Tweet

0

Details

Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ

Published: Saturday, 03 November 2018 23:19

Hits: 9507

พร็อพเพอร์ตี้กูรู คว้าเงินระดมทุนรอบใหม่มูลค่า 200 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ขยายศักยภาพความเป็นผู้นำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมประกาศควบกิจการเว็บสื่อกลางอสังหาฯ อันดับ 1 ของเวียดนาม Batdongsan.com.vn อย่างเต็มรูปแบบ

     พร็อพเพอร์ตี้กูรู กรุ๊ป กลุ่มบริษัทด้านเทคโนโลยีอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของเอเชียและเป็นบริษัทแม่ของดีดีพร็อพเพอร์ตี้ มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) ประกาศในวันนี้ว่าได้รับทุนจากการระดมทุนระดับซีรีส์ดี (Series D) มูลค่า 200 ล้านสิงคโปร์ดอลลาร์ (ประมาณ 145 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐ) จากกลุ่มทุนระดับโลก เคเคอาร์ (KKR) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกลุ่มทุนที่มีการลงทุนภาคเอกชนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากที่สุด อีกทั้งยังร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัทด้านเทคโนโลยีชั้นนำทั่วเอเชีย ล่าสุด เคเคอาร์ได้เข้ามาเป็นหนึ่งในบอร์ดบริหารของพร็อพเพอร์ตี้กูรูร่วมกับ ทีพีจี (TPG), เอ็มเทค (Emtek) และ สแควร์ เพ็ก แคปิตอล (Square Peg Capital)

      การได้รับเงินทุนรอบใหม่ในครั้งนี้นับเป็นการเสริมความแข็งแกร่งในการเป็นผู้นำของพร็อพเพอร์ตี้กูรูในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผนวกกับการควบรวมกิจการอย่างเต็มรูปแบบกับเว็บสื่อกลางอสังหาฯ อันดับหนึ่งของเวียดนามอย่าง Batdongsan.com.vn โดยนับตั้งแต่วันนี้ เวียดนามจะเป็นตลาดหลักแห่งที่ 5 อย่างเป็นทางการของพร็อพเพอร์ตี้กูรูกรุ๊ป นอกเหนือจากสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทย การควบรวมกิจการในครั้งนี้ยังเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทต่อตลาดเวียดนาม หลังจากที่ได้ร่วมเป็นผู้ถือหุ้นในเว็บอสังหาฯ เบอร์ 1 ของเวียดนามตั้งแต่ปี 2559 โดยเวียดนามเป็นประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และมีการคาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) จะขยายตัวถึงร้อยละ 6.8 ในปี 2561[1] นี้   ปัจจุบัน พร็อพเพอร์ตี้กูรูมีเว็บไซต์สื่อกลางด้านอสังหาฯ ที่ให้บริการใน 5 ประเทศ ประกอบด้วย PropertyGuru ในประเทศสิงคโปร์และมาเลเซีย, DDproperty.com ในประเทศไทย, Rumah.com ในประเทศอินโดนีเซีย และล่าสุด Batdongsan.com.vn ในประเทศเวียดนาม โดยพร็อพเพอร์ตี้กูรูกรุ๊ปครองส่วนแบ่งการตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถึงร้อยละ 55 สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมในเว็บไซต์ของเครือในกลุ่มผู้ค้นหาอสังหาฯ ในภูมิภาคนี้ นอกจากนี้ พร็อพเพอร์ตี้กูรูยังเป็นผู้จัดงานมอบรางวัล 'เอเชีย พร็อพเพอร์ตี้ อวอร์ดส์' ซึ่งเป็นรางวัลด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ทรงคุณค่าที่สุดในเอเชีย มีการจัดงานใน 11 ประเทศทั่วภูมิภาค

        การได้รับเงินระดมทุนรอบใหม่ในครั้งนี้เป็นการเสริมความแข็งแกร่งครั้งสำคัญให้กับพร็อพเพอร์ตี้กูรูในฐานะบริษัทด้านเทคโนโลยีชั้นนำที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในภูมิภาค โดยบริษัทจะนำเงินทุนดังกล่าวมาต่อยอดการลงทุนพัฒนาด้านเทคโนโลยีเพื่อนำเสนอโซลูชั่นที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้บริการที่มีทั้งผู้บริโภคทั่วไป ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ และบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา พร็อพเพอร์ตี้กูรูกรุ๊ปได้ประกาศปรับแบรนด์ครั้งใหญ่ ด้วยการปรับโฉมเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นในเครือทั้งหมด และบริษัทได้นำเอานวัตกรรมซึ่งขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยี Artificial Intelligence (AI) เข้ามาใช้ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของธุรกิจอสังหาฯ ในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์

       นายแฮรี่ วี. คริชนัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร็อพเพอร์ตี้กูรูกรุ๊ป กล่าวว่า “การได้รับทุนครั้งใหม่ในครั้งนี้ถือเป็นบทพิสูจน์ครั้งสำคัญว่าพร็อพเพอร์ตี้กูรูมุ่งมั่นที่จะพัฒนาด้านเทคโนโลยีอย่างแท้จริง เป็นเวลากว่าทศวรรษที่เราครองความเป็นผู้นำตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และมีผลการดำเนินงานด้านธุรกิจที่แข็งแกร่ง ปัจจุบัน เรามีผลประกอบการที่ดี การบริหารเงินสดที่เป็นบวก และมีรายได้ที่เติบโตในรอบปีกว่าร้อยละ 25 เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มี เคเคอาร์ ซึ่งเป็นกลุ่มลงทุนด้านเทคโนโลยีบลูชิพ (blue chip) เข้ามาร่วมบอร์ดบริหาร เนื่องจากเรามีแผนที่จะโฟกัสในด้านนวัตกรรมและการเติบโตของบริษัทในทศวรรษนี้”

       นายแฮรี่ ได้กล่าวเสริมถึงการควบรวมกิจการกับเว็บไซต์อันดับ 1 ในเวียดนามว่า “เราได้เข้าไปลงทุนกับ Batdongsan ครั้งแรกเมื่อปี 2559 และรู้สึกประทับใจในความเป็นผู้นำตลาดที่แข็งแกร่งและความมุ่งมั่นของ Batdongsan ในการนำเสนอบริการที่มีคุณค่าให้กับภาคอสังหาฯ ของเวียดนาม และการควบรวมกิจการของ Batdongsan ในวันนี้เป็นการเน้นย้ำความมุ่งมั่นเดียวกันในเวียดนามของเรา เรามุ่งหวังที่จะนำความเชี่ยวชาญจากการดำเนินการในประเทศต่างๆ ทั่วอาเซียนมาปรับใช้เพื่อให้เป็นประโยชน์สูงสุดทั้งกับผู้บริโภคชาวเวียดนามที่กำลังมองหาบ้าน และภาคธุรกิจอสังหาฯ ของเวียดนาม”

       ด้านนายอาชิช ชาสทรี หัวหน้าประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเป็นหนึ่งในนักลงทุนของเคเคอาร์ กล่าวว่า “การได้เข้ามาลงทุนในพร็อพเพอร์ตี้กูรู ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีการพัฒนาด้านเทคโนโลยีที่น่าสนใจมากที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคนี้ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง ในช่วงที่ผ่านมาหลายธุรกิจเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับออนไลน์เป็นวงกว้าง และทีมพร็อพเพอร์ตี้กูรู นำโดยนายแฮรี่ วี. คริชนัน ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเป็นผู้นำด้านอสังหาฯ ออนไลน์ในภูมิภาคนี้อย่างแท้จริง ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการร่วมเป็นพันธมิตรของเราในครั้งนี้จะช่วยยกระดับความแข็งแกร่งให้กับพร็อพเพอร์ตี้กูรูอีกขั้นหนึ่ง”

      การลงทุนของเคเคอาร์ในพร็อพเพอร์ตี้กูรูครั้งนี้เป็นการนำเงินจากกองทุน เคเคอาร์ เอเชียน ทรี (KKR Asian Fund III) การลงทุนดังกล่าวเป็นหนึ่งของกลยุทธ์สำคัญของเคเคอาร์ โดยจะเลือกลงทุนในตลาดที่มีการเติบโตสูงและบริษัทเชื่อมั่นว่าตลาดนั้นๆ จะได้รับประโยชน์จากการพัฒนาด้านเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว การลงทุนในบริษัทด้านเทคโนโลยีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของกลุ่มเคเคอาร์ที่ผ่านมา อาทิ โวยาเจอร์ อินโนเวชั่นส์ (Voyager Innovations) ซึ่งเป็นบริษัทเทคฯ ชั้นนำของฟิลิปปินส์ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการชำระเงินแบบดิจิทัล (digital payments) ระบบการเงินแบบดิจิทัล (digital finance) และเทคโนโลยีต่างๆ ทางการตลาด รวมไปถึง โก-เจ็ก (Go-Jek) แพล็ตฟอร์มมือถือชั้นนำของอินโดนีเซียสำหรับเรียกใช้บริการรถสาธารณะ จัดส่งอาหาร และชำระเงินผ่านมือถือ

        ในขณะที่นายกาเนน ซาร์วาเนธาน ประธานบอร์ดบริหาร พร็อพเพอร์ตี้กูรูกรุ๊ปและพาร์ทเนอร์บริหารร่วมของทีพีจี แคปิตอล เอเชีย กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่ถือเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญของบริษัทและเกิดขึ้นพร้อมๆกัน นั่นคือการได้เคเคอาร์เข้ามาร่วมในบอร์ดบริหาร ซึ่งเราจะผนึกกำลังร่วมกันพัฒนาให้พร็อพเพอร์ตี้กูรูเจริญเติบโตยิ่งๆ ขึ้นไป ในขณะที่เวียดนามเป็นอีกหนึ่งตลาดที่สำคัญของเรา การได้ Batdongsan เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวพร็อพเพอร์ตี้กูรูช่วยให้เราได้เปิดประตูแห่งความสำเร็จบานใหม่ในเวียดนามและมุ่งมั่นที่จะเพิ่มยอดขายในตลาดแห่งนี้”

       นายเล ซวน จวง ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ Batdongsan กล่าวว่า “Batdongsan และพร็อพเพอร์ตี้กูรูกรุ๊ปเป็นพันธมิตรกันมายาวนาน และเรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่พร็อพเพอร์ตี้กูรูตัดสินใจที่จะขยายการลงทุนในธุรกิจของเรา Batdongsan ยังคงครองความเป็นผู้นำตลาดในเวียดนาม ซึ่งเป็นสิ่งที่เราภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง และรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็นบริษัทเติบโตขึ้นไปอีกขั้นด้วยการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทอสังหาฯ ออนไลน์ชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร็อพเพอร์ตี้กูรูได้เปิดโอกาสทางธุรกิจในระดับภูมิภาคและนำความเชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีมาแชร์ให้กับเรา ซึ่งจะช่วยให้เราพัฒนาบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนหาบ้านในตลาดที่มีการเติบโตด้านอสังหาฯ และดิจิทัลเร็วที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชียอาคเนย์อย่างเวียดนาม”

      ในแต่ละเดือน Batdongsan.com.vn มีจำนวนผู้ใช้บริการกว่า 4 ล้านราย มียอดเข้าชมสูงถึง 70 ล้านเพจวิว และมีรายการประกาศอสังหาฯ ใหม่ๆ เข้าสู่ระบบกว่า 1 ล้านรายการ ปัจจุบัน บริษัทมีพนักงานกว่า 600 คนและสำนักงานใน 9 เมืองทั่วประเทศเวียดนาม

     เวียดนามได้รับการจับตาว่าเป็นประเทศที่จะมีการเติบโตทางเศรษฐกิจรวดเร็วที่สุดของโลก[2] โดยคาดว่าภายในปี พ.ศ. 2593 ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) จะขยับขึ้นไปสู่อันดับที่ 20 ของโลก ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ จีดีพีของเวียดนามมีการเติบโตสูงถึงเกือบร้อยละ 7.4 จนทำให้มีการปรับการคาดการณ์จีดีพีของทั้งปีว่าจะมีการเติบโตที่ร้อยละ 6.8 (ปรับเพิ่มจากการคาดการณ์ของธนาคารโลกก่อนหน้านี้ ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 6.5)[3] เวียดนามถือเป็นตลาดที่สำคัญสำหรับพร็อพเพอร์ตี้กูรู เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของกลุ่มคนในชนชั้นกลางและมีการขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็ว ปัจจุบัน เวียดนามยังเป็นหนึ่งในประเทศที่จำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเติบโตเร็วที่สุดในโลก โดยร้อยละ 67 ของประชากรเข้าถึงเครือข่ายอินเทอร์เน็ต มีจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ (unique users) กว่า 70 ล้านราย และมีจำนวนผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียราว 55 ล้านราย[4]

       สำหรับ การระดมทุนในครั้งนี้ พร็อพเพอร์ตี้กูรูได้แต่งตั้งให้เรดพีค แอดไวเซอร์ส์ เป็นที่ปรึกษาด้านการเงิน และอัลเลน แอนด์ เกลดฮิลล์ เป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมาย

ข้อมูลและรายละเอียดด้านการตลาดของพร็อพเพอร์ตี้กูรูกรุ๊ป

https://www.propertyguru.com.sg/ https://www.commercialguru.com.sg/

https://www.propertyguru.com.my/

https://www.ddproperty.com/

https://www.rumah.com/; https://rumahdijual.com/

https://batdongsan.com.vn/

ทุนทั้งหมดที่ได้รับถึงปัจจุบัน

436.2 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์

รายละเอียดการระดมทุน:

ซีรีส์ A – พ.ศ.2551 –1.2 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์

ซีรีส์ B – พ.ศ.2555 - 60 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์

ซีรีส์ C – พ.ศ.2558 – 175 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์

ซีรีส์ D – พ.ศ.2561 – 200 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์