Tweet

0

Details

Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ

Published: Monday, 05 August 2019 20:33

Hits: 3817

เน็กซัสฯ เผย ‘ฟิตเนส’ คือผู้เช่าอันดับต้นๆ ของตลาดพื้นที่พาณิชยกรรม

รองรับเทรนด์การดูแลสุขภาพที่กำลังมาแรง

ตลาดพื้นที่พาณิชยกรรมยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยพบว่ากลุ่มที่น่าจับตามอง คือ กลุ่มธุรกิจฟิตเนส ที่เติบโตรองรับเทรนด์การดูแลสุขภาพคนทุกเพศวัยมากยิ่งขึ้น โดยเน้นกลยุทธ์การกระจายตัวในวงกว้างมากกว่าการเปิดสาขาใหญ่เพียงสาขาเดียวอย่างเมื่อ 10 ปีก่อน ซึ่งพื้นที่เช่าที่เหล่าบรรดาผู้ประกอบการฟิตเนสให้ความสนใจมาก ได้แก่ ห้างสรรพสินค้าและอาคารสำนักงาน

นายธีระวิทย์ ลิ้มทองสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กซัส เรียลเอสเตท แอ็ดไวเซอรี่ จำกัด (Mr. Teerawit Limthongsakul, Managing Director of Nexus Real Estate Advisory) เผยว่า ภาพรวมตลาดพื้นที่พาณิชกรรมยังคงดีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดพื้นที่ศูนย์การค้าในย่านใจกลางเมือง เช่น สยาม ราชประสงค์ และพร้อมพงษ์ ยังคงดีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉลี่ยในช่วงครึ่งปีแรก (มกราคม - มิถุนายน 2562) พบว่า ทำเลดังกล่าว ยังคงมีอัตราเช่าสูงที่ประมาณ 95% โดยหมวดหลักคือ กลุ่มผู้ประกอบการด้านอาหารและเครื่องดื่ม (Food and Berverage หรือF&B) เนื่องจากกลุ่มนี้ยังคงเป็นกลุ่มที่สร้างจุดขายให้กับห้างได้เป็นอย่างดี ในขณะเดียวกัน อีกเทรนด์หนึ่งที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก คือ เทรนด์การรักสุขภาพที่กำลังเป็นที่ได้รับความสนใจ และมาแรงมากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (ตั้งแต่ปี 2557 - ปี 2562) ทำให้หลายธุรกิจที่เกี่ยวข้อง อาทิ ธุรกิจรองเท้า เสื้อผ้ากีฬา, ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ, และธุรกิจฟิตเนสเติบโตอย่างรวดเร็วตามไปด้วย เมื่อเจาะลงไปที่ธุรกิจฟิตเนสนั้น เราพบว่า ปัจจุบันเราสามารถเห็นฟิตเนสได้ในเกือบทุกที่ไม่ว่าจะเป็น คอนโดมิเนียม ห้างสรรพสินค้าและอาคารสำนักงาน เพื่อตอบสนองความต้องการและการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป

“ฟิตเนสถือเป็นผู้เช่ารายใหญ่ (แองเคอร์) ของตลาดพื้นที่ศูนย์การค้า ในปัจจุบัน เนื่องจากฟิตเนสมีความต้องการใช้พื้นที่ขนาดใหญ่ ส่งผลให้มีความต้องการพื้นที่เช่ามากขึ้น นอกจากนี้ เรายังพบว่าพฤติกรรมของผู้ที่มาใช้บริการฟิตเนส โดยเฉลี่ยจะมาใช้บริการเป็นประจำอย่างน้อย 2-3 วันต่อสัปดาห์ ส่งผลให้อาคาร หรือ ห้างสรรพสินค้านั้นๆ มีทราฟฟิกเพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัว” นายธีระวิทย์ กล่าว

เมื่อพิจารณาถึงผู้เล่นหลักในตลาดฟิตเนสในปัจจุบัน เช่น ฟิตเนสเฟิร์สและเวอร์จิ้น แอคทีฟ พบว่ายังมีการขยายสาขาออกไปอย่างต่อเนื่อง โดยทั้งสองแบรนด์เน้นจับตลาดกลุ่มบนเป็นหลัก ซึ่งการจับตลาดกลุ่มบนของผู้เล่นหลักนี้ ส่งผลให้เกิดช่องว่างทางการตลาดของตลาดฟิตเนสระดับกลางอยู่ ดังนั้น  เมื่อมีช่องว่างทางการตลาด ผนวกกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้เกิดการเติบโตของผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามามีบทบาทสำคัญซึ่งเป็นไปตามกลไกธุรกิจ โดยผู้เล่นหลักในตลาดฟิตเนสระดับกลาง คือ เจ็ทส์ ฟิตเนส

เจ็ทส์ ฟิตเนส เน้นการเป็นผู้ประกอบการฟิตเนสระดับกลาง โดยหนึ่งในกลยุทธ์ในการทำการตลาด คือ เน้นการเช่าพื้นที่ในที่สะดวกสบาย ลดขนาดการใช้พื้นที่ของฟิตเนสลง จากปกติที่ฟิตเนสระดับบน จะใช้พื้นที่ 2,000-3,000 ตารางเมตรต่อ 1 สาขา แต่สำหรับ เจ็ทส์ ฟิตเนส จะลดพื้นที่ลงเหลือเพียง 600-1,000 ตารางเมตร แต่มาทดแทนด้วยการเปิดสาขาจำนวนมากขึ้น ทำให้สามารถเปิดได้ 2-3 สาขาในทำเลเดียวกัน เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายของผู้ออกกำลังกาย และง่ายต่อการเข้าถึง นอกจากนี้ ยังเปิดให้บริการ 24 ชม. อีกด้วย ซึ่งการใช้พื้นที่ที่เล็กลงยังช่วยแก้ปัญหาให้กับผู้ประกอบการในการหาพื้นที่เช่า เนื่องจากการหาพื้นที่เช่า 2,000-3,000 ตารางเมตรในทำเลดีๆ นั้นเป็นไปได้ยากในปัจจุบัน

ด้วยกลยุทธ์การหาทำเล และการเปิดบริการแบบ 24 ชั่วโมง ทำให้ เจ็ทส์ ฟิตเนส สามารถขยายสาขาได้ถึง 19 สาขาภายในระยะเวลาเพียง 2 ปีเศษ (2560-2562) ครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯ พัทยาและโคราช โดยในปี 2561 สามารถขยายได้ถึง 10 สาขา บนทำเลศักยภาพ อาทิ สาขาเอฟ วาย ไอ เซ็นเตอร์ บนหัวมุมถนนพระราม 4 ตัดรัชดาภิเษก, อาคาร เอสพี ทาวเวอร์ ย่านอารีย์ หรือที่รู้จักกันในนามอาคารไอบีเอ็ม และในปีนี้ ได้ขยายสาขาเพิ่มแล้วกว่าอีก 7 สาขา ซึ่งในปีนี้ยังเป็นปีแรกที่ได้ขยายไปยังต่างจังหวัดดังที่กล่าวไว้ในตอนต้น และทุกสาขานั้นได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี โดยมีแผนที่จะขยายเพิ่มเติม ทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ๆ อีกกว่า 15 สาขา ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนการก่อสร้าง และดำเนินการ

นายธีระวิทย์ เสริมว่า “เน็กซัสฯ ได้รับความไว้วางใจในการเป็นตัวแทนหาพื้นที่เช่าให้กับเจ็ทส์ ฟิตเนส ตั้งแต่ปี 2561 เมื่อทางเจ็ทส์ ฟิตเนส จากออสเตรเลียเริ่มเข้ามาบุกตลาดในประเทศไทย ซึ่งเน็กซัสฯ ยังคงได้รับความไว้วางใจให้ดูแลแบรนด์อย่างต่อเนื่อง”  

ทั้งนี้ ทางเน็กซัสฯ ยังคงทำหน้าที่สรรหาพื้นที่ที่เหมาะสมในการขยายสาขาของเจ็ทส์ ฟิตเนสอย่างต่อเนื่อง โดยทำเลที่สนใจ คือ พื้นที่รีเทลชั้น 1 หรือชั้น 2 ที่โดดเด่นสะดุดตา ง่ายต่อการเข้าถึง รวมถึงทำเลที่ใกล้แนวรถไฟฟ้า และสามารถเปิดตลอด 24 ชม. ได้ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ซึ่งทางแบรนด์เจ็ทส์ ฟิตเนส มีเป้าหมายในการขยายสาขามากถึง 100 สาขาในประเทศไทยภายในปี 2567

NEXUS Cites ‘Fitness’ Leads Commercial Space, 

Serving Demand in Healthy Lifestyle

Commercial market is still rising over the past years. One of the most outstanding growth businesses is gym industry because people are more concern about their health. The current strategy that gym business use is to spread its operation to the further area as much as possible rather than operate one remarkable branch and down-sized. The area that gym operator focuses on is a shopping centre and office building.

Mr. Teerawit Limthingsakul, Managing Director of Nexus Real Estate Advisory (NEXUS), states that the overall commercial market continues improving, particularly for retail spaces in Central Retail District area - Siam, Ratchaprasong and Prompong. The average occupancy rate in the first half of 2019 was 95%. Food & Beverage sector is still a selling point for most shopping centres. In the meantime, a healthy lifestyle has become popular, not only for young generation but for everyone. So, it boosts up the growth rate in related businesses such as sportswear, sneakers, healthy food and, especially gym. Focusing on gym industry, we can see gym located in almost every building including condominiums, shopping centres and office buildings to fulfil needs and support a changing of lifestyle. 

“Recently, gym operators have become magnets and anchors of retail spaces because they require large spaces and generate vitality to the building, so it spiralling up the demand for available spaces. Meanwhile, gym also creating more footfall in such buildings due to the customers come to gym at least 2-3 times a week,” said Mr. Teerawit.

Familiar gym operators such as Fitness First and Virgin Active is likely to continue open new branches. However, both of them targets high-end segment, which creates a gap for the mid-end segment. The market gap and the changing lifestyle allow new players to give a significant contribution to the market mechanism. Currently, the main player in mid-end market is Jetts Fitness.

The strategy of Jetts Fitness is to choose a convenient location, reduce the size from 2,000-3,000 square meters per branch of high-end gym to 600-1,000 square meters. Therefore, it allows Jetts Fitness to open 2-3 branches in one location to serve various demands, easily reach those who want to work out, and opens for 24/7. The smaller usage space also solves the pain point of finding large-sized spaces in good locations which are quite rare in recent time.

With those strategies and 24-hour operation, Jetts Fitness has launched 19 branches within two years and a half (2017-2019), covering Bangkok, Pattaya and Korat. In 2018, it opened 10 branches in a prime location, for example, FYI Centre on the corner of Rama 4 and Ratchadapisek road, and SP Tower (or IBM Building) nearby Ari BTS station. This year, Jetts Fitness has already expanded 7 more branches and it was the first time to expand outside Bangkok. While every branch receives good feedback from customers, another 15 branches are already in the pipeline.  

Mr. Teerawit added, “NEXUS is entrusted to be Jetts Fitness’s representative to find the best suit location since Jetts Fitness from Australia planned to penetrate the Thai market, and they still entrust NEXUS to take this responsibility until now.”

NEXUS has been searching for elite spaces to support the expansion of Jetts Fitness. Targeted locations are retail space on 1^stor 2^ndfloor, easy access and nearby BTS or MRT station. That location has to be able to operate 24 hours to meet the lifestyle of the new generation. Jetts Fitness targets to open more than 100 branches in Thailand by 2024.  

AO08076

Click Donate Support Web