- Details
- Category: ยานยนต์
- Published: Monday, 07 March 2016 10:00
- Hits: 2321
กู๊ดเยียร์ นำเสนอคอนเซ็ปต์ยางรถยนต์สำหรับ ยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ เทคโนโลยียางรถยนต์แห่งอนาคตเผยโฉมในงานเจนีวา อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์
ยางรถยนต์รุ่นอีเกิ้ล-360 รูปทรงโค้งมน เน้นความคล่องตัวในการวิ่ง และการเชื่อมต่อ
เทคโนโลยีระบบตรวจวัดหรือเซ็นเซอร์อันล้ำสมัยของยางรุ่นอินเทลลิกริป เพิ่มความปลอดภัยให้กับยานยนต์
บริษัท กู๊ดเยียร์ ไทร์ แอนด์ รับเบอร์ จำกัด เปิดตัวคอนเซ็ปต์ยาง 2 รูปแบบใหม่ล่าสุด ในงานเจนีวา อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ นับเป็นการพลิกโฉมหน้าของยางรถยนต์แห่งอนาคตสำหรับยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติไปโดยสิ้นเชิง
คอนเซ็ปต์ที่ล้ำสมัยในยาง 2 รุ่น ได้แก่ อีเกิ้ล-360 (Eagle-360) รูปทรงใหญ่โค้งมน ซึ่งเป็นยางที่ออกแบบมาเพื่ออนาคต มีสมรรถนะพิเศษช่วยเสริมความคล่องตัวในการวิ่ง การเชื่อมต่อของระบบ และไบโอมิมิครี (Biomimicry) ซึ่งเป็นการศึกษาและเลียนแบบสิ่งต่างๆ จากธรรมชาติ เพื่อการขับเคลื่อนอัตโนมัติที่มีประสิทธิภาพ ในขณะที่รุ่นอินเทลลิกริ๊ป (IntelliGrip) นำเสนอตัวเซ็นเซอร์หรือระบบตรวจวัดอันล้ำสมัย พร้อมเทคโนโลยี Treadwear ที่สามารถวัดค่าความสึกหรอของยางรถยนต์ คือโซลูชั่นที่ทันสมัย สำหรับนวัตกรรมยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ
ยางทั้ง 2 รุ่นได้รับการออกแบบโดยยึดหลักความปลอดภัย ซึ่งสอดคล้องกับผลการศึกษาล่าสุด พบว่าผู้บริโภคให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยสำหรับยานยนต์ขับขี่อัตโนมัติ ทั้งนี้ ยางทั้ง 2 รุ่นยังสะท้อนให้เห็นถึงความเอาใจใส่ของกู๊ดเยียร์ ที่ต้องการตอบสนองความต้องการต่างๆ ที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วของลูกค้าด้วย
มร.โจเซฟ เซโคสกี้ รองประธานอาวุโส และหัวหน้าฝ่ายเทคนิคของกู๊ดเยียร์ กล่าวว่า "ด้วยความมุ่งมั่นที่จะลดความยุ่งยากและภาระของผู้ขับขี่ สำหรับยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ ยางรถยนต์จึงมีบทบาทสำคัญมากยิ่งขึ้น เพราะเป็นส่วนแรกของยานยนต์ที่สัมผัสกับพื้นถนน ยางคอนเซ็ปต์ของกู๊ดเยียร์แสดงบทบาทสำคัญสองประการ โดยสร้างมาตรฐานที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่ ปลดออกจากความคิดแบบเดิมๆ พร้อมสร้างขีดความสามารถใหม่ให้กับเทคโนโลยีแห่งอนาคต
รายละเอียดเพิ่มเติมของยางคอนเซ็ปต์ทั้ง 2 รุ่น:
กู๊ดเยียร์อีเกิ้ล-360 (Eagle-360) คือต้นแบบยางรถยนต์แห่งอนาคต โดยออกแบบหน้ายางให้โค้งมน เพื่อให้การขับขี่อัตโนมัติ มีความคล่องตัวในการขับขี่ การเชื่อมต่อ และไบโอมิมิครี ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ความคล่องตัวในการขับขี่: การปรับทิศทางรอบด้านของยางที่โค้งมน ช่วยให้ยานยนต์ขับเคลื่อนคล่องตัวทุกทิศทาง เสริมประสิทธิภาพในความปลอดภัยให้กับผู้โดยสาร ช่วยลดปัญหาการจอดรถบนถนนหรือในพื้นที่คับแคบจำกัด
การเชื่อมต่อ: ระบบตรวจวัดหรือเซ็นเซอร์ในตัวยางรถยนต์ ช่วยเพิ่มความปลอดภัย ด้วยการเชื่อมต่อกับสภาพอากาศและพื้นถนน เข้ากับระบบควบคุมยานยนต์ และยานยนต์คันอื่นที่อยู่ใกล้เคียง ในขณะที่เทคโนโลยีระบบตรวจวัดลมยางและดอกยาง ช่วยสร้างระบบความปลอดภัยให้กับยางแบบ 360 องศา ช่วยยืดอายุการใช้งานของยางให้ขับขี่ได้ไกลยิ่งขึ้น
เชื่อมต่อเข้ากับระบบยกตัวพลังงานแม่เหล็ก: ยางรถยนต์จะยกตัวขึ้นด้วยระบบพลังงานแม่เหล็ก เพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ที่ไร้เสียงรบกวนและนุ่มนวลแก่ผู้โดยสาร
ไบโอมิมิครี: การเลียนแบบธรรมชาติเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ดอกยางที่มีความลึกสามมิติถูกออกแบบขึ้นมา โดยเลียนแบบปะการังสมอง ทำหน้าที่ราวกับฟองน้ำธรรมชาติ ที่แข็งตัวขึ้นในสภาพอากาศแห้ง และอ่อนตัวลงในสภาวะแวดล้อมที่เปียกชื้น เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการขับขี่ ป้องกันการเกิดอาการเหินน้ำของยาง
กู๊ดเยียร์อินเทลลิกริป (IntelliGrip) ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อระบบควบคุมรถโดยอัตโนมัติ สามารถตรวจวัดสภาพพื้นผิวของถนนและสภาพอากาศได้ เพื่อเสริมความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการขับขี่ยวดยาน
รับรู้สภาพพื้นถนน: เพราะมีระบบตรวจวัดที่ทันสมัย และหน้ายางที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ช่วยให้สามารถรับรู้ถึงสภาพของพื้นถนนและสภาวะอากาศ
เทคโนโลยีแอคทีฟแวร์: เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเพื่อเสริมคุณภาพของยางและยานยนต์
กระบวนการอัลกอริธึมตามสั่ง: การวิเคราะห์แยกแยะวิธีการทำงานให้เป็นขั้นตอนตามสั่งที่กู๊ดเยียร์ได้พัฒนาขึ้นมา ซึ่งจะช่วยกำหนดแรงดันลมยางและอุณหภูมิของยางที่เหมาะสมได้
ปรับตัวตามสภาพถนน: เมื่อยางรับรู้ถึงสภาพพื้นถนนที่เปียก จะช่วยให้ยานยนต์ที่ขับขี่อัตโนมัติสามารถปรับความเร็วตามสภาพของพื้นผิวถนนได้ อีกทั้งยังช่วยลดระยะเบรก ทรงตัวดีเยี่ยมขณะเข้ามุม และช่วยเสริมสมรรถนะของระบบป้องกันการชนได้ดีขึ้น
การปรับตัวทางเทคโนโลยี: กู๊ดเยียร์ร่วมกับผู้ผลิตยานยนต์มากมาย ในการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีนี้ ให้ตอบสนองความต้องการของผู้ผลิตแต่ละราย ด้วยการเสริมการเชื่อมต่อกับคุณลักษณะพิเศษต่างๆ อาทิ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ ระบบควบคุมเบรก และระบบควบคุมการสั่นสะเทือน
มร. เซโคสกี้ กล่าวต่อว่า “แม้ว่ายางทั้ง 2 รุ่น เป็นเพียงยางคอนเซ็ปต์ ซึ่งจะผลิตในอนาคต แต่ยางทั้ง 2 รุ่นได้เน้นย้ำให้ทุกคนเห็นถึงกลยุทธ์ด้านนวัตกรรมที่สำคัญ และวิสัยทัศน์เพื่อการขับขี่ที่ชาญฉลาดและความปลอดภัยของกู๊ดเยียร์”
กู๊ดเยียร์ นับเป็นองค์กรที่ทำธุรกิจด้านยางที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีพนักงานกว่า 60,000 คน โดยผลิตสินค้าจากโรงงานผลิต 49 แห่งใน 22 ประเทศทั่วโลก ทั้งนี้ ศูนย์นวัตกรรมทั้ง 2 แห่งในอาครอน รัฐโอไฮโอ และคอลมาร์-เบิร์ก ในลักแซมเบิร์ก ได้เจริญรุดหน้าในด้านการพัฒนาสินค้าและการบริการอันล้ำยุค จนสามารถสร้างมาตรฐานทางด้านเทคโนโลยีและสมรรถนะขึ้นใหม่ให้กับอุตสาหกรรมยาง ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกู๊ดเยียร์และผลิตภัณฑ์ต่างๆของบริษัท กรุณาไปที่ www.goodyear.com/corporate/
เกี่ยวกับกู๊ดเยียร์ ประเทศไทย
บริษัท กู๊ดเยียร์ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นในปี 2511 และเริ่มต้นผลิตยางในปี 2512 กู๊ดเยียร์นำบริษัทเข้าจดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชนในปี 2537 ปัจจุบัน กู๊ดเยียร์ ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตยาง OEM และยางทดแทน (replacement) สำหรับรถยนต์ประเภทต่าง ๆ ได้แก่ รถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถสปอร์ตอเนกประสงค์ (4x4 SUV) รถบรรทุกขนาดกลางและเล็ก และรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ที่วางจำหน่ายในประเทศและส่งออกไปต่างประเทศ โรงงานกู๊ดเยียร์ในประเทศไทยเป็นโรงงานแห่งเดียวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และเป็นหนึ่งใน 3 ของโรงงานกู๊ดเยียร์ทั่วโลกที่ผลิตยางล้อเครื่องบิน ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกู๊ดเยียร์ ประเทศไทยหรือผลิตภัณฑ์และบริการ
เข้าชมได้ที่ www.goodyear.co.th