรฐานความเป็นอยู่ของประชาชนด้วยมาตรฐานสากล (ISO) และปีนี้เป็นปีที่บริษัทฯ ฉลองครบรอบ 30 ปี ได้เปิดตัวโครงการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ คือ’ศุภาลัย ไอคอน สาทร’Landmark แห่งใหม่ ใจกลางสาทร อาณาจักรแห่งความสุขและความสำเร็จ ด้วยการดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ทั้งยังตอกย้ำความสำเร็จของนวัตกรรมประหยัดพลังงาน กับรางวัล ‘ฉลากแบบอาคารอนุรักษ์พลังงาน 2562’ ระดับดีมาก ประเภทอาคารชุดจากกระทรวงพลังงาน (BEC Awards 2019) รางวัลโครงการอสังหาริมทรัพย์ดีเด่น FIABCI - Thai Prix D' Excellence Awards ประเภท Residential Condominium จัดโดย สมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์สากล อีกทั้งรางวัล’Certificate Of ESG 100 Company’ ประจำปี 2562 จาก ESG Rating จากสถาบันไทยพัฒน์ ที่ได้รับรางวัลดังกล่าว ต่อเนื่องเป็น ปีที่ 4
บริษัทฯ ได้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และตอบสนองไลฟ์สไตล์ของครอบครัวยุคใหม่ ทั้งในด้านคุณภาพและราคา อาทิ เทคโนโลยี เพื่อความปลอดภัยและสะดวกสบาย อย่าง Home Automation และการเล็งเห็นถึงความสำคัญของที่อยู่อาศัยที่คำนึงถึงความสะดวกสบายของทุกเพศทุกวัย (Universal Design) โดยนวัตกรรมต่างๆนั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งของนวัตกรรมที่ศุภาลัยมุ่งมั่นพัฒนา เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย สร้างสรรค์รูปแบบของการ อยู่อาศัยที่ ‘อยู่เย็นเป็นสุข’
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ควบคู่กับแนวคิด ‘ศุภาลัย ใส่ใจ...สร้างสรรค์สังคมไทย’ โดยมุ่งเน้นการสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตของคนในสังคมให้ดียิ่งขึ้นด้วยจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร สู่การพัฒนาที่ยั่งยืนตามกระบวนการ SDGS (Sustainable Development Goals) และขับเคลื่อนการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนสู่ CSR-IN-PROCESS ให้ความสำคัญกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกกระบวนการผลิต ถ่ายทอดผ่านกิจกรรมหลากหลายรูปแบบทั้งกิจกรรมด้านการให้ความรู้ การศึกษา สิ่งแวดล้อม ศิลปวัฒนธรรม และชุมชน อาทิ โครงการบ้านผู้สูงวัย ‘ศุภวัฒนาลัย’ ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการดำเนินงาน โดยสิ่งเหล่านี้ถือเป็นปัจจัยแห่งความสำเร็จของศุภาลัย และพร้อมส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มาจากความสุข สู่การพัฒนาสังคมไทยอย่างยั่งยืนต่อไป
สำหรับแคมเปญ ‘ศุภาลัยใจดี ครบรอบ 30 ปี แจก 30 ล้าน’แทนคำขอบคุณลูกค้าที่ไว้วางใจและเป็นส่วนหนึ่งบนเส้นทางสู่ความสำเร็จ ได้รับผลตอบรับที่ดี สร้างความประทับใจและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อบริษัท ลูกค้าที่ได้รับรางวัลในการจับฉลากครั้งแรกของแคมเปญ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ต่างมีความประทับใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในโอกาสฉลองครบรอบ 30 ปี เปรียบเสมือนเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวศุภาลัย และประทับใจที่บริษัทเล็งเห็นถึงความสำคัญของผู้บริโภคอีกด้วย ทั้งนี้แคมเปญดังกล่าว ยังสามารถให้ผู้บริโภคได้ร่วมสนุกและลุ้นรับรางวัล ต่อเนื่องไปจนถึง วันที่ 30 กันยายนนี้
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึง แผนงานในครึ่งปีหลังว่า บริษัทฯ เร่งรุกตลาดอสังหาฯ โดยเดินหน้าแผนงานเปิดตัวโครงการใหม่ต่อเนื่อง ทั้งโครงการแนวราบและคอนโดมิเนียม รวม 21 โครงการ มูลค่ากว่า 20,240 ล้านบาท ครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูมิภาค อาทิ ‘ศุภาลัย ปาร์ค สถานีแยกไฟฉาย’ ชูจุดเด่น ‘คอนโดฯ...ที่เพิ่มเวลาการใช้ชีวิตให้กับคุณ’บนทำเลศักยภาพ ถนนจรัญสนิทวงศ์ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย สถานีแยกไฟฉาย เพียง 330 เมตร พร้อมด้วยพื้นที่สีเขียวรวมกว่า 2 ไร่ ใกล้ชิดธรรมชาติ ราคาเริ่ม 2.03 ล้านบาท
สำหรับในครึ่งปีหลังเชื่อว่าบริษัทฯ จะสามารถสร้างยอดขายที่เติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อยู่ที่ 35,000 ล้านบาท เนื่องจากปัจจัยสำคัญในเชิงบวก อย่างการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ซึ่งล่าสุดก็มีการประกาศแผนนโยบายที่สนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ และขยายเส้นทางระบบการคมนาคมในปัจจุบัน อาทิ รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน บางซื่อ – หลักสอง ที่จะเปิดใช้อย่างเป็นทางการในเดือนกันยายนนี้ รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ที่จะเปิดให้บริการ สถานีห้าแยกลาดพร้าว อย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคมเช่นเดียวกัน รวมไปถึงโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายที่อยู่ระหว่างก่อสร้างในกรุงเทพฯ และปริมณฑลหลายเส้นทาง ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ภาพรวมของตลาดที่อยู่อาศัยเติบโตขึ้นในอนาคต เชื่อว่าปัจจัยเหล่านี้ จะสามารถกระตุ้นกำลังซื้อภาคประชาชนให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง
นอกจากนี้ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทั้งในด้านคุณภาพและราคา เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่อย่างต่อเนื่อง และตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านอสังหาฯ ทั้งที่อยู่อาศัยแนวราบและคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ปริมณฑล รวมไปถึงการเล็งเห็นถึงความสำคัญของจังหวัดสำคัญต่างๆ โดยเปิดตัวไปช่วงครึ่งแรกของปี 2562 ทั้งหมด 9 โครงการ รวมเป็นมูลค่าการลงทุนกว่า 19,760 ล้านบาท สามารถทำยอดขายอยู่ที่ 13,307 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนยอดขายในส่วนโครงการคอนโดมิเนียม 44 % และโครงการแนวราบ 56 % สามารถทำรายได้รวม 10,892 ล้านบาท
โดยรายได้หลักมาจากการทยอยส่งมอบคอนโดมิเนียมทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด ขณะที่รายได้จากอสังหาริมทรัพย์สามารถแบ่งเป็นรายได้จากโครงการแนวราบ 55 % และจากโครงการคอนโดมิเนียม 45% ด้านกำไรสุทธิ 2,293 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2561 โดยมีอัตราหนี้สิน ที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 38% ส่วนต้นทุนการเงินที่อัตราเฉลี่ย 2.4 % ต่อปี ณ 30 มิถุนายน 2562 มียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (backlog) ประมาณ 43,434 ล้านบาท ณ 30 มิถุนายน 2562 โดยคาดว่าจะสามารถทยอยโอนให้ลูกค้าและรับรู้เป็นรายได้ในปี 2562 จำนวน 10,189 ล้านบาท และส่วนที่เหลือ 33,245 ล้านบาท ในอีก 4 ปีถัดไป เพื่อรองรับการเติบโตด้านรายได้ของบริษัทในอนาคต พร้อมกันนี้บริษัทฯ ยังเล็งเห็นถึงความสำคัญของการลงทุนระยะยาว โดยปัจจุบันขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศ อย่าง ออสเตรเลีย รวมแล้ว 9 โครงการ มูลค่าประมาณ 2,200 ล้านบาท โดยได้กำหนดนโยบายการลงทุนในต่างประเทศ รวมไม่เกิน 10% ของงบลงทุนรวม
สามารถดาวน์โหลดได้ที่ https://drive.google.com/drive/folders/1yXbX82dkh1Y5aCmR-7y9MZBgxcx04Uw8
SPALI คาด H2/62 ยอดขายยอดโอนฟื้นตามตลาดรวม-ลุยเปิดอีก 21 โครงการใหม่ ลุ้นคลายเกณฑ์ LTV หนุนดีมานด์
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บมจ.ศุภาลัย (SPALI) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าแนวโน้มยอดขายและยอดโอนในไตรมาส 3/62 และไตรมาส 4/62 จะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/62 ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดของยอดขายและยอดโอน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากมาตรการ LTV เริ่มมีผลบังคับใช้ทำให้ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวลงไปอย่างมาก และคาดว่าจะค่อยๆ เห็นการฟื้นตัวของภาพรวมตลาดในช่วงไตรมาส 3/62 อย่างค่อยเป็นค่อยไปตามลำดับ
ขณะเดียวกัน ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทจะรุกการเปิดโครงการมากขึ้น โดยมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่รวม 21 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 2.02 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น โครงการในกรุงเทพ คอนโดมิเนียม 4 โครงการ และแนวราบ 6 โครงการ ส่วนต่างจังหวัดจะเปิดตัวแนวราบ 11 โครงการ หลังจากครึ่งปีแรกบริษัทเปิดโครงการใหม่ไปแล้ว 9 โครงการ มูลค่าโครงการรวมราว 2 หมื่นล้านบาท
"การเปิดโครงการที่มีจำนวนเปิดเพิ่มมากขึ้นในครึ่งปีหลังจะช่วยทำให้ยอดขายของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นได้และเป็นไปตามเป้าหมาย3.5 หมื่นล้านบาทในปี 62 แม้ว่ายังมีความท้าทายก็ตาม โดยที่ครึ่งปีแรกบริษัทมียอดขายแล้ว 1.33 หมื่นล้านบาท"นายไตรเตชะ กล่าว
ปัจจัยท้าทายในช่วงครึ่งปีหลังมาจากตลาดคอนโดมิเนียมมีการชะลอตัว หลังจากกลุ่มผู้ซื้อที่เป็นนักลงทุนและเก็งกำไรหายไปค่อนข้างมากจากผลของการบังคับใช้มาตรการ LTV กดดันยอดขายโครงการคอนโดม์เนียมในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับกลุ่มลูกค้าต่างชาติส่วนหนึ่งมีการชะลอการซื้อ เพราะเงินบาทแข็งค่าขึ้น แต่บริษัทไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะลูกค้าต่างชาติยังมีสัดส่วนค่อนข้างน้อย
แต่ปัจจัยที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการตัดสินใจซื้อ คือ ความมั่นใจของลูกค้า เนื่องจากปัจจุบันเศรษฐกิจยังคงชะลอตัว ทำให้การตัดสินใจซื้อชะลอลงไปด้วย แม้ว่ายังมีความต้องการในการซื้ออยู่อาศัยอยู่มากก็ตาม อย่างไรก็ตาม การขายโครงการแนวราบยังเป็นปัจจัยที่หนุนภาพรวมของยอดขายให้ไปได้ต่อ เพราะลูกค้ายังให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง
ด้านยอดโอนของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะเห็นการปรับตัวขึ้นมากกว่าครึ่งปีแรก ซึ่งมาจากการโอนโครงการใหม่ที่มีกำหนดแล้วเสร็จและทยอยโอน หลังจากครึ่งปีแรกบริษัทไม่มีการโอนโครงการใหม่เข้ามา โดยขณะนี้บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) 4.34 หมื่นล้านบาท ซึ่งมีกำหนดโดนในปีนี้ 1.01 หมื่นล้านบาท
สำหรับ โครงการคอนโดมิเนียมใหม่ที่สร้างเสร็จมีจำนวน 3 โครงการ ได้แก่ ศุภาลัย เวอเรนด้า พระราม 9 มูลค่า 4.2 พันล้านบาท ปิดการขายแล้ว 100% จะเริ่มโอนในเดือนก.ย., ศุภาลัย เอลีท สุรวงศ์ มูลค่า 2.2 พันล้านบาท มียอดขายแล้ว 60% เริ่มโอนตั้งแต่ไตรมาส 3/62 และ ศุภาลัย ซิตี้ รีสอร์ท พระราม 8 มูลค่า 1.2 พันล้านบาท ปิดการขายแล้ว 100% จะเริ่มโอนในไตรมาส 3/62 เช่นกัน
พร้อมกันนั้น บริษัทจะทยอยระบายสต็อกที่เป็นสินค้าพร้อมโอนที่เหลืออยู่มูลค่ารวม 1.4 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น โครงการแนวราบ มูลค่า 5 พันล้านบาท และคอนโดมิเนียม มูลค่า 9 พันล้านบาท ทำให้บริษัทมั่นใจว่ายอดโอนได้ปีนี้จะทำได้ตามเป้าหมาย 2.8 หมื่นล้านบาทอย่างแน่นอน หลังจากครึ่งปีแรกมียอดโอน 1.08 หมื่นล้านบาท และคาดว่ากำไรในปีนี้จะสูงกว่าปีก่อน เพราะการโอนโครงการใหม่ในครึ่งปีหลังที่เข้ามามากจะช่วยหนุนให้ยอดโอนและกำไรเติบโตอย่างก้าวกระโดด และสนับสนุนกำไรทั้งปีให้เติบโตขึ้น
นายไตรเตชะ กล่าวถึงมุมมองเรื่องที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะผ่อนคลายเกณฑ์มาตรการ LTV ในส่วนของผู้กู้ร่วมและผู้ค้ำประกันที่จะสามารถซื้อที่อยู่อาศัยของตนเองหลังแรก และไม่ถูกนับเข้าเกณฑ์เงื่อนไขสัญญาที่ 2 ที่ต้องเพิ่มเงินดาวน์เป็น 20% นั้น ปัจจุบันที่เกณฑ์ LTV ส่งผลกระทบต่อผู้กู้ร่วมและผู้ค้ำประกัน บางรายอาจจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการผ่อนชำระกับผู้กู้ แต่เมี่อไปซื้อที่อยู่อาศัยของตนเองถูกคิดเป็นสัญญาที่ 2
บริษัทมองว่าหาก ธปท.ผ่อนคลายเกณฑ์ดังกล่าวได้จะส่งผลดีต่อภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ เพราะเป็นการเปิดโอกาสและสร้างความมั่นใจให้กับผู้กู้ร่วมและผู้ค้ำประกันที่ต้องการซื้อบ้านของตนเอง และไม่ต้องใช้เงินดาวน์เพิ่มตามเกณฑ์ LTV ใหม่ เพราะผู้กู้และผู้ค้ำประกันบางรายอาจจะไม่ได้ช่วยผู้กู้ผ่อน เพียงแค่ใช้ชื่อมาช่วยเหลือผู้กู้ให้สามารถกู้ผ่านเท่านั้น ซึ่งการผ่อนคลายเงื่อนไขดังกล่าวจะทำให้มีกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้น ช่วยระบายสินค้าในตลาดให้ลดลง และคาดว่าจะสามารถช่วยเพิ่มยอดโอนให้กับบริษัทได้ราว 15-20%
นอกจากนี้ ในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยปรับตัวลดลง บริษัทมองว่าเป็นโอกาสที่ดีในการลดต้นทุนทางการเงิน ซึ่งบริษัทวางแผนในการออกหุ้นกู้วงเงิน 1 พันล้านบาท ในช่วงปลายปีนี้ อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยราว 2% ต่อปี เพื่อนำมาทดแทนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดอายุ และช่วยให้ต้นทุนดอกเบี้ยของบริษัทปรับตัวลดลง
Click Donate Support Web