- Details
- Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ
- Published: Thursday, 18 July 2019 19:33
- Hits: 6248
วสท.เผย 5 มาตรฐานใหม่ ย้ำผู้ประกอบการก่อสร้างและอสังหาฯ ใส่ใจคุณภาพและความปลอดภัย
ธุรกิจอุตสาหกรรมในประเทศไทยและอาเซียน กำลังขับเคลื่อนด้วยองค์ความรู้และเทคโนโลยี วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) มีภารกิจหลักในการพัฒนาวิชาชีพและมาตรฐานของงานวิศวกรรมทุกด้านของประเทศเป็นมาตรฐานเดียวกันตามหลักสากล เพื่อให้งานออกแบบ ติดตั้ง หรือการใช้งานวิศวกรรมเทคโนโลยีต่างๆ ให้เป็นไปตามหลักวิศวกรรมศาสตร์ มีความถูกต้องแม่นยำ ตลอดจนช่วยให้วิศวกร ผู้ประกอบการธุรกิจ ผู้รับเหมา ช่างเทคนิค ได้มีหลักปฏิบัติเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วทั้งประเทศ ทั้งนี้ วสท. ยังมุ่งพัฒนาปรับมาตรฐานต่างๆ ให้ก้าวทันและสอดคล้องกับแนวโน้มเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงของโลกอีกด้วย
ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ (วสท.) กล่าวว่า จากการเกิดอุบัติเหตุในไซต์ก่อสร้างและในที่สาธารณะปรากฏให้เห็นอยู่บ่อยครั้งในประเทศไทย และเริ่มมีข่าวในประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน CLMV ด้วย เช่น อัคคีภัย, เครนถล่ม, ตึกถล่ม และอื่นๆ ทางวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ จึงต้องการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการและผู้ดำเนินงานตามไซต์ก่อสร้าง ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามหลักมาตรฐานวิศวกรรมความปลอดภัย ซึ่งทางวสท. ได้ดำเนินการประกาศใช้ มาตรฐานทางวิศวกรรม 5 มาตรฐานในการเสริมสร้างคุณภาพของโครงการและคุณค่าของแบรนด์ ด้วยหลักการปฏิบัติที่ดีในทุกระดับการบริหารจัดการโครงการ และความปลอดภัยทั้งในระยะก่อน-ระหว่าง-และหลังการก่อสร้าง การใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีสำหรับการก่อสร้างและอาคารที่เหมาะสม การลดปัจจัยเสี่ยงต่ออุบัติเหตุและไฟไหม้ เพื่อรองรับเศรษฐกิจดิจิทัล และร่วมขับเคลื่อนความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอย่างยั่งยืน ควบคู่กับความปลอดภัย ได้แก่
1. มาตรฐานความปลอดภัยในงานก่อสร้าง เล่ม 1 : ความปลอดภัยในเรื่องการจัดการทั่วไป ระบบบริหารจัดการความปลอดภัย ข้อแนะนำสำหรับสถานประกอบการก่อสร้างขนาดเล็กหรือสถานประกอบการทั่วไป ได้นำไปประยุกต์ใช้ โดยโครงการก่อสร้างที่ดีต้องมีแผนการจัดการความปลอดภัยในเรื่องต่างๆ ซึ่งมีผลต่อคุณภาพงานก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนระบบการจัดการความปลอดภัย, การเคลื่อนย้ายวัสดุและการเก็บวัสดุในสถานที่ก่อสร้าง, งานจัดการสภาพแวดล้อมและสุขาภิบาล, งานเฝ้าระวังและจัดการเรื่องความปลอดภัย รวมไปถึงอุปกรณ์ความปลอดภัยต่างๆ ที่จะช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุต่อผู้ปฏิบัติงาน บุคคลที่เกี่ยวข้อง สาธารณชน และสถานที่ข้างเคียง
2. มาตรฐานความปลอดภัยในงานก่อสร้าง เล่ม 2 : ความปลอดภัยในการใช้เครื่องมือและเครื่องจักร เป็นมาตรฐานที่เน้นสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องได้นำไปประยุกต์ใช้ในงานก่อสร้าง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้เครื่องมือและเครื่องจักรขณะปฏิบัติงาน โดยเนื้อหาประกอบด้วยนั่งร้าน, บันได, ราวกันตก ขอบกันของตก และทางเดินชั่วคราวยกระดับ, แผงป้องกันวัสดุตกและป้องกันฝุ่น, ลิฟต์ขนส่งวัสดุและลิฟต์โดยสารชั่วคราวสำหรับผู้ปฏิบัติงานในขณะทำงานก่อสร้าง และการใช้งานเครนหรือปั้นจั่น
อย่างไรก็ตาม การประยุกต์ใช้งานดังกล่าวจำเป็นต้องคำนึงหลักทางวิศวกรรม ตามลักษณะสภาพหน้างานที่อาจมีความแตกต่างจากข้อกำหนดที่กล่าวไว้ในมาตรฐาน และอยู่ในความดูแลกำกับของวิศวกร ทั้งนี้ หน่วยการวัดต่างๆ ที่ปรากฏในมาตรฐานเล่มนี้อาจมีการใช้หลายระบบ เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งานและการสื่อสารระหว่างผู้ปฏิบัติที่หน้างานได้ตรงกัน
3. มาตรฐานระบบไฟฟ้า แสงสว่างฉุกเฉิน และโคมไฟฟ้าป้ายทางออกฉุกเฉิน มาตรฐานนี้เกี่ยวกับความปลอดภัยในชีวิตของผู้ใช้อาคาร ได้จัดทำขึ้นให้สอดคล้องกับกฎหมายและมาตรฐานของสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เพื่อกำหนดเครื่องมือให้แสงสว่างและนำทางผู้ประสบภัยไปสู่สถานที่ปลอดภัยขณะเกิดเหตุฉุกเฉิน รวมทั้งระบุถึงพื้นที่เก็บอุปกรณ์ดับเพลิง อุปกรณ์แจ้งเหตุ และอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน นับเป็นส่วนหนึ่งของระบบป้องกันและระงับอัคคีภัยตามกฎหมายควบคุมอาคาร เพื่อใช้เป็นข้อกำหนดในการออกแบบ ติดตั้ง และตรวจสอบระบบแสงสว่างฉุกเฉินสำหรับอาคารพักอาศัย อาคารสำนักงาน อาคารสูง อาคารขนาดใหญ่ อาคารขนาดใหญ่พิเศษ โรงแรม โรงพยาบาล สถานบริการ โรงมหรสพ และอาคารสาธารณะทั่วไป
โดยแบ่งเนื้อหาออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 1. ระบบไฟฟ้าแสงสว่างฉุกเฉิน อาทิ การเตรียมการและจดบันทึก, การให้แสงสว่างฉุกเฉิน, การส่องสว่างเพื่อการหนีภัย, แบตเตอรี่และระบบการเดินสายและข้อกำหนดของวงจร 2. โคมไฟฟ้าป้ายทางออกฉุกเฉิน อาทิข้อ กำหนดต่างๆ, สภาวะทั่วไปสำหรับการทดสอบ, การติดตั้งโคมไฟฟ้าป้ายทางออกฉุกเฉินและระยะห่าง เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีระบบนำทางติดตั้งต่ำแบบไม่ใช้ไฟฟ้า (Non – Electrical Low Mounted Way Guidance System) เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความรวดเร็วในการหนีภัยได้มากยิ่งขึ้น
4. มาตรฐานระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ เป็นมาตรฐานทางด้านการออกแบบ การติดตั้ง และการตรวจสอบ ระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้สำหรับใช้เตือนอัคคีภัยกับอาคารทั่วไป ประกอบด้วย วิธีการกำหนดโซน การแบ่งโซน เพื่อค้นหาจุดต้นเพลิงได้โดยรวดเร็วและสามารถหนีไฟได้ทัน การแบ่งประเภทของอาคาร เพื่อกำหนดส่วนประกอบขั้นพื้นฐานของระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ที่อาคารพึงมี อุปกรณ์ตรวจจับควัน อุปกรณ์ตรวจจับความร้อน อุปกรณ์ตรวจจับเปลวเพลิง และการกำหนดใช้ที่เหมาะสมกับพื้นที่เฉพาะ รวมถึงการติดตั้งอุปกรณ์ สายท่อ และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องการตรวจสอบอุปกรณ์ในระบบ เพื่อให้แน่ใจว่าระบบทำงานถูกต้องเมื่อต้องการใช้งาน ทั้งนี้ ได้ยกเว้นส่วนอาคารที่ใช้เพื่อการผลิต การใช้ การเก็บสาร หรือวัสดุอันตราย เช่น วัตถุระเบิด สารไวไฟ สารเคมี และสารกัมมันตรังสี เป็นต้น ซึ่งต้องใช้มาตรฐานอื่นที่เกี่ยวข้องและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ประกอบการออกแบบด้วย
5. มาตรฐานการควบคุมควันไฟใช้อ้างอิงสำหรับการออกแบบระบบควบคุมควันไฟ เพื่อให้อาคารประเภทต่างๆ สามารถนำไปใช้ได้เมื่ออาคารเข้าเกณฑ์ตามข้อกำหนดของกฎหมาย ที่กำหนดให้ต้องมีระบบควบคุมควันไฟขณะเกิดเพลิงไหม้ โดยมีเนื้อหาครอบคลุมถึงระบบควบคุมควันไฟในแบบต่างๆ ทั้งระบบอัดอากาศและระบายอากาศ การทำงานของระบบควบคุมควันไฟกับระบบอื่นที่เกี่ยวข้อง อุปกรณ์ประกอบ และการติดตั้งระบบควบคุมควันไฟ รวมถึงการทดสอบระบบควบคุมควันไฟ และการปิดช่องท่อเพื่อป้องกันไฟลาม โดยมีภาคผนวกทฤษฎีการควบคุมควันไฟที่จะให้ความรู้เพิ่มเติม พร้อมสมการคำนวณเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของควันไฟ การไหลของอากาศ อัตราการไหลและการอัดอากาศ
ทั้งนี้ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ คาดว่ามาตรฐานและการปรับปรุงมาตรฐานเหล่านี้ จะช่วยส่งเสริมความก้าวหน้าทางธุรกิจอุตสาหกรรมก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ของไทย พร้อมทั้งยกระดับงานวิศวกรรมความปลอดภัยจากการเกิดเพลิงไหม้ และพัฒนาบุคลากรด้านวิศวกรรมและแรงงานของประเทศ รวมทั้งทำให้ประเทศไทยเป็นต้นแบบการกำหนดมาตรฐานที่ดีของภูมิภาคอาเซียน ในการเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านมาตรฐานสากลและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในภูมิภาคให้ดีขึ้นต่อไป
AO07167
Click Donate Support Web