- Details
- Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ
- Published: Thursday, 01 August 2019 15:57
- Hits: 2503
วัน แบงค็อก (One Bangkok) เมืองแห่งความครบครันเพื่อการใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบแห่งแรก และใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เปิดตัวมาสเตอร์แพลน เจาะลึกการออกแบบทั้งโครงการ
· วัน แบงค็อก เผยมาสเตอร์แพลนระดับโลกของโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบมิกซ์ยูสที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตั้งเป้าเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของโลก
· ชูมาตรฐานใหม่ทั้งด้านการออกแบบ คุณภาพ ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม และการใช้ชีวิตในสมาร์ท ซิตี้ (Smart City Living) พร้อมตั้งเป้าเป็นโครงการแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานอาคารระดับสากลอย่าง LEED และ WELL Platinum รวมถึงมาตรฐานการพัฒนาชุมชนแวดล้อม LEED Neighborhood Development Platinum
· มาสเตอร์แพลนแสดงผังภาพรวมของโครงการ ประกอบด้วย อาคารสำนักงานเกรดเอที่พักอาศัยระดับลักชัวรี่ พื้นที่ร้านค้าปลีก โรงแรมหรู และพื้นที่ศูนย์กลางสำหรับกิจกรรมทางศิลปะและวัฒนธรรม
· Signature Tower สูง 430 เมตร จะกลายเป็นหนึ่งในสิบตึกที่สูงที่สุดในอาเซียน พร้อมมอบที่สุดแห่งวิวแบบพาโนราม่าของเส้นขอบฟ้ากรุงเทพฯ
นายปณต สิริวัฒนภักดี (ซ้ายสุด) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด และนางสาวซู หลิน ซูน (ขวาสุด) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร วัน แบงค็อก (One Bangkok) ร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวมาสเตอร์แพลน โครงการ วัน แบงค็อก โครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบมิกซ์ยูสที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตั้งเป้าเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของโลก ณ เดอะ พรีลูด วัน แบงค็อก
วัน แบงค็อก (One Bangkok) เผยมาสเตอร์แพลนของโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ครบวงจรและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 1.2 แสนล้านบาท ณ เดอะ พรีลูด วัน แบงค็อก ถือเป็นการเปิดตัวมาสเตอร์แพลนครั้งแรกอย่างเป็นทางการ พร้อมเจาะลึกแนวคิดการออกแบบและคอนเซ็ปท์ของทั้งโครงการ
วัน แบงค็อก เป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรที่พัฒนาโดยกิจการร่วมทุนระหว่างบริษัท ทีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด นับเป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โดยภาคเอกชนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประเทศไทย ชูมาตรฐานใหม่ทั้งด้าน
การออกแบบ ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม และการใช้ชีวิตในสมาร์ท ซิตี้ (Smart City Living) โดยตั้งเป้าเป็นโครงการแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการพัฒนาชุมชนแวดล้อมอย่าง LEED Neighborhood Development Platinum พร้อมมุ่งเป็นแลนด์มาร์คครบวงจรระดับโลกแห่งใหม่ เปี่ยมไปด้วยศักยภาพใน
การดึงดูดบริษัทชั้นนำ นักท่องเที่ยว และคนไทย ด้วยอาคารสำนักงานเกรดเอ พื้นที่รีเทลชั้นนำ โรงแรมระดับลักชัวรี่ ที่พักอาศัย และพื้นที่ศูนย์กลางสำหรับกิจกรรมทางศิลปะและวัฒนธรรมที่เชื่อมต่อทั่วถึงกันทั้งโครงการ
นายปณต สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด กล่าวว่า “วัน แบงค็อก จะสร้างนิยามใหม่และพลิกโฉมพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯ ให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ในฐานะโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โดยภาคเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศไทย ความมุ่งมั่นของเราคือการเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ยึดหลักความยั่งยืน พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน และผสานเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนอย่างสมบูรณ์ เราเชื่อมั่นว่า วัน แบงค็อกจะมอบสิ่งที่คู่ควรกับกรุงเทพฯ พร้อมชูให้ประเทศไทยโดดเด่นเป็นสง่าในเวทีโลก และเติบโตในฐานะศูนย์กลางของประเทศอาเซียนต่อไป”
นางสาวซู หลิน ซูน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร วัน แบงค็อก (One Bangkok) กล่าวว่า “เป้าหมายของเราคือการยกระดับสถานะของกรุงเทพฯ สู่ศูนย์กลางทางธุรกิจแห่งใหม่ที่จะได้รับการยอมรับในระดับโลก จากมุมมองที่ได้เรียนรู้ผ่านย่านสำคัญต่างๆ ของมหานครทั่วโลก ทำให้เราตระหนักว่าการสร้างและผสานพื้นที่ของ วัน แบงค็อกตามคอนเซ็ปท์มิกซ์ยูสนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้เป็นเมืองที่มีชีวิตชีวา เปี่ยมด้วยพลังและไม่มีวันหลับใหล ด้วยขนาดที่ใหญ่ของโครงการ เราจึงวางแผนการใช้งานพื้นที่ไว้อย่างหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกความต้องการและทุกรูปแบบไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นสำนักงาน ร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม และที่พักอาศัย พร้อมด้วยพื้นที่ส่งเสริมการศึกษา การพักผ่อน สุขภาพ รวมถึงพื้นที่สำหรับศิลปะและวัฒนธรรม มีพื้นที่สาธารณะซึ่งเปิดให้ทุกคนเข้ามาได้ โดยเรามุ่งหวังว่าการผสานพื้นที่ให้หลากหลายเช่นนี้จะสร้างแลนด์มาร์คที่สมบูรณ์แบบ เปี่ยมด้วยศักยภาพในการดึงดูดองค์กรชั้นนำและเป็นสถานที่ยอดปรารถนาของนักท่องเที่ยวและคนไทยอย่างแน่นอน”
เผยโฉมมาสเตอร์แพลน ผสาน 5 หัวใจหลักของโครงการไว้เป็นหนึ่งเดียว
มาสเตอร์แพลนแบบมิกซ์ยูสของ วัน แบงค็อก ได้รับการออกแบบเพื่อให้เป็นที่สุดของเมืองแห่งความครบครัน เพียบพร้อมด้วยอาคารสีเขียว และการใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ เน้นผู้อยู่อาศัยเป็นศูนย์กลาง พื้นที่ในโครงการสามารถปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด พฤติกรรมผู้บริโภคสมัยใหม่ และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ โดยมาสเตอร์แพลนประกอบด้วย 4 อาณาบริเวณที่เชื่อมต่อถึงกัน โดยมีใจกลางของโครงการอยู่ที่ Civic Plaza พื้นที่สันทนาการขนาด 10,000 ตารางเมตร รอบล้อมด้วยพื้นที่รีเทลและพื้นที่ไลฟ์สไตล์บริเวณส่วนล่างของตึก ส่วนพื้นที่สำนักงานและพื้นที่สำหรับที่อยู่อาศัยจะอยู่ส่วนบนของตึก
มาสเตอร์แพลนของ วัน แบงค็อก ยังให้ความสำคัญอันดับแรกๆ กับการเข้าถึงและการเดินทางอย่างสะดวกสบาย ตัวโครงการเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สายสีน้ำเงิน สถานีลุมพินี สะดวกต่อการเดินเข้าถึงทุกจุดของโครงการ พร้อมทางเข้าออกรอบโครงการถึง 6 จุด จากฝั่งถนนวิทยุ ถนนพระราม 4 รวมถึงทางเชื่อมโดยตรงกับทางด่วนซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนการอนุมัติ ทางเข้าออกเชื่อมต่อโดยตรงกับชั้นใต้ดินซึ่งใช้ระบบบริหารจัดการจราจรอย่างชาญฉลาด ช่วยให้การหมุนเวียนด้านการจราจรภายในสะดวกง่ายดาย ทำให้ถนนหลักภายในโครงการปลอดโปร่งและปลอดภัยสำหรับคนเดินเท้า โดยวัน แบงค็อก มุ่งสร้างเมืองที่เป็นมิตรต่อคนเดินเท้าด้วยการออกแบบให้ถนนทุกสายและทุกซอยเชื่อมต่อกัน เรียงรายด้วยร้านค้า ร้านกาแฟ งานศิลปะ และพื้นที่จัดกิจกรรม เชื่อมต่อทุกส่วนประกอบของโครงการเข้าไว้ด้วยกัน ทางเดินในโครงการก็จะร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ตลอดแนวถนน ทำให้การเดินภายนอกท่ามกลางสภาพอากาศของกรุงเทพฯ สบายยิ่งขึ้น ส่วนพื้นที่ในอาคารก็จะมีระบบปรับอากาศแบบประหยัดพลังงาน
ด้วยทำเลทองใจกลางเมือง วัน แบงค็อก มุ่งเป็นที่ตั้งบริษัทที่ทรงคุณค่าและน่าภาคภูมิใจในกรุงเทพฯ และจะเป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจแห่งใหม่ ด้วยพื้นที่เช่าสุทธิของอาคารสำนักงานเกรดเอทั้ง 5 อาคารรวมกันกว่า 500,000 ตารางเมตร รองรับบุคลากรขององค์กรต่างๆ ทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ ได้มากกว่า 50,000 คน ออกแบบตามมาตรฐาน LEED และ WELL ติดตั้งเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น โดยกำหนดการก่อสร้างเป็นเฟสให้แล้วเสร็จในระหว่างปี พ.ศ. 2566-2569 นอกจากนี้ อาคารสำนักงานทั้ง 5 อาคารยังสอดคล้องกับการใช้พื้นที่รูปแบบมิกซ์ยูส ตอบโจทย์คนวัยทำงาน รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสบายรอบด้าน ที่เชื่อมต่อทุกมิติของการใช้ชีวิต ทั้งการทำงาน และการพักผ่อนได้อย่างลงตัว
วัน แบงค็อก ยังได้คำนึงถึงนิยามใหม่ให้กับย่านช้อปปิ้งในกรุงเทพฯ นำเสนอมากกว่าทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการช้อปปิ้งและร้านอาหาร แต่จะเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกที่มอบความครบครัน พร้อมสรรพด้วยกิจกรรมที่หลากหลายสำหรับผู้มาเยือน ซึ่งจะเนรมิตให้วัน แบงค็อกกลายเป็นสถานที่ที่ไม่หลับใหล นอกจากนี้ ยังเปิดพื้นที่ให้แบรนด์ต่างๆ ได้สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ด้วยพื้นที่รีเทล 4 โซน ที่มีความแตกต่างกันและเชื่อมต่อถึงกัน พร้อมด้วยร้านค้าและร้านอาหารรวมกันกว่า 450 ร้าน บนพื้นที่ 180,000 ตารางเมตร รังสรรค์ประสบการณ์รีเทลที่แปลกใหม่และแตกต่าง ภายในที่แห่งเดียว ถือเป็นครั้งแรกของกรุงเทพฯ
สำหรับ โรงแรม 5 แห่งภายใน วัน แบงค็อก ทั้งหมดจะเป็นแบรนด์ใหม่สำหรับกรุงเทพฯ เป็นทางเลือกที่โดดเด่นสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการบริการที่ดีที่สุดรวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกและความสะดวกสบายครบครัน ครอบคลุมตั้งแต่ระดับบูทีคโฮเทล โรงแรมเพื่อธุรกิจ ไปจนถึงระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ รวมกว่า 1,100 ห้อง ได้รับออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้เข้าพักอย่างรอบด้าน โดยโรงแรมลักชัวรี่แห่งแรกคือ The Ritz-Carlton, Bangkok ที่จะพร้อมเปิดให้บริการในปี พ.ศ. 2566
ส่วนที่พักอาศัยของ วัน แบงค็อก จะตั้งอยู่บริเวณทิศเหนือของโครงการ เพื่อความสงบและความเป็นส่วนตัวของผู้พักอาศัย เปิดรับวิวทั้งจากฝั่งถนนวิทยุและฝั่งสวนลุมพินี โดยมีอาคารที่พักอาศัยระดับลักชัวรี่ทั้งหมด 3 อาคาร พร้อมมอบเอกสิทธิ์แห่งการใช้ชีวิตที่มองเห็นทิวทัศน์ธรรมชาติของสวนลุมพินี และวิวกรุงเทพฯ แบบพาโนรามาไร้สิ่งบดบัง ซึ่งที่พักอาศัยโครงการแรกจะตั้งอยู่เหนือโรงแรม The Ritz-Carlton, Bangkok ประกอบด้วยห้องที่ตกแต่งอย่างหรูหราขนาด 2-4 ห้องนอน จำนวน 110 ห้อง พื้นที่เริ่มต้นที่ 130 ตารางเมตร พร้อมเปิดตัวช่วงต้นปี พ.ศ. 2563
สิ่งที่ถือเป็นความสำเร็จของ วัน แบงค็อก คือ Signature Tower ที่สูงกว่า 430 เมตร ซึ่งจะเป็นหนึ่งในสิบตึกที่สูงที่สุดของอาเซียน โดดเด่นเป็นสง่าเติมเต็มเส้นขอบฟ้าของกรุงเทพฯ ภายในประกอบด้วยพื้นที่สำนักงานและโรงแรมหรูระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ พร้อมมอบที่สุดแห่งประสบการณ์การชมวิวแบบพาโนราม่า สวยงามแบบไร้ขอบเขตจากยอดตึก
ศิลปะและวัฒนธรรมเป็นอีกส่วนสำคัญที่มีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับการใช้ชีวิตแบบร่วมสมัยในเมือง โดยวัน แบงค็อก มุ่งที่จะเป็นเป้าหมายของแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่ต้องมาเยือน และสร้างสีสันให้กับชุมชนด้วยศิลปะที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ พื้นที่ทั้งหมดในโครงการจะเชื่อมต่อถึงกันด้วยงานศิลปะตามแนวคิดพหุประสาทสัมผัส เพื่อให้ผู้มาเยือนสัมผัสกับศิลปะรอบตัว นอกจากนี้ ยังมีฮอลล์เอนกประสงค์สำหรับจัดการแสดง พิพิธภัณฑ์ หอศิลป์ และงานศิลปะหลากหลายรูปแบบ รวมถึงกิจกรรมศิลปะวัฒนธรรมตลอดทั้งปี
วัน แบงค็อก ได้รับการออกแบบให้มีสภาพแวดล้อมที่เชิญชวน ปลอดภัย และเต็มไปด้วยสีเขียวด้วยพื้นที่สีเขียวถึง 50 ไร่ จากพื้นที่รวม 104 ไร่ ซึ่งได้รับการจัดสรรให้เป็นพื้นที่เปิดโล่งเพื่อให้ผู้คนได้มาใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น ซึ่งรวมถึง Civic Plaza ที่มีพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร สามารถเป็นศูนย์กลางการจัดงานแสดงระดับนานาชาติและงานเทศกาลต่างๆ ของไทยได้ และสวนรอบโครงการทั้งทางฝั่งถนนวิทยุและถนนพระราม 4 ที่กว้างกว่า 40 เมตร ร่มรื่นด้วยต้นไม้ เปรียบเป็นส่วนต่อขยายของสวนลุมพินี
ทั้งโครงการจะมีระบบโครงสร้างพื้นฐานส่วนกลางสุดล้ำสมัย ซึ่งนับเป็นแห่งแรกของประเทศไทยสำหรับโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โดยเอกชน ประกอบด้วยระบบทำความเย็น ระบบรักษาความปลอดภัยแบบรวมศูนย์ ระบบการจัดการน้ำและพลังงาน ควบคุมดูแลโดยศูนย์ข้อมูล (District Command Centre) และเซ็นเซอร์อันชาญฉลาดมากกว่า 250,000 ตัว ที่คอยบริหารจัดการทุกระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ การผสานนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนเข้ามาในทุกองค์ประกอบของโครงการ ช่วยให้ทุกคนที่อยู่ในวัน แบงค็อก ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการ ผู้มาเยือน และผู้อยู่อาศัย ล้วนได้รับประโยชน์จากการประหยัดพลังงาน สิ่งแวดล้อมที่สะอาด ซึ่งจะส่งผลให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น
สำหรับ ควาบคืบหน้าของการก่อสร้าง งานเสาเข็มของโครงการได้สำเร็จลุล่วงเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา พร้อมเปิดเฟสแรกในปี พ.ศ. 2566 และก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งหมดภายในปี พ.ศ. 2569
สำหรับ ข้อมูลเพิ่มเติมของวัน แบงค็อก กรุณาไปที่ http://onebangkok.com/ และhttps://www.facebook.com/onebangkokth/
ข้อมูลสำหรับสื่อมวลชน สามารถดาวน์โหลดได้ที่ https://tinyurl.com/OneBangkokMasterplanUnveil หรือสแกน QR Code ด้านล่าง
รูปภาพเพิ่มเติม
จากซ้ายไปขวา:
นายเดวิด ทิบบ็อตต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาสินทรัพย์ (ค้าปลีก)
นายแอนโทนี่ อรันเดลล์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายบริหารสาธารณูปโภคโครงการ
นายอุรเสฏฐ นาวานุเคราะห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายพัฒนาสินทรัพย์
ม.ล.ตรีนุช สิริวัฒนภักดี
นายปณต สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด
นางสาวซู หลิน ซูน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โครงการ
วัน แบงค็อก
นายรัสเซล คิม รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายออกแบบโครงการ
นายแดน ตันติสุนทร ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาสินทรัพย์ (สำนักงาน)
นายปณต สิริวัฒนภักดี (ขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด และ นางสาวซู หลิน ซูน (ซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โครงการ วัน แบงค็อก
นายปณต สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด
นางสาวซู หลิน ซูน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โครงการ วัน แบงค็อก
หมายเหตุสำหรับบรรณาธิการ:
** LEED: Leadership in Energy and Environmental Design หรือ LEED เป็นระบบการจัดเรตติ้งที่คิดขึ้นโดยสภาการก่อสร้างอาคารสีเขียวแห่งสหรัฐอเมริกา (United States Green Building Council – USGBC) เพื่อประเมินผลงานด้านสิ่งแวดล้อมของอาคาร และส่งเสริมวงการให้เปลี่ยนผ่านไปสู่การออกแบบที่ยั่งยืน
* WELL: มาตรฐานอาคาร WELL เป็นมาตรฐานระดับสูงสุดที่ใช้กับอาคาร การออกแบบพื้นที่ภายในและชุมชน มุ่งเน้นให้เกิดการออกแบบส่วนประกอบเพื่อการใช้งาน สร้างให้เกิดความสมบูรณ์ และการวัดผลที่สนับสนุนและพัฒนาสุขภาพและสวัสดิภาพของมนุษย์ กำหนดมาตรฐานโดยสถาบัน International WELL Building Institute ซึ่งตั้งอยู่ที่วอชิงตัน ดีซี
วัน แบงค็อก (One Bangkok) เป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรที่มีมูลค่าการลงทุนมากกว่า 1.2 แสนล้านบาท นับเป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โดยภาคเอกชนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประเทศไทย ประกอบด้วยอาคารสำนักงานเกรดเอระดับพรีเมียม 5 อาคาร โรงแรมหรูที่เน้นตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เหนือระดับ 5 โรงแรม ที่พักอาศัยระดับลักชัวรี่ 3 อาคาร พร้อมด้วยพื้นที่ร้านค้าปลีก 4 จุดซึ่งเชื่อมต่อทั่วถึงกัน รวมถึงพื้นที่ศูนย์กลางสำหรับกิจกรรมทางศิลปะและวัฒนธรรม วัน แบงค็อก ครอบคลุมพื้นที่ 104 ไร่ บนหัวมุมถนนวิทยุตัดกับถนนพระรามสี่ โดยมุ่งที่จะเป็นโครงการแรกในไทยที่ออกแบบตามมาตรฐานการพัฒนาชุมชนแวดล้อมระดับ LEED-ND Platinum ซึ่งสร้างตามมาตรฐานระดับโลกอย่าง LEED Platinum และ WELL Platinum ยกระดับมาตรฐานความยั่งยืนให้กับโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ส่วนแรกของโครงการจะเริ่มเปิดให้บริการภายในปี พ.ศ. 2566 และจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2569
วัน แบงค็อก เป็นโครงการที่พัฒนาโดยกิจการร่วมทุนระหว่างบริษัท ทีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) โดยบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) เป็นผู้จัดการโครงการวัน แบงค็อก และ เดอะ ปาร์ค
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัน แบงค็อก สามารถเยี่ยมชมได้ที่ http://onebangkok.com/
บริษัท ทีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด (ทีซีซี แอสเซ็ทส์) เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร มีทุนจดทะเบียนหนึ่งหมื่นล้านบาท จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2556 โดยเป็นส่วนหนึ่งของทีซีซี กรุ๊ป หนึ่งในกลุ่มบริษัทที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศไทย
รูปแบบการลงทุนของ ทีซีซี แอสเซ็ทส์ มุ่งเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินทรัพย์ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการ โดย ทีซีซี แอสเซ็ทส์ บริษัทย่อย และบริษัทในเครือ เน้นการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน และพื้นที่ร้านค้าปลีก ควบคู่ไปกับธุรกิจโรงแรม และบริการที่เกี่ยวเนื่องทางด้านไอที
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ทีซีซี แอสเซ็ทส์ โปรดไปที่ www.tccassets.com
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด (“เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้” รวมถึงบริษัทย่อยในเครือเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้) เป็นบริษัทพัฒนาและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรระดับสากล เป็นเจ้าของและจัดการพอร์ตโฟลิโออสังหาริมทรัพย์หลากหลายรูปแบบ โดยจดทะเบียนในกระดานหลักของตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (The Singapore Exchange Securities Trading Limited, "SGX-ST") และมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สิงคโปร์ มีสินทรัพย์รวม 33,200 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 7.77 แสนล้านบาท) ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562
สินทรัพย์ของเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประกอบด้วยอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย อาคารสำนักงาน พื้นที่ร้านค้าปลีก และเขตอุตสาหกรรม ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลีย ยุโรป และจีน นอกจากนี้ยังดำเนินธุรกิจโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ในกว่า 70 เมืองทั่วภูมิภาคเอเชีย ออสเตรเลีย ยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกา บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้แก่ลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ ผ่านความรู้และความเชี่ยวชาญในตลาดอสังหาริมทรัพย์และภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างมูลค่าและพัฒนาสินทรัพย์หลากหลายประเภท
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ยังเป็นผู้สนับสนุนสามกองทุนอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน รวมถึงกองทุนสำคัญที่อยู่ในลิสต์ของตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (SGX-ST) ในส่วนของกองทุน Frasers Centrepoint กองทุน Frasers Commercial และกองทุน Frasers Logistics & Industrial มุ่งเน้นที่อสังหาริมทรัพย์พื้นที่ค้าปลีก พื้นที่เชิงพาณิชย์ และพื้นที่สำหรับการขนส่งและโรงงานอุตสาหกรรม ตามลำดับ ส่วนกองทุน Frasers Hospitality (ประกอบด้วยกองทุน Frasers Hospitality Real Estate Investment เพื่อการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ และกองทุน Frasers Hospitality Business) เป็นอีกกองทุนสำคัญที่เน้นพัฒนาพื้นที่ธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โปรดไปที่ www.frasersproperty.com
Click Donate Support Web