- Details
- Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ
- Published: Friday, 27 July 2018 10:58
- Hits: 2107
ชินวะ เรียลเอสเตท ติดเครื่องผลิตระบบรูเนะสุในไทย เล็งทำตลาดทั้งในและต่างประเทศหลังผ่านมาตรฐานจากบ.แม่
ชินวะ เรียลเอสเตท (ไทยแลนด์) ติดเครื่องผลิตระบบรูเนะสุในไทย ชี้ขั้นตอนสำคัญต้องส่งบริษัทแม่ตรวจสอบเกณฑ์มาตรฐาน จากนั้นเดินหน้ารุกทำตลาดทั้งในและต่างประเทศ
มร.โทโมยาสุ ยามาเบะ กรรมการผู้จัดการ และ นายวิชัย จุฬาโอฬารกุล กรรมการบริหาร บริษัท ชินวะ เรียลเอสเตท (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า ภายหลังการเข้ามาปักหมุดลงทุนในไทยประมาณสองปีที่ผ่านมา โดยพัฒนาคอนโดมิเนียมด้วยระบบรูเนะสุ ที่นำนวัตกรรมซิกม่าบีม (Sigma Beam) ลิขสิทธิ์เฉพาะของชินวะ กรุ๊ป-บริษัทแม่ที่โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ขณะนี้เดินเครื่องผลิตนวัตกรรมซิกม่าบีม ในประเทศไทย ด้วยการติดตั้งเครื่องจักร 1 เครื่อง ซึ่งจะมีกำลังการผลิตได้เพียงพอต่อการทำตลาดในช่วงเริ่มต้น โดยขั้นตอนสำคัญเมื่อผลิตชิ้นส่วนซิกม่า บีมที่โรงงานในไทย จะต้องส่งไปทดสอบเกณฑ์มาตรฐานจากบริษัทแม่ที่ประเทศญี่ปุ่น หากได้เกณฑ์มาตรฐานแล้วจะนำมาใช้ติดตั้งในโครงการเร็น สุขุมวิท39 ซึ่งเป็นโครงการใหม่ของบริษัทที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเร็วๆนี้ นอกจากนั้นมีแนวทางการทำตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยเป้าหมายคือ โครงการคอนมิเนียมในเมือง ขนาด 20 ตร.ม.เศษ ทาวน์โฮมและบ้านเดี่ยว ที่มีพื้นที่ใช้ประโยชน์ขนาดต่ำกว่า 250 ตร.ม. ส่วนตลาดต่างประเทศ ขณะนี้ประเทศที่สนใจอยู่ระหว่างการเจรจา คือ ฮ่องกง และ สิงคโปร์
“ชินวะ กรุ๊ป บริษัทแม่ของชินวะ เรียลเอสเตท (ไทยแลนด์) ที่มีสำนักงานใหญ่ที่โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น มีรากฐานเติบโตมาจากงานคอนสตรัคชั่น ขณะนี้มีประวัติศาสตร์การดำเนินงานมาถึง 128 ปีแล้ว ธุรกิจในเครือแตกไลน์หลายแขนง เรามีนโยบายการพัฒนาโครงการในไทยปีละ 1-2 โครงการก่อน เพราะต้องการใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อให้งานออกมาอย่างมีคุณภาพ โดยแนวทางของชินวะ กรุ๊ป แตกต่างจากกลุ่มทุนญี่ปุ่นอื่นๆที่เข้ามาลงทุนกับดีเวลลอปเปอร์ไทยในลักษณะที่เน้นการลงเงินทุน แต่นโยบายจอยท์ เวนเจอร์ของชินวะฯ คือเรานำโนว์ฮาวเข้ามาใช้ในการก่อสร้างในไทยด้วย การเข้ามาตั้งโรงงานผลิตซิกม่า บีม ชิ้นส่วนสำคัญของระบบรูเนะสุนี้ เป็นเป้าหมายที่วางไว้ตั้งแต่ต้น ทั้งนี้เพื่อต้องการให้กลุ่มเป้าหมาย ทั้งชาวไทย ญี่ปุ่น และผู้อยู่อาศัยในโครงการได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ในแบบที่บริษัทแม่ Shinwa ที่ญี่ปุ่นได้ประสบความสำเร็จ และได้ครองใจคนญี่ปุ่นมาแล้ว กว่า 128 ปี” มร.ยามาเบะ กล่าว
ด้านนายวิชัย จุฬาโอฬารกุล กรรมการบริหาร บริษัท ชินวะ เรียลเอสเตท (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า การทำตลาดระบบรูเนะสุของชินวะฯ จะเป็นการขายโซลูชั่น ไม่เฉพาะการขายชิ้นส่วนซิกม่าบีมเท่านั้น แต่จะรวมถึงขั้นตอนการให้คำปรึกษาแนะนำ ออกแบบ ควบคุมงานก่อสร้าง โดยการส่งวิศวกรผู้ชำนาญงานเข้าไปร่วมดูแลเพื่อให้ได้มาตรฐานของระบบ สำหรับกลยุทธ์การทำตลาดขณะนี้มีเป้าหมายทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยมุ่งเน้นคอนโดมิเนียมในเมือง ที่มีขนาดพื้นที่ประมาณ 20 ตารางเมตรเศษ ซึ่งระบบรูเนะสุ นี้จะเข้ามาช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้ประโยชน์ให้มากขึ้น โดยการกลับคานเป็นพื้น-กลับพื้นเป็นคาน เพื่อใช้พื้นที่ความต่างด้านล่างที่มีความสูง 60 เซนติเมตรเพื่อใช้ประโยชน์ในการเก็บของ ปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่น การบริหารจัดการ Death Space และสามารถทำให้ผู้อยู่อาศัยมีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้นถึง 25-40 % นอกจากนั้นยังมีโครงการแนวราบ เช่น ทาวน์โฮม บ้านเดี่ยว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบเพื่อสร้างโมเดลตัวอย่าง คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ และยังรวมถึงคอมมูนิตี้ มอลล์ และ อาคารออฟฟิศ ต่างๆ ที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน ส่วนการรุกตลาดต่างประเทศ ขณะนี้ประเทศที่สนใจระบบรูเนะสุและอยู่ระหว่างการเจรจา คือ ฮ่องกง และ สิงคโปร์
สำหรับ ชินวะ กรุ๊ป ได้เข้ามาจอยท์ เวนเจอร์กับกลุ่มทุนไทยเพื่อดำเนินงานคอนโดมิเนียมมาแล้ว 2 โครงการ คือ รูเนะสุ ทองหล่อ 5 คอนโดมิเนียมโลวไรส์ 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 156 ยูนิต โดยเป็นระบบรูเนะสุ 2 ชั้น มูลค่าโครงการกว่า 1,200 ล้านบาท ปิดการขายแล้วขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จราวไตรมาส 2 ปี 62 สำหรับโครงการเร็น สุขุมวิท 39 (ซอยพร้อมมิตร) เป็นอาคารสูง 7 ชั้น 2 อาคาร จำนวนรวม 298 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 2,600 ล้านบาท โดยเป็นระบบรูเนะสุทุกยูนิต เพิ่งเปิดตัวโครงการไปเมื่อเร็วๆนี้ และจะเปิดขายอย่างเป็นทางการประมาณไตรมาส 3 ของปีนี้
§ เกี่ยวกับ บริษัท ชินวะ เรียลเอสเตท (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นบริษัทในเครือของ ชินวะกรุ๊ป-กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ก่อตั้งมากว่า 128 ปี ประกอบธุรกิจด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในหลายรูปแบบ เข้ามาทำตลาดในไทยอย่างจริงจังตั้งแต่ปี 2016 ด้วยการร่วมทุนกับกลุ่มอสังหาฯในไทย ก่อสร้างโครงการ “รูเนะสุ ทองหล่อ 5” คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ 8 ชั้น จำนวน 156 ยูนิต มูลค่าประมาณ 1,200 ล้านบาท ออกแบบโครงการและฟังก์ชั่นการใช้งานด้วยบรรยากาศการอยู่อาศัยแบบญี่ปุ่นแท้จริง คาดว่าจะแล้วเสร็จราวไตรมาส 2 ปี 2562 สำหรับโครงการ REN Sukhumvit 39 เป็นโครงการที่สองของการร่วมลงทุนในไทย
§ เกี่ยวกับ บริษัท พรีบิลท์ จำกัด (มหาชน) บริษัทรับเหมาก่อสร้างมีชื่อจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีประสบการณ์และมีความชำนาญงานก่อสร้างคอนโดมิเนียมและอาคารต่างๆ ในไทยมากมาย นอกจากดำเนินงานด้านรับเหมาก่อสร้าง ยังมีนโยบายเปิดกว้างขยายการลงทุนทั้งในรูปของการพัฒนาโครงการเอง และเปิดกว้างร่วมลงทุนกับกลุ่มทุนต่างๆ
§ เกี่ยวกับ Pressance Corporation บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ที่มีจำนวนยูนิตสร้างขายเป็นที่ 1 ของคันไซ และเป็นที่ 2 ของประเทศญี่ปุ่น 21 ปี เป็นพันธมิตรที่ดีกับชินวะ กรุ๊ป มาอย่างต่อเนื่องยาวนาน โดยครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกของการออกมาร่วมทุนพัฒนาโครงการนอกประเทศ