- Details
- Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ
- Published: Monday, 05 November 2018 19:28
- Hits: 2992
‘ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์’ เสนากรุ๊ป กับการสร้างแบรนด์อสังหาฯ นวัตกรรมที่ตอบโจทย์ไลฟสไตล์ยุคใหม่ ประหยัดพลังงาน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
บมจ.เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ ถือว่าเป็นอสังหาฯที่ไม่กี่ปีที่ผ่านมา ได้หันมาสร้างแบรนด์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าอย่างต่อเนื่องและโดดเด่น โดยเฉพาะการเลือกเปิดนวัตกรรมที่อยู่อาศัยเรื่องนวัตกรรมเรื่องการประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อย่าง โซลาร์เซลล์ที่หากซื้อบ้านของเสนากรุ๊ปแล้วจะต้องมีการติดตั้งทุกหลัง
ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เสนาดีเวลลอปเม้นท์ หรือ SENA บอกว่าปัจจุบันหมู่บ้าน ที่เสนาสร้างจะเน้นที่โซลาร์เซลล์เต็มรูปแบบ โดยผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาบ้าน (โซลาร์รูฟท็อป) ซึ่งแต่ละหลังสามารถผลิตไฟฟ้าใช้เอง โดยจะติดตั้งให้ก่อนส่งมอบบ้าน
“เรามีเป้าหมายเพื่อเป็นแหล่งพลังงานของแต่ละบ้าน ช่วยในการประหยัดค่าไฟฟ้าติดครั้งเดียว ใช้ได้นาน 20-25 ปี ซึ่งถือว่าพลังงานที่สะอาดและประหยัดเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม”
ดร.เกษรากล่าวถึงแบรนด์โซลาร์รูฟท็อป ที่เป็นจุดเด่นสร้างความสนใจให้กับลูกค้า ก่อนที่จะบอกถึงแบรนด์ที่น่าสนใจอีกแบรนด์หนึ่งว่า เสนายังสร้างแบรนด์คอนโดที่คิดเหมือนผู้หญิง ภายใต้แนวคิด MADE FROM HER “ผู้หญิงอยู่สบาย ผู้ชายแฮปปี้ โดยจุดเด่นคือเน้นหลักคิดของผู้หญิง
“ก็จริงๆในเรื่องเบสิก ฟังชั่น ราคา คุณภาพ ถือว่าเป็นเรื่องปกติ อย่างนี้เราก็มีการออกแบรนดิ้ง แคมเปญแรกก็จะมีเรื่อง คอนโดที่คิดเหมือนผุ้หญิง ที่บอกว่าผู้หญิงอยู่สบายผู้ชายก็แฮปปี้ อันนี้ก็เป็นแคมเปญหลัก ซึ่งเราจะเน้นย้ำการเอาหลักของผู้หญิงมาคิด เพื่อให้ได้สินค่าที่ละเอียด รอบคอบ และจะใส่ใจรายละเอียดมากกว่า”
แต่อย่างไรก็ตามดร.เกษราบอกว่า แม้ว่าเสนาถือว่าแบรนด์คือจุดเด่นที่สำคัญ แต่ก็ต้องไม่ลืมสิ่งสำคัญที่สุดก็คือโปรดักต์และบริการที่มีคุณภาพที่เราต้องมีให้ลูกค้าด้วย
ถามถึงโครงการในปีนี้ดร.เกษราบอกว่าเสนาจะเปิดทั้งหมด 17 โครงการทั้งแนวราบและคอนโด โดยมุ่งตลาดคอนโดมิเนียมเพราะตอบโจทย์ไลฟ์ไสต์และการใช้ชีวิตของคนยุคปัจจุบัน
“3 ไตรมาสที่ผ่านมา เสนาเปิดไป 13 โครงการและไตรมาสนี้เปิดอีก 4 โครงการ รวมแล้วก็ 17 โครงการ ปีนี้เราลงทุน 2.3 หมื่นล้านบาท เปิดตัวโครงการทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียมรวม 17 โครงการ ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 1 หมื่นล้านบาท ภายในช่วงระยะ 1-2 ปี โดย ที่ปี 2561 เรามุ่งตลาดคอนโดมิเนียม เน้นเจาะกลุ่มระดับราคา 2-3.5 ล้านบาทต่อหน่วย เป้าหมายลูกค้าคือบุคคลรายได้ 3-4 หมื่นบาทต่อเดือน
ส่วนเรื่องที่กำลังเป็น Talk of the town สำหรับวงการอสังหาฯในตอนนี้ก็คือ การที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือ “แบงก์ชาติ” ได้ออกมาตรการประกาศการปรับปรุงเกณฑ์ปล่อยกู้อัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV : Loan to Value )ไม่เกินระดับ 80 % ((LTV limit 80 %) หรือต้องมีเงินดาวน์อย่างน้อย 20 % นั้น จะส่งผลกระทบอย่างไรต่อผู้ประกอบการอสังหาฯ
ดร.เกษรา กล่าวว่า เกณฑ์กำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัยกำหนดเงินดาวน์ขั้นต่ำ สำหรับ กู้หลังที่ 2 ขึ้นไป หรือที่อยู่อาศัยมูลค่า 10 ล้านบาทขึ้นไป ไม่ต่ำกว่า 20 % ของมูลค่าหลักประกัน เริ่มต้นปีหน้านั้นกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ แต่เมื่อประกาศกฎเกณฑ์ใหม่ออกมา และมีผลบังคับใช้ผู้ประกอบการก็คงต้องมาจัดเตรียมความพร้อมกันใหม่ในหลายๆ ด้านเพื่อไม่ให้กระทบยอดโอน และยอดขาย(Pre-sales) โครงการใหม่ รวมถึงโครงการที่อยู่ระหว่างการขายในปัจจุบัน
“ประเด็นเรื่องการขอสินเชื่อกู้ซื้อบ้านของลูกค้านั้น ธนาคารจะรัดกุมการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น เสนา ก็คงต้องจัดกิจกรรมให้ข้อมูล และพบปะกับลูกค้าถี่ขึ้น และคงมีการเชิญสถาบันการเงินมาร่วมด้วย เราคงต้องมาดูสัญญาลูกค้าหากสัญญาที่ทำเป็นสัญญาที่สอง ก็คงพูดคุยกับลูกค้าให้เตรียมเงินเพิ่ม
กลุ่มลูกค้าของเสนานั้นจะมีสัดส่วนสักกว่า 10 % ที่ซื้อคอนโดมิเนียมเป็นการลงทุนปล่อยเช่า หรือซื้อบ้านหลังที่สองเพื่ออยู่อาศัยในระหว่างทำงานในเมือง และจากนี้ไปวิธีการขายอาจลงลึกไปถึงวัตถุประสงค์ของลูกค้าว่า ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง หรือเพื่อลงทุน เพื่อประกอบการกำหนดเงื่อนไขเงินดาวน์ หรือประกอบการกำหนดกลยุทธ์การตลาดและการขาย”
รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SENA ย้ำเพิ่มเติมว่า มีลูกค้าบางกลุ่มที่มีบ้านอยู่อาศัยอยู่แล้ว และได้ซื้อคอนโดฯ ในเมืองเพิ่ม เพื่อเป็นบ้านหลังที่สองสำหรับให้บุตรหลานอยู่อาศัยระหว่างที่เรียนหนังสือ หรือทำงานในเมือง ซึ่งเข้าข่ายเป็นสัญญาที่สอง
รายละเอียดต่างๆ เหล่านี้บริษัทฯ คงต้องกลับเข้าดูว่าจะแก้ไขอะไรได้บ้างเพื่อไม่ให้กระทบหรือเป็นภาระให้กับลูกค้า ส่วนตัวต้องการฝากไปยัง แบงก์ชาติ พิจารณาในประเด็นนี้ด้วย รวมถึงลูกค้าที่ซื้อคอนโดฯ เป็นหลังแรก แล้วเมื่อครอบครัวขยายใหญ่ขึ้น มีบุตรคนหรือสองคนหรือมีสมาชิกเพิ่มแล้วต้องการซื้อบ้านแนวราบ (บ้านจัดสรร) หลังใหญ่ขึ้นเพื่ออยู่อาศัยจริง
“รายละเอียดเหล่านี้ก็อยากให้คำนึงถึงด้วยเช่นกัน ซึ่งก็เห็นด้วยหากจะมีการขยายเวลาการบังคับใช้ของประกาศใหม่ออกไปเป็นครึ่งปี เพื่อให้ลูกค้าและผู้ประกอบการมีเวลาเตรียมตัว” ดร.เกษรากล่าว
ท้ายที่สุด ก็คงต้องบอกว่าวันนี้ บมจ.เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ หรือ SENA พร้อมรุกและก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง ด้วยนวัตกรรมและแบรนด์ ที่จะตอบโจทย์และสร้างความภูมิใจให้กับลูกค้า ดังที่ดร.เกษราย้ำกับเราว่า “ความไว้วางใจจากลูกค้า คือความภูมิใจของเรา”
Click Donate Support Web
