- Details
- Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ
- Published: Saturday, 16 June 2018 21:47
- Hits: 8867
'พอร์โต้ ชิโน่' ปลื้มธุรกิจโค-เวิร์คกิ้งสเปซ ชู 3 แพคเกจจับกลุ่มสตาร์ทอัพ-เอสเอ็มอี
'พอร์โต้ ชิโน่' ปลื้มกระแสตอบรับ 'Heart Work Co-Working Space @ Porto Chino'พื้นที่ทำงานอิสระครบวงจรแห่งแรกในสมุทรสาคร ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ชีวิตยุคดิจิตอล ล่าสุดส่ง 3 แพคเกจสัญญาเช่า 1 ปี พร้อมสิทธิพิเศษมากมาย เอาใจลูกค้ากลุ่มสตาร์ทอัพและเอสเอ็มอี ฟันธงธุรกิจโค-เวิร์คกิ้งสเปซในประเทศไทยมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
นายสุเทพ ปัญญาสาคร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดี-แลนด์ พร็อพเพอร์ตี้ ผู้บริหาร'พอร์โต้ ชิโน่'(Porto Chino) ที่สุดแห่งไลฟ์สไตล์มอลล์สมุทรสาคร เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลาการดำเนินงานของพอร์โต้ ชิโน่ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้มีการศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคในทำเลมหาชัยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพบว่ามีหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม อย่างเช่น พฤติกรรมการใช้งานไลฟ์สไตล์มอลล์ของลูกค้าในปัจจุบันที่ไม่ได้ต้องการให้เป็นเพียงแค่สถานที่รับประทานอาหารหรือช็อปปิ้งแบบทั่วๆ ไป บริษัทฯ จึงได้ปรับปรุงและเพิ่มโซนพื้นที่เช่าทำงานพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก (Co-Working Space) ภายใต้ชื่อ ‘Heart Work Co-Working Space @ Porto Chino’ เพื่อตอกย้ำคอนเซ็ปต์ของ พอร์โต้ ชิโน่ ในการเป็น’The Heart of Your Community’และตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าด้วยการเพิ่มฟังก์ชั่นและเติมเต็มสิ่งใหม่ๆ ให้สอดรับกับความต้องการของลูกค้าที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น แต่ยังคงเอกลักษณ์ในการเป็นไอคอนของเมืองมหาชัยไว้อย่างครบถ้วน
“พอร์โต้ ชิโน่ เป็นไลฟ์สไตล์มอลล์ที่ตั้งอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพและเป็นสถานที่ที่เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ ซึ่งการเพิ่มโซน Heart Work Co-Working Space @ Porto Chino ซึ่งเป็นโค-เวิร์คกิ้งสเปซแห่งแรกในจังหวัดสมุทรสาคร ครบวงจรด้วยบริการให้เช่าพื้นที่ทำงาน ภายในตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์และพื้นไม้โทนเข้ม พร้อมบริการ Free Wi-Fi
และอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงห้องประชุมส่วนตัวและห้องประชุมสัมมนาขนาดใหญ่ที่สามารถจุคนได้ 50 ที่นั่ง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการทำงานแบบสมาร์ทออฟฟิศในบรรยากาศสุดชิคที่จะกระตุ้นให้เกิดไอเดียใหม่ๆ ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครและบริเวณใกล้เคียง รองรับกลุ่มสตาร์ทอัพที่ยังไม่มีออฟฟิศสามารถมานั่งทำงาน นัดประชุมลูกค้า หรือจัดสัมมนา และยังเป็นโอกาสสำหรับการได้พบปะกับกลุ่มคนที่มาใช้บริการในสาขาอาชีพต่างๆ เพื่อสร้างคอนเนคชั่นทางธุรกิจ กลุ่มคนทำงานอิสระหรือฟรีแลนซ์ใช้เป็นพื้นที่ในการสร้างสรรค์ผลงาน ในขณะที่นักเรียน นักศึกษา ใช้สำหรับอ่านหรือติวหนังสือก็สะดวกเช่นกัน” นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวเพิ่มเติมว่า Heart Work Co-Working Space @ Porto Chino เปิดให้บริการมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2560 ได้กระแสตอบรับดีเยี่ยม มีจำนวนผู้เข้าใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในส่วนของการเช่าใช้ห้องประชุมคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 70% ส่วนอีก 30% เป็นการเช่าแบบ Individual หรือเป็นรายบุคคล ซึ่งแตกต่างจากพฤติกรรมของผู้ใช้บริการโค-เวิร์คกิ้งสเปซ ในกรุงเทพฯ ที่ส่วนใหญ่จะเป็นการเช่าแบบรายบุคคล โดยกลุ่มที่เข้ามาใช้บริการที่ Heart Work Co-Working Space @ Porto Chino เป็นทั้งนักธุรกิจสตาร์ทอัพ กลุ่มฟรีแลนซ์ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ครีเอเตอร์ องค์กรต่างๆ รวมถึงกลุ่มที่ใช้เพื่อสอนหรือติวหนังสือ เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00-21.00 น. ณ บริเวณชั้น 1 พอร์โต้ ชิโน่ กม. 25 ถนนพระราม 2 จังหวัดสมุทรสาคร
ล่าสุด บริษัทฯ ได้จัดทำแพคเกจการเช่าออฟฟิศของ Heart Work Co-Working Space @ Porto Chino สำหรับลูกค้ากลุ่มสตาร์ทอัพและเอสเอ็มอี ด้วยแพคเกจสัญญาเช่า 1 ปี มีให้เลือก 3 แพคเกจ โดยแพคเกจที่ 1 เช่าเป็นออฟฟิศพร้อมบริการจดทะเบียนบริษัท รวมทั้งพื้นที่ Private Office พื้นที่ใช้งานส่วนกลาง ล็อกเกอร์ ที่จอดรถ ห้องประชุมสำหรับ 4-6 ท่าน สิทธิพิเศษการใช้จ่ายภายในศูนย์ ทีวี./โต๊ะทำงาน พร้อมด้วย Mailbox และ Printing & Copy อัตราค่าบริการอยู่ที่ 30,000 บาท/เดือน แพคเกจที่ 2 จดทะเบียนบริษัทพร้อมที่นั่งทำงานส่วนตัว พื้นที่ Private Office พื้นที่ใช้งานส่วนกลาง ล็อกเกอร์ ที่จอดรถ ห้องประชุมสำหรับ 4-6 ท่าน สิทธิพิเศษการใช้จ่ายภายในศูนย์ รวมถึง Mailbox และ Printing & Copy ค่าบริการ 20,000 บาท/เดือน และ แพคเกจที่ 3 จดทะเบียนบริษัท รับฝากเอกสาร ห้องประชุมสำหรับ 4-6 ท่าน ล็อกเกอร์ ที่จอดรถ สิทธิพิเศษการใช้จ่ายภายในศูนย์ และ Printing & Copy ค่าบริการ 4,500 บาท/เดือน
“ธุรกิจโค-เวิร์คกิ้งสเปซในประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากพฤติกรรมของคนทำงานที่เปลี่ยนแปลงไปตามกระแส Internet of Things (IoT) ในโลกยุคดิจิตอล ซึ่งสอดรับกับข้อมูลของบริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ที่ระบุว่า นอกจากการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของโค-เวิร์คกิ้งสเปซในกรุงเทพฯ แล้ว กระแสความนิยมดังกล่าวยังขยายตัวออกไปยังจังหวัดอื่นๆ โดยเฉพาะตามหัวเมืองท่องเที่ยว โดยโค-เวิร์คกิ้งสเปซในประเทศไทยซึ่งถือเป็นอีกรูปแบบของสถานที่ทำงานจะขยายไปในวงกว้างมากขึ้นและจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง”นายสุเทพ กล่าวในตอนท้าย
Click Donate Support Web