- Details
- Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ
- Published: Tuesday, 16 September 2014 23:51
- Hits: 3007
แมกโนเลียจับมือกลุ่มทรู ทุ่ม 200 ล้านบาท ตอกย้ำวิสัยทัศน์พัฒนาเทคโนโลยีสื่อสารเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งอนาคต
บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัดโดย นายธนวันต์ ชัยวัฒนะ กรรมการผู้จัดการ ร่วมลงนามสัญญากับ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดย นายขจร เจียรวนนท์ผู้อำนวยการบริหาร ด้านลูกค้าองค์กรธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในการร่วมมือพัฒนาเทคโนโลยีสื่อสารเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งอนาคตเพื่อติดตั้งในโครงการหรูระดับซูเปอร์ลักชัวรี่'แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนซ์' ซึ่งเป็นโครงการที่พักอาศัยแห่งแรกในประเทศไทยที่จะมีเทคโนโลยี GPON (Gigabit Passive Optical Network) หรือ Fiber to Home รองรับไลฟ์สไตล์แห่งอนาคต ด้วยเทคโนโลยีความเร็วสูงเหนือขีดจำกัดถึง 2,000Mbps ด้วยวงเงินลงทุนกว่า 200 ล้านบาท ตอกย้ำวิสัยทัศน์การพัฒนาโครงการมาตรฐานสูงสุดระดับโลกเพื่อมอบความสะดวกสบายให้แก่ผู้พักอาศัยทุกยูนิตในโครงการ
นายธนวันต์ ชัยวัฒนะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า “เรามีความมุ่งมั่นที่จะมอบโครงการที่พักอาศัยระดับคุณภาพและมีมาตรฐานสูงสุดเพื่อความยั่งยืนแห่งอนาคตให้แก่ผู้พักอาศัยในโครงการของเรา ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีที่จะเข้ามามีบทบาทและให้ความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตอย่างเหนือระดับในอนาคต เราจึงลงทุนติดตั้งระบบสื่อสารที่มีความทันสมัยสูงสุดด้วยมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท โดยร่วมเป็นพันธมิตรระยะยาวกับกลุ่มทรู พัฒนาเทคโนโลยีสื่อสารที่มีความเร็วสูงสุดถึง 2,000Mbps สามารถรองรับการใช้งานที่เกิดขึ้นในอนาคตได้ถึง 10 ปีมาติดตั้งในโครงการ“แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนซ์” เป็นโครงการแรก เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจในฐานะผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย ซึ่งตั้งใจสรรหาเทคโนโลยีที่ดีที่สุด มาเติมเต็มความสมบูรณ์แบบของโครงการพักอาศัยที่มีความพิเศษในระดับโลกให้ตอบสนองในทุกความต้องการ ด้วยเทคโนโลยีเหนือระดับและความสะดวกสบายแห่งอนาคตได้อย่างไร้ขีดจำกัด
การลงทุนมูลค่า 200 ล้านบาท ในการนำเสนอเทคโนโลยีอันล้ำสมัยนี้ ถือว่าเป็นสิ่งที่คุ้มค่า เนื่องจากเป็นวิสัยทัศน์ของแมกโนเลียในการพัฒนาทุกโครงการให้มีมาตรฐานในระดับโลกสำหรับโครงการ“แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนซ์” เลือกใช้ GPON ซึ่งเป็นเทคโนโลยีทันสมัยที่สุด ทำให้ลูกค้าในโครงการได้รับความสะดวกสบายด้านการสื่อสาร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งถือว่าเราเป็นโครงการที่พักอาศัยแห่งแรกในประเทศไทยที่มีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงติดตั้งในโครงการ โดยลูกค้าที่ซื้อโครงการทุกยูนิต จะได้รับ Ultimate Package ฟรีนาน 1 ปี ประกอบไปด้วย อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านใยแก้วนำแสง จุดรับสัญญาณโทรศัพท์มือถือที่รองรับสัญญาณ 4G ป้องกันปัญหาจุดอับสัญญาณบนตึกสูง พร้อมช่องรายการระดับโลกจากทรูวิชั่นส์ ด้วยแพคเก็จสูงสุดระดับแพลตทินั่ม ที่มาพร้อมกับทรูวิชั่นส์ เอนี่แวร์ ให้รับชมรายการโปรดได้ทุกที่ทุกเวลา รวมถึงโทรศัพท์บ้านสมัยใหม่ผ่านอินเทอร์เน็ตรวมมูลค่าสูงสุด 100,000 บาทตลอดระยะเวลา1 ปี” นายธนวันต์กล่าว
นายขจร เจียรวนนท์ ผู้อำนวยการบริหาร ด้านลูกค้าองค์กรธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กลุ่มทรูภาคภูมิใจที่ได้รับเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสุดเอ๊กซ์คลูซีพที่พิถีพิถันใส่ใจทุกรายละเอียดของการดำเนินชีวิต สะท้อนรสนิยมและไลฟ์สไตล์อันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของผู้อยู่อาศัยในโครงการ แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนซ์ ซึ่งกลุ่มทรูเริ่มดำเนินการตั้งแต่วิจัยและพัฒนาเพื่อสรรหาเทคโนโลยีที่มีความเหมาะสมกับโครงการและผู้พักอาศัย โดยเลือกใช้โครงข่ายโทรคมนาคมที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับเวิลด์คลาส ด้วยเทคโนโลยีไฟเบอร์ออพติคผ่านโครงข่ายใยแก้วนำแสงหรือ “จีพอน” (GPON: Gigabit Passive Optical Network ) โดยนำมาใช้กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โครงการนี้เป็นครั้งแรก เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่สามารถรองรับการใช้งานที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้เป็นอย่างดี พร้อมประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด ทั้งด้านความปลอดภัยความเสถียร และสามารถให้บริการอินเทอร์เน็ตด้วยความเร็วสูงในระดับกิ๊กกะบิตซึ่งจะเปลี่ยนประสบการณ์ ให้กับผู้พักอาศัยในโครงการ ได้ใช้บริการคอนเวอร์เจนซ์ของกลุ่มทรู ได้อย่างครบครันและเต็มรูปแบบ ทั้งอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์แบบมีสายและไร้สายความเร็วสูงเหนือมาตรฐานทั่วไป พร้อมชมเคเบิ้ลทีวีในระบบ HD ที่มีคมชัดรวมถึงบริการด้านโมบายล์ที่มีสัญญาณเครือข่าย 4G ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ภายในโครงการ ทั้งหมดนี้คือความพิเศษเหนือระดับด้านเทคโนโลยีสื่อสารที่กลุ่มทรูมอบให้กับลูกค้าโครงการ แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนซ์”
โครงการ แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนซ์ ตั้งอยู่ในพื้นที่ 50 ไร่ ของโครงการไอคอนสยาม ซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์คระดับโลกริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มีพื้นที่ติดแม่น้ำทอดยาวในเขตใจกลางกรุงเทพฯ คิดเป็นระยะทางยาวกว่า 400 เมตร ซึ่งเปิดตัวโครงการและห้องตัวอย่างในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และได้การตอบรับอย่างดียิ่งจากลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยมีจุดเด่นที่แตกต่างด้วยองค์ประกอบสามส่วนสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนโครงการที่พักอาศัยแห่งนี้ให้เป็นโครงการที่พักอาศัยที่มีความพิเศษระดับโลกได้ ได้แก่ 1) ทุกห้องพักใช้วัสดุอุปกรณ์ที่หรูหราที่สุด 2) ตัวอาคารถูกใส่ความหรูหราและสง่างามอย่างพิถีพิถัน ขณะที่องค์ประกอบด้านวิศวกรรม และระบบกลไกภายในอาคารที่มองไม่เห็นได้รับการออกแบบคัดสรรให้มีคุณภาพระดับโลก และที่สำคัญ คือ 3) การตั้งอยู่ในพื้นที่ 50 ของโครงการไอคอนสยาม ทำให้สิ่งแวดล้อมโดยรวมของที่ตั้งโครงการ จะได้รับการออกแบบและควบคุมให้อยู่ในมาตรฐานระดับสูงสุด อีกทั้งผู้พักอาศัยในโครงการยังได้อยู่ใกล้อาณาจักรศูนย์การค้าและแหล่งบันเทิงระดับโลก ในขณะที่ยังได้สัมผัสกับธรรมชาติริมน้ำเจ้าพระยาอย่างใกล้ชิด รวมทั้งยังได้อิ่มเอมกับวิวธรรมชาติที่สวยงามมีมนต์เสน่ห์และสร้างแรงบันดาลใจ
ความร่วมมือกับทรู เพื่อติดตั้งและพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสารเพื่อที่อยู่อาศัยในระดับเวิลด์คลาสในวันนี้ จึงถือได้ว่าเป็นอีกก้าวของความสำเร็จและเป็นอีกองค์ประกอบหนึ่งที่มาช่วยเสริมสร้างความสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นให้แก่โครงการ “แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนซ์” พร้อมตอกย้ำถึงวิสัยทัศน์ของเราในการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่มีมาตรฐานสูงสุดเพื่อความยั่งยืน (Sustainability) ที่เรายึดถือมาโดยตลอด” นายธนวันต์กล่าวทิ้งท้าย
TRUE เผยโครงการอินเทอร์เน็ตในคอนโดฯ ถึงจุดคุ้มทุนใน 7-10 ปี ตั้งเป้ารายได้ธุรกิจโครงข่ายในอสังหาฯ ปีนี้โต 20% จากปีก่อนทำได้ 1.5 พันลบ.
นายขจร เจียรวนนท์ ผู้อำนวยการบริหารด้านลูกค้าองค์กรธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE เปิดเผยว่า จากโครงการการร่วมมือพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสารเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งอนาคต โดยติดตั้งใน แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนท์ ด้วยงบลงทุนกว่า 200 ล้านบาทนั้น คาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุนได้ใน 7-10 ปีข้างหน้า โดยคาดว่าในปีแรกจะสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ กว่า 10 ล้านบาทต่อปี
นอกจากนี้ ตั้งเป้ารายได้จากธุรกิจโครงข่ายในอสังหาริมทรัพย์ปีนี้ เติบโต 20% จากปีก่อนที่ทำได้ 1,500 ล้านบาท โดยรายได้จากธุรกิจโครงข่ายในอสังหาฯ คิดเป็น 10% ของรายได้รวมทั้งหมด ซึ่งลูกค้าหลักของบริษัทฯ จะเป็นกลุ่มลูกค้าอสังหาฯ เช่น คิวเฮ้าส์ และ แลนด์แอนด์เฮ้าส์
"จากการที่บริษัทฯ ได้ติดตั้งโครงข่ายในที่พักอาศัย แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนท์ ซึ่งเป็นโครงการที่พักอาศัยแห่งแรกที่ใช้เทคโนโลยี GPON ซึ่งใช้เทคโนโลยีความเร็วสูงถึง 2,000 Mbps ซึ่งคาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุนได้ 7-10 ปีข้างหน้า ลูกค้ากลุ่มหลักของบริษัทฯ จะเป็นกลุ่มอสังหาฯ ที่ติดอันดับ TOP10 กว่า 22 บริษัท เช่น คิวเฮ้าส์ แลนด์แอนด์เฮ้าส์ เป็นต้น"นายขจร กล่าว
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย