- Details
- Category: ยานยนต์
- Published: Wednesday, 10 May 2017 11:42
- Hits: 8794
กู๊ดเยียร์ ประเทศไทย ยังคงเติบโตด้วยยอดขายปี 2559 อย่างแข็งแกร่ง จากการขยายศูนย์บริการกู๊ดเยียร์ ออโตแคร์ทั่วประเทศ พัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ สร้างความหลากหลายและเสริมประสิทธิภาพให้ผลิตภัณฑ์
พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ยางรุ่นใหม่ และการลงทุนสร้างโรงงานผลิตยางสำหรับเครื่องบินแห่งใหม่ เพื่อสร้างความก้าวหน้าทางธุรกิจอย่างยั่งยืน
ในภาพ: บริษัท กู๊ดเยียร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปีของผู้ถือหุ้นครั้งที่ 49 ขึ้นในกรุงเทพฯ ล่าสุดนี้ โดยมีคณะกรรมการบริษัทฯ นำโดย ดร. ธีระพร ศรีเฟื่องฟุ้ง (ที่ 5 จากขวา) ประธานกรรมการ พร้อมด้วย มร. คริส เดอลานี (ที่ 4 จากขวา) ประธานกรรมการบริษัท กู๊ดเยียร์ ไทร์ แอนด์ รับเบอร์ จำกัด ประจำภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก และ มร. ฟินบาร์ โอคอนเนอร์ (ที่ 4 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ และ เข้าร่วมประชุม
บริษัท กู๊ดเยียร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปีของผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 49 ในกรุงเทพฯ ล่าสุดนี้ โดยมีมร. ฟินบาร์ โอคอนเนอร์ กรรมการผู้จัดการ ได้แถลงผลการดำเนินงานที่โดดเด่นของกู๊ดเยียร์ ประเทศไทยในปี 2559 และได้แสดงความเชื่อมั่นต่อธุรกิจของบริษัทในปี 2560 นี้ด้วย
ทั้งนี้ การเติบโตของรายได้และกำไรที่มีมาอย่างต่อเนื่องของกู๊ดเยียร์ ประเทศไทยในปี 2559 นั้น สะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์การลงทุนและการให้ความสำคัญอย่างจริงจังทางด้านนวัตกรรมเพื่อผู้บริโภคโดยเฉพาะ รวมทั้งความเป็นเลิศด้านการตลาด การขาย และการปฏิบัติงาน รวมถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ซึ่งเปิดตัวในปี 2559 ได้แก่ยางรถยนต์รุ่นแรงเลอร์ ทริปเปิ้ลแมกซ์ (Wrangler TripleMax) ในตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ SUV ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศไทย
ยางแรงเลอร์ ทริปเปิ้ลแมกซ์ (Wrangler TripleMax) ได้รับการพัฒนาขึ้น ด้วยคุณสมบัติอันล้ำหน้าต่างๆ ของเทคโนโลยี HYDROGRIP Technology? ลิขสิทธิ์เฉพาะกู๊ดเยียร์ ที่ช่วยเสริมสมรรถนะในการขับขี่ที่ปลอดภัยและสบายยิ่งขึ้น พร้อมประสิทธิภาพของการเบรกที่ยอดเยี่ยมทั้งในสภาพพื้นถนนที่เปียกและแห้ง
“เราภูมิใจที่ยังคงสร้างความก้าวหน้าและสำเร็จต่างๆ มากมายอย่างต่อเนื่อง ในทุกกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญในประเทศไทย” มร. โอคอนเนอร์ กล่าว “เมื่อมองไปข้างหน้า เราได้สร้างรากฐานที่แข็งแกร่ง เพื่อต่อยอดความสำเร็จเหล่านี้ของเรา และดำเนินการตามกลยุทธ์ที่สำคัญที่สุดของเรา ซึ่งก็คือการสร้างมูลค่าเชิงธุรกิจอย่างยั่งยืน และการจัดหายางชนิดต่างๆ ที่มีความคงทนที่สุด ปลอดภัยที่สุด และคุณภาพดีที่สุด มาให้กับผู้ขับขี่รถยนต์และผู้โดยสารสายการบินสามารถหาซื้อได้ในทุกๆ ที่
ในปี 2559 กู๊ดเยียร์มีศูนย์บริการกู๊ดเยียร์ ออโต้แคร์ 68 แห่งในประเทศไทย พร้อมมีแผนการขยายสาขาศูนย์บริการด้านยางรถยนต์และบริการรถยนต์แบบครบวงจรต่อไปเรื่อยๆ ในปี 2560 ทั้งนี้ ศูนย์บริการกู๊ดเยียร์ ออโต้แคร์ทั้งหมด ขยายงานโดยเจ้าของ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาและบริการที่ดีเลิศที่สุดให้กับผู้บริโภค ทั้งนี้เรายังคงทุ่มเทอย่างเต็มที่ เพื่อยกระดับมาตรฐานต่างๆ โดยรวมให้กับอุตสาหกรรมนี้
"ในช่วงครึ่งหลังของปี 2560 เรายังคงมุ่งมั่นดำเนินแผนงานด้วยความเชื่อมั่นและความสามารถในการบรรลุเป้าหมายเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคที่ตระหนักถึงคุณค่า เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด สมรรถนะเยี่ยมที่สุด และบริการชั้นยอดเพื่อรองรับและตอบสนองผู้บริโภคทุกกลุ่มเป้าหมาย" มร. โอคอนเนอร์ กล่าว
ธุรกิจยางเครื่องบินที่กำลังเติบโตรุดหน้าของกู๊ดเยียร์ ประเทศไทย ยังคงเป็นแรงสนับสนุนหลักต่อผลประกอบการทางธุรกิจและผลประกอบการที่ดีของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทกำลังขยายธุรกิจนี้ขึ้น หลังจากที่มีการคาดการณ์ว่าจำนวนเครื่องบินทั่วโลก จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นถึงร้อยเปอร์เซ็นต์ภายใน 20 ปีข้างหน้า ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ทั้งนี้ กู๊ดเยียร์ ประเทศไทย ได้รับการสนับสนุนในโครงการนี้ จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (สกท.) ในการขยายโรงงานผลิตยางเรเดียลสำหรับเครื่องบิน ณ โรงงานของบริษัทในจังหวัดปทุมธานี โดยได้มีการวางแผนการขยายการผลิตในระยะแรก จากทั้งสิ้นสามระยะแล้ว และคาดว่าพร้อมที่จะเปิดดำเนินการภายในปี 2561