- Details
- Category: ยานยนต์
- Published: Thursday, 10 September 2015 11:38
- Hits: 8840
โรลส์-รอยซ์ รุ่น ดอว์น – ยนตรกรรมเปิดประทุนสุดหรู
“ยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์ ดอว์นใหม่ของเราคือรถที่สวยสะดุดตา เย้ายวนใจที่สุดในบรรดารถยนต์ของโรลส์-รอยซ์ เป็นการเริ่มต้นแห่งยุคใหม่ของวงการรถยนต์หรูแบบเปิดประทุน ดอว์นเป็นรถยนต์ที่มอบประสบการณ์ในการขับรถเปิดประทุนที่ไม่มีใครเสมอเหมือนในโลก ดอว์น จะเป็นรถยนต์เปิดประทุนสุดหรูสำหรับผู้ปรารถนาที่จะอาบแสงอาทิตย์ในย่านพักผ่อนตากอากาศยอดนิยมที่เป็นส่วนตัวของโลก
คำนิยามสั้นๆ คือ ดอว์นเป็นรถยนต์ที่เย้ายวนใจที่สุดเท่าที่โรลส์-รอยซ์เคยสร้างสรรค์มา
ชื่อ “ดอว์น” นั้นเหมาะเจาะลงตัวกับสิ่งดีๆ ที่จะเกิดขึ้นในเช้าวันใหม่ – เป็นความตื่นตัว เป็นการเปิดรับประสาทสัมผัสทั้งหมดและการฉายฉานของแสงตะวัน ในสถานะของการเริ่มต้นที่เต็มไปด้วยความคาดหวังที่ยังไม่มีอะไรแน่นอนนั้น ช่วงเช้าตรู่คือการที่โลกตื่นมาพบกับความสว่างโชติช่วงจากความมืดมัวของรัตติกาล อากาศอันเย็นเยียบของรุ่งอรุณให้ความรู้สึกอันวาบหวามกับผิวกาย ปลุกประสาทสัมผัสและความเร่าร้อนให้ตื่นขึ้นเมื่อเริ่มวันใหม่
เช่นเดียวกับเอลีนอร์ ธอร์นตันซึ่งใครๆ หลายคนคิดว่าเป็นแรงบันดาลใจอยู่เบื้องหลังสัญลักษณ์ “สปีริต ออฟ เอ็กสตาซี” โรลส์-รอยซ์ ดอว์นจะพิสูจน์ให้เห็นว่ามันคือเทพธิดาที่จะช่วยให้ผู้เป็นเจ้าของมั่นใจได้ว่าเมื่อเริ่มวันใหม่ ทุกสิ่งย่อมเป็นไปได้เสมอ”
ทอร์สตัน มูเลอร์-ออทเวิส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส จำกัด
บทนำ
“...เกือบใช่หรือแค่ดีพอ คือสิ่งที่รับไม่ได้”
“ดีพอ” ไม่ใช่คำศัพท์ในพจนานุกรมของโรลส์-รอยซ์ จริงๆ แล้วบริษัทของเราดำรงตามคำกล่าวของเซอร์ เฮนรี รอยซ์ผู้ร่วมก่อตั้งที่เคยกล่าวไว้ว่า “จงดิ้นรนต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งความสมบูรณ์แบบในทุกสิ่งที่ตนทำ จงดึงเอาด้านที่ดีที่สุดของสิ่งที่มีอยู่ออกมาแล้วทำให้ดียิ่งขึ้น ถ้าสิ่งนั้นไม่มีอยู่ จงสร้างมันขึ้นมา ไม่ยอมรับกับอะไรก็ตามที่แค่ ใช่ หรือแค่ ดีพอ”
วรรคแรกของคำกล่าวที่ว่า – “จงดิ้นรนต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งความสมบูรณ์แบบในทุกสิ่งที่ตนทำ” – เป็นแนวทางในทุกกิจกรรมของบริษัทโดยเฉพาะในระหว่างการสร้างสรรค์รถยนต์รุ่นใหม่ วรรคที่สอง – “จงดึงเอาด้านที่ดีที่สุดของสิ่งที่มีอยู่ออกมาแล้วทำให้ดียิ่งขึ้น” – คือหลักฐานอันชัดเจนในความสำเร็จงดงามของรถยนต์รุ่นแฟนธอม ซีรี่ส์ 2 และโกสต์ ซีรีส์ 2 เมื่อทั้งสองรุ่นนี้ได้รับการปรับปรุงโฉมในปีพ.ศ. 2555 และปีพ.ศ. 2557 ตามลำดับ แล้วเมื่อโรลส์-รอยซ์ได้ตัดสินใจว่าเป็นเวลาอันสมควรแล้วที่แกรนด์ ทัวริสโมแท้จะหวนคืนสู่สังเวียนโลก สิ่งที่นำทางก็คือวรรคที่สามจากคำกล่าวของเซอร์เฮนรีที่ว่า “ถ้าสิ่งนั้นไม่มีอยู่ จงสร้างมันขึ้นมา” นับจากนั้นรถยนต์รุ่น “เรธ” จึงได้ถือกำเนิดขึ้น
บัดนี้ วรรคสุดท้ายจากถ้อยคำนั้นได้เป็นแนวทางของทีมออกแบบและวิศวกรรมของโรลส์-รอยซ์ เมื่อร่วมกันก่อกำเนิดมิติใหม่แห่งรถยนต์เปิดประทุนสุดหรู ในส่วนของรถยนต์ที่ยังมีที่ว่างให้สร้างสรรค์รายละเอียดได้อีกมากมายนั้น – โรลส์ รอยซ์แบบ 4 ที่นั่งได้เลือกแล้วที่จะ “ไม่ยอมรับกับอะไรก็ตามที่แค่ ใช่ หรือแค่ ดีพอ”
ดังนั้น โรลส์-รอยซ์ ดอว์นใหม่ รถยนต์เปิดประทุนสุดหรูของโลกแบบสี่ที่นั่งจึงได้ถือกำเนิด
“รัตติกาลย่อมนำมาซึ่งรุ่งอรุณ”
ในช่วงเวลาอันท้าทายที่สุดนั้น ประโยคที่ว่า ”รัตติกาลย่อมนำมาซึ่งรุ่งอรุณ” ที่โธมัส ฟูลเลอร์ นักเทศน์แห่งยุคฟื้นฟูราชวงศ์ของอังกฤษได้เคยกล่าวไว้แต่เดิม – ได้สะท้อนก้องเป็นสัญญาณแห่งความหวัง รุ่งสางทะมึนซึ่งบรรดาภูตพรายได้ปรากฎกายขึ้น และเป็นยามที่เต็มไปด้วยความน่าหวาดหวั่นสะพรึง ได้ถูกขจัดปัดเป่าไปเสียสิ้นด้วยแสงกล้าของสุริยาในยามเช้า เปิดทางให้อรุณรุ่งแห่งความหวังอันโชติช่วงของวันใหม่เคลื่อนเข้ามาแทนที่
เช่นความรู้สึกในปีพ.ศ. 2495 ซึ่งในที่สุดโลกกำลังก้าวพ้นออกจากจากสภาวะทางเศรษฐกิจที่ต้องมัธยัสต์หลังจากการแข่งขันอย่างกว้างขวาง ในปีนั้นโลกเต็มไปด้วยความหวัง เมื่อเดอฮาวิลแลนด์ โคเม็ท เครื่องบินเจ็ตโดยสารลำแรกของอังกฤษเริ่มให้บริการเที่ยวบินพาณิชย์ ทฤษฎีบิ๊กแบงอันบรรยายถึงการก่อกำเนิดของจักรวาลได้ถูกกล่าวอ้างเป็นครั้งแรก และสมเด็จพระบรมราชินีเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักรทรงขึ้นเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ
ในปีเดียวกันนั้น โรลส์-รอยซ์ ซิลเวอร์ ดอว์น ดรอปเฮด ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับทีมนักออกแบบของ โรลส์-รอยซ์ ดอว์นใหม่ ได้ประกอบเสร็จสมบูรณ์โดยโรงงานผลิตตัวถังรถยนต์พาร์ค เวิร์ด แล้วถูกส่งมอบให้กับลูกค้ารายแรกคือพันเอกดับเบิลยู. เอ. ฟิลลิปส์ที่ประเทศแคนาดา
ในขณะนั้น โรลส์-รอยซ์ ซิลเวอร์ ดอว์น ถือเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ของโรลส์-รอยซ์ คือเป็นโรลส์-รอยรุ่นแรกที่สร้างตัวถังรถจากโรงงาน อย่างไรก็ตามโรลส์-รอยซ์เปิดประทุนที่ใช้ชื่อซิลเวอร์ ดอว์นยังคงได้รับการสั่งผลิตอยู่ตามใบสั่งของลูกค้าแต่ละราย เพื่อตอกย้ำความเป็นอัตลักษณ์และความเลอค่าหายาก และเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังของยุคที่เราเริ่มจะกลับมาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอีกครั้งตามแนวทางการใช้ชีวิตแบบ ลา ดอลเช วิตา
ยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์อันโด่งดังและล้ำค่ารุ่นนี้ เพิ่งจะถูกใช้กับตัวถังรถเปิดประทุนเพียง 28 คันเท่านั้นในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2493 ถึงพ.ศ. 2497
โรลส์-รอยซ์ ดอว์นใหม่นี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรุ่น ซิลเวอร์ ดอว์น เพื่อให้โลกได้รู้จักกับสุดยอดยนตรกรรมหรูแบบแรกที่โฉบเฉี่ยว ร่วมสมัย สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นรถหรูแบบสี่ที่นั่งเปิดประทุนที่ควรจะเป็นในปีพ.ศ. 2558 – ซึ่งเลอค่า สร้างสรรค์อย่างพิถีพิถัน และเป็นรถยนต์อันเป็นที่สุดแห่งความอลังการ
ที่คล้ายคลึงกับซิลเวอร์ ดอว์น ดรอปเฮดแห่งปีพ.ศ. 2495 คือโรลส์-รอยซ์ ดอว์นนั้นโดดเด่นเหนือรถยนต์ในรุ่นเดียวกัน ด้วยส่วนประกอบอันเป็นเอกลักษณ์ใหม่ถึง 80%
ทั้งนี้ การใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อสร้างมิติใหม่ของรถยนต์ระดับสุดหรูให้เป็นจริงได้ดั่งคำมั่นสัญญา แม้แต่ยางที่ใช้กับโรลส์-รอยซ์ ดอว์น ใหม่นี้ยังต้องได้รับการพัฒนาเป็นพิเศษให้ขับขี่ได้ ”นุ่มนวลปานพรมวิเศษ” เช่นเดียวกับโรลส์-รอยซ์ทุกคันที่เคลื่อนออกจากโรงงานในกู้ดวูด
ความพิถีพิถันทางด้านวิศวกรรมและการผลิตนั้นปรากฏอยู่ในการสร้างสรรค์ส่วนหลังคาของยนตรกรรมรุ่น ดอว์น สิ่งที่ไม่เคยปรากฎจากที่แห่งไหนในโลกอุตสาหกรรมยานยนต์จนถึงปัจจุบัน คือหลังคาของโรลส์ รอยซ์ ดอว์นสามารถเปิดออกได้อย่างเงียบเชียบที่สุดดุจเดียวกับรถยนต์รุ่น เรธ ในเวลากว่า 20 วินาทีที่ความเร็วในขณะรถวิ่งที่ 50 กิโลเมตร/ชั่วโมง
จึงกล่าวได้อย่างเต็มภาคภูมิว่าโรลส์-รอยซ์ ดอว์นใหม่นี้คือรถยนต์เปิดประทุนที่เงียบที่สุดเท่าที่เคยมีมา
การออกแบบ
2+2 ไม่เท่ากับ 4
“กฎทางคณิตศาสตร์ปกติไม่อาจนำมาใช้ได้เสมอไปในโลกของโรลส์-รอยซ์ นี่คือเหตุผลที่ผมบอกในกรณีของโรลส์-รอยซ์ ดอว์น ใหม่ ซึ่ง 2+2 ไม่จำเป็นต้องเท่ากับ 4”
ไจลส์ เทย์เลอร์ หัวหน้าทีมออกแบบ บริษัท โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส จำกัด
การศึกษาตลาดรถยนต์เปิดประทุนโดยเฉพาะในตลาดรถระดับสูงสุดหรู ทำให้ทีมนักออกแบบของโรลส์-รอยซ์ประจักษ์ว่าลูกค้ากลุ่มนี้จะไม่พอใจกับอะไรที่ธรรมดาเลย การมุ่งสร้างสรรค์รถยนต์เพียงแบบ 2+2 ที่นั่งนั้นในมุมมองของโรลส์-รอยซ์แล้วถือว่าธรรมดาเกินไป
รถยนต์ปกติแบบ 2+2 ที่นั่งโดยมีหนึ่งที่นั่งของคนขับกับหนึ่งที่นั่งของผู้โดยสารด้านหน้า กับอีกสองที่นั่งเล็กๆ สำหรับผู้โดยสารชั่วคราวหรือเด็กเล็กทางด้านหลังนั้น ที่ว่างในด้านหลังจะลดลงอย่างมากโดยเฉพาะพื้นที่เหยียดขา ความสะดวกสบายจึงลดลงเป็นปกติในรถยนต์ประเภทนี้ ในกรณีของรถยนต์เปิดประทุนแล้วพื้นที่ที่ลดลงนั้น เป็นผลจากการที่ผู้ผลิตไม่สามารถจัดการพื้นที่ของหลังคาเปิดประทุนกับพื้นที่โดยสารและช่องเก็บสัมภาระหลังให้สมดุลได้ สิ่งที่ตามมาคือตลาดที่คลาคล่ำไปด้วยรถยนต์เปิดประทุนแบบเดิมๆ ซึ่งโรลส์-รอยซ์พิจารณาว่ามันง่ายเกินไป และ “ไม่เอื้ออำนวยต่อปฏิสัมพันธ์”
เทย์เลอร์ให้ข้อสังเกต “ที่โรลส์-รอยซ์ เราภูมิใจในการเป็นผู้สร้างรถยนต์ชั้นเยี่ยมที่ทำหน้าที่เป็นห้องรับแขกได้ในคราวเดียวกัน ความคิดในการสร้างรถยนต์แบบดอว์นให้เป็นรถที่นั่งประจำวันได้สบายสำหรับผู้ใหญ่แค่สองคนนั้นเป็นสิ่งไม่พึงปฏิบัติ เราจึงสร้างดอว์นโดยให้ถึงพร้อมทั้งด้านความสะดวกสบายและความหรูหรา สำหรับผู้โดยสารวัยผู้ใหญ่ 4 คนให้นั่งไปด้วยกันได้อย่างมีสไตล์และสบายที่สุด”
ความพิลาสอันเย้ายวนใจ
“ดอว์น คือโรลส์-รอยซ์ที่เข้ากันอย่างลงตัวเมื่อแล่นบนถนนรูท นาโปเลอ็อง เป็นจิตวิญญาณอันร่วมสมัยของเฟรนช ริเวียร่า รถยนต์รุ่นนี้คือสัญลักษณ์ร่วมสมัยของไลฟ์สไตล์แบบ “คาสิโน” นี่กระมังที่บุคลิกภาพอันโอ่อ่าอัครฐานของรถจึงดึงดูดผู้คนที่หลงใหลในอิสรภาพไร้ขีดจำกัดและความละเอียดพิถีพิถัน” -- ไจลส์ เทย์เลอร์ หัวหน้าทีมออกแบบ
“ที่โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส เราออกแบบรถอย่างใส่ใจในรายละเอียด และแนวคิดอันเคร่งครัดนื้คือความ ท้าทายใหม่สำหรับรถยนต์ใหม่แต่ละคัน” เทย์เลอร์กล่าว “ในกรณีของโรลส์-รอยซ์ ดอว์นใหม่นี้เราออกแบบใหม่หมดตั้งแต่ล้อขึ้นมาเพื่อให้ได้ยนตรกรรมที่งามสง่าหมดจดและมีเสน่ห์อันเย้ายวนจริงๆ”
โรลส์-รอยซ์ ดอว์นใหม่ทักทายสายตาของผู้พบเห็นด้วยรูปทรงภายนอกที่สง่างามเปี่ยมรสนิยม ด้วยรูปลักษณ์และรูปโฉมสุดคลาสสิกในแบบฉบับของโรลส์-รอยซ์ จึงเป็นโรลส์-รอยซ์ที่เจิดจรัสมีชีวิตชีวาที่สุด ทั้งยังทรงเสน่ห์อันเย้ายวนซึ่งเป็นบรรทัดฐานใหม่ของรถยนต์เปิดประทุน คูเป้ที่ถึงพร้อมทั้งความคล่องตัว ความทันสมัยและพิถีพิถัน – ให้ความรู้สึกทั้งความเงียบสงบและอิสรภาพอันเป็นที่หนึ่ง
ดอว์น มอบประสบการณ์แห่งการขับขี่อย่างง่ายดาย และผ่อนคลายอันแฝงไว้ซึ่งความเร็วและทรงพลัง โดยทั้งหมดนี้เป็นไปโดยมิได้ลดความสะดวกสบายและพื้นที่ห้องโดยสารลงเลย โรลส์-รอยซ์ใหม่นี้จึงเปี่ยมด้วยคุณภาพแห่งขุมพลังและการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้โดยสาร ซึ่งจะขยายฐานกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่และผู้ที่ให้ความสำคัญต่อการมีสังคมทั่วโลกมากยิ่งขึ้น
ในทางตรงกันข้ามกับความคาดหวังของสื่อคือโรลส์-รอยซ์ ดอว์นใหม่นี้ไม่ใช่รถเปิดประทุนแบบเรธ ตัวรถภายนอกของ ดอว์นใหม่ 80% ได้รับการออกแบบใหม่ ให้เป็นไปตามพัฒนาการแห่งการออกแบบของโรลส์-รอยซ์ และคงคุณสมบัติอันพร้อมมูลด้านความทันสมัยในรูปแบบของรถเปิดประทุนสุดหรู 4 ที่นั่ง
เป้าหมายนั้นชัดเจน คือการทำในสิ่งที่ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นทำไม่ได้ – คือต้องเป็นรถที่งามหมดจดทั้งยามเปิดและปิดหลังคา จึงอาจกล่าวได้ว่านี่คือผลจากความวิริยะอุตสาหะของทีมออกแบบ เพื่อให้ได้รถยนต์ 2 คันในคันเดียวของโรลส์-รอยซ์ ดอว์นใหม่
การออกแบบภายนอก
โรลส์-รอยซ์ ดอว์นยังคงไว้ซึ่งหลักการอันไร้กาลเวลาแห่งการออกแบบของโรลส์-รอยซ์ – คืออัตราส่วนความสูงของล้อต่อความสูงตัวรถเป็น 2:1 ฝากระโปรงหน้ายาว ช่วงห่างระหว่างกันชนหน้ากับล้อสั้น ช่วงห่างระหว่างกันชนท้ายกับล้อยาว ท้ายรถลาดลงอย่างมีรสนิยมและแนวสันประตูสูง
ลักษณะเด่นทั้งหมดนี้คือองค์ประกอบแห่งความงามและการออกแบบอันละเอียดถี่ถ้วนอย่างร่วมสมัย
เช่นเดียวกับนักกีฬาผู้ปราดเปรียว โรลส์-รอยซ์ ดอว์น มีรูปลักษณ์ที่ดูมั่นคงหนักแน่น ภูมิฐานและพร้อมจะพุ่งทยาน อัตราเร่งและพลังอันแฝงเร้นในตัวรถถูกขับให้เห็นเด่นชัดขึ้นด้วยองค์ประกอบใหม่ เน้นความโค้งมนเพื่อสร้างความกระชับของตัวรถและลักษณะภายนอกอันบ่งบอกได้ถึงพลานุภาพภายใน
ด้านหน้าอันงามของดอว์นให้ความรู้สึกที่เย้ายวนเร่าร้อน แต่เปี่ยมลักษณะของความบึกบึน ในขณะแนวสันประตูนูนสูงนั้นดูเซ็กซี่ยิ่งขึ้นเมื่อมันทอดตัวต่อเนื่องถึงเหนือซุ้มล้อหลัง รับกับฐานล้อที่กว้างขึ้น แนวสันฝากระโปรงหน้าเรียวแบบ “เวค ชาแนล” ที่เริ่มต้นจากปลายปีกของสัญลักษณ์สปีริต ออฟ เอ็กสตาซีที่เปรียบกับแนวไอพ่นเครื่องยนต์เจ็ต บอกเป็นนัยถึงความแรงของรถ ด้วยแนวประตูสูง แนวหน้าต่างที่เล็กและหนักแน่นในแนวราบ เมื่อมองจากด้านข้างโดยหลังคาปิดแล้วรูปโฉมนี้ไม่ต่างจาก “ฮ็อต ร็อด” แบบตัวรถต่ำเลย
ที่ด้านหน้าสุด กระจังหน้าถูกทำให้เอนเข้าประมาณ 45 มิลลิเมตร ในขณะที่กันชนหน้าได้ถูกขยายออกอีก 53 มิลลิเมตรเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นเรธ เป็นเช่นนี้เพื่อให้ขับเน้นความเด่นของช่องรับอากาศคล้ายเครื่องบินเจ็ตและเพื่อให้ความรู้สึกอันหนักแน่นแม้ในยามจอดนิ่ง รูปแบบของกระจังหน้าช่วยเน้นความแรงของรถต่อเนื่องถึงแนวประตูหลัง เช่นกันคือเพื่อตอกย้ำความเป็นเอกลักษณ์อันเปี่ยมรสนิยมของดอว์น
ทั้งกระจังหน้าและกันชนนั้นสอดประสานไปกับแนวราบของรถ มากกว่าแนวดิ่งแบบดั้งเดิมในรถรุ่นอื่นๆ ของโรลส์-รอยซ์ กันชนรับกับแผ่นป้ายทะเบียนและแนวสันรับอากาศด้านล่าง แถบตาข่ายด้านล่างอยู่ลึกเข้ามาและมีสีดำ ช่วยสร้างความรู้สึกในด้านความลึกซึ่งรับประสานกับความลึกของกระจังหน้า เช่นเดียวกับ “ใบมีด” มันวับที่เน้นตัวรถไปพร้อมกับเสริมรับแนวราบของรถและเสริมมุมมองของรถรอบคัน ซึ่งเพิ่มความรู้สึกได้ทั้งพลังและความกว้าง
เมื่อมองโรลส์-รอยซ์ ดอว์นจากด้านข้าง สายตาจะถูกดึงเข้าสู่ลักษณะอันเปี่ยมรสนิยมของรถ รูปร่างของหลังคาแบบซอฟต์ท็อปเข้ากับตัวรถได้ดีโดยปราศจากรอยยุบหรือรอยนูนเช่นซอฟต์ท็อปของรถยนต์แบรนด์อื่น ยิ่งกว่านั้นคือล้อใหม่เส้นผ่าศูนย์กลาง 21นิ้วแบบขัดมันและแบบสีทั้ง 21และ 20 นิ้ว ยืนยันได้ถึงความสมบูรณ์แบบแห่งการสร้างสรรค์ ความรู้สึกที่ทันสมัยของรถหรูเช่นโรลส์-รอยซ์
ด้านท้ายของรถขยายออกคล้ายคลึงกับสัณฐานของ'สะโพก'สตรีของดอว์น เรียวลงเล็กน้อยสู่ด้านหลังสุดสะท้อนรูปแบบการออกแบบสไตล์ 'หางเรือ'ของโรลส์-รอยซ์ในรุ่นก่อน บ่งบอกถึงความงามของรถยนต์ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 อันเป็นแรงบันดาลใจในการสรรค์สร้าง
การพับเก็บหลังคาซอฟต์ท็อปที่เงียบกริบของโรลส์-รอยซ์ ดอว์นได้มอบประสบการณ์ของ 'ยามรุ่งอรุณ'อย่างแท้จริง ด้วยตัวรถสีมิดไนท์ แซฟไฟร์และห้องโดยสารบุหนังสีส้มแมนดาริน ยามราตรีกลายเป็นรุ่งสางเมื่อลำแสงสุริยะสาดส่อง เผยความงดงามของห้องโดยสารต่อโลกภายนอก
เมื่อเก็บหลังคาความเย้ายวนใจของโรลส์-รอยซ์ ดอว์นยิ่งเด่นชัด จากก้านปัดน้ำฝนกระจกหน้า แนวหมุดโลหะที่เรียงตัวเหนือแนวท้ายรวมทั้งแนวคาดข้างที่วิ่งตลอดความยาว ให้ความรู้สึกของความฉับไวไหลลื่น แนวคาดนูนที่คาดรอบส่วนโดยสารหลังคล้ายคลึงกับคอปกเสื้อแจ็กเก็ตที่ถูกดึงขึ้นเพื่อปกป้องส่วนคอ
แถบสเตนเลส สตีลคาดรอบรถที่ห่อหุ้มห้องโดยสาร เป็นเสมือนดาดฟ้าซึ่งป้องกันหลังคาซอฟต์ ท็อปไว้เมื่อพับเก็บและรวมเป็นส่วนเดียวกันกับไฟเบรกสว่างกล้า ชิ้นส่วนโลหะอันงดงามสอดประสานเป็นหนึ่งเดียวมือจับประตูสเตนเลส สตีล ล้อปขัดมัน ท่อไอเสียและอุปกรณ์ประดับกันชนหน้าและหลัง เพื่อสร้างรูปโฉมและความรู้สึกอันประเมิณค่ามิได้
ในส่วนท้ายที่เก็บหลังคาด้านหลังของตัวรถนั้นคือผลงานอันตระการของงานหัตถศิลป์สมัยใหม่ ห่อหุ้มไว้ด้วยไม้คานาเดลโค้งเป็นรูปทรงเกือกม้ารับกับรูปโค้งของห้องโดยสารด้านหลัง แสดงถึงความก้าวหน้าทันสมัยของช่างฝีมือในโรงไม้ของโรลส์-รอยซ์ในกู้ดวูด ทั้งในด้านเทคโนโลยีและเทคนิคการแกะไม้ โดยไม้ด้านบนของส่วนท้ายที่เก็บหลังคานั้นลูกค้าเป็นผู้เลือกสรรเองตามรสนิยม จะทอดตัวลงคล้าย'น้ำตก'ระหว่างที่นั่งหลังและรอบห้องโดยสาร ครอบคลุมผนังบานประตูด้านในทั้งหมดและเชื้อเชิญให้ผู้เป็นเจ้าของก้าวขึ้นนั่ง
การออกแบบภายใน
อีกครั้งหนึ่งที่ประตูรถแบบ coach door ของโรลส์-รอยซ์ได้ถูกนำมาใช้สำหรับรถแบบเปิดประทุน เป็นประตูที่สง่างามประทับใจ ตัวประตูเปิดออกเหมือนปีกสยายอย่างนุ่มนวล เสริมตัวรถที่ยาวและห้องโดยสารที่ตกแต่งอย่างประณีต
ด้วยรูปแบบของรถสปอร์ตคลาสสิก การขึ้นและลงจากที่นั่งหลังของดอว์นเป็นไปอย่างสะดวกสบาย ผู้โดยสารหลังไม่ได้แค่ “ออกจาก” รถโรลส์-รอยซ์ ดอว์น แต่เป็นการยืนอย่างสง่างามประหนึ่งการก้าวขึ้นจากเรือยนต์เร็วริวาขึ้นสู่ท่าเรือส่วนตัวในโมนาโคหรือในทะเลสาบโคโม
เป็นไปตามที่คาดไว้ว่า ประตูนี้ยังมีคุณประโยชน์มากกว่าแค่เป็นช่องทางขึ้น/ลงจากรถ ที่สำคัญมันคือส่วนเสริมความแข็งแรงและแข็งแกร่งของตัวรถในการสร้างรถมีเสาหลังคาแบบรูปตัวเอ
ความรู้สึกแรกเมื่อก้าวขึ้นสู่ดอว์นคือที่นั่ง 4 ที่ห้อมล้อมด้วยแถบแผงไม้ยาวและแผ่นหนังอันงดงาม แนววัสดุขลิบยาวนี้เริ่มจากเสาหลังคาด้านคนขับทอดตัวไปยังหลังรถ อ้อมที่นั่งหลังคู่แล้ววกกลับมาจบที่เสาหลังคาด้านที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้า
รูปแบบล้อมกรอบนี้คล้ายคลึงกับรูปแบบของรถยนต์แบบบาร์เคตตา ที่แกร่ง และพร้อมจะทยานพาผู้ขับขี่ออกไปสุดขอบฟ้าแม้ว่าจะยังจอดอยู่นิ่งก็ตาม เป็นการออกแบบที่แฝงไว้ซึ่งอัตราเร่งอันทรงพลังที่เห็นได้จากรูปลักษณ์ภายนอก โดยห้องโดยสารมีส่วนเสริมความโดดเด่นของตัวรถภายนอก เป็นสถานที่ซึ่งเปี่ยมด้วยความมั่งคั่ง มั่นคงและตัวตนที่ดำรงอยู่
โรลส์-รอยซ์ ดอว์นเป็นรถแบบสี่ที่นั่งแยกกัน โดยทั้งสี่ที่นั่งนี้นั่งได้สบายทุกอิริยบท ที่นั่งได้ถูกออกแบบมาให้มีคุณลักษณะด้านความคล่องแคล่วกระฉับกระเฉง ดูดีมีรสนิยมโดยยังไม่ทิ้งประโยชน์ใช้สอยของรถ เสริมความโดดเด่นด้วยแผงคอนโซลกลางยาวตลอดห้องโดยสาร ที่ด้านหลังของที่นั่งหน้าเป็นที่อยู่ของเข็มขัดนิรภัยรวมกับโครงรถแบบไร้เสากลาง เน้นความเด่นของกรอบห้องโดยสารเป็นไม้หรือเครื่องหนังแบบเป็นเส้นเดียวต่อเนื่อง ไม้บนพื้นผิวของขอบห้องโดยสารยังแล่นยาวตลอดลงถึงคอนโซลกลางในแบบเหมือนแง่งศรชี้ไปข้างหน้า ให้ความรู้สึกได้ถึงการพุ่งทะยานไปข้างหน้า
สุดยอดวิศวกรรมและเทคโนโลยี
จินตลีลาแห่งความเงียบ
โดยไม่ต้องสงสัย ความโดดเด่นทางด้านวิศวกรรมของโรลส์-รอยซ์ ดอว์นใหม่คือหลังคา ในความเป็นโรลส์-รอยซ์แท้นั้น ดอว์น ต้องเป็นรถยนต์ที่เงียบเช่นเดียวกับโรลส์-รอยซ์รุ่นอื่นๆ ในขณะเดียวกันทางเลือกสำหรับโรลส์-รอยซ์คือหลังคาอ่อนเท่านั้นด้วยเหตุผลคือเพื่อสุนทรียภาพ ความโรแมนติกและด้วยความเป็นโรลส์-รอยซ์ ไม่มีสิ่งใดอีกแล้วที่จะโรแมนติกไปกว่าการได้ขับรถยนต์เปิดประทุนท่ามกลางสายฝนยามราตรี มีแต่เสียงหยาดฝนกระทบหลังคาเป็นเพื่อน จากการได้สนทนากับบรรดาลูกค้าของเรา ทำให้โรลส์-รอยซ์ทราบว่าเขาเหล่านั้นคิดเช่นนี้เหมือนกัน
ในการสร้างสรรค์หลังคาอ่อน ทีมวิศวกรรมของโรลส์-รอยซ์ตั้งเป้าหมายอันท้าทายไว้ว่าจะต้องไม่ผ่อนปรนใดๆ กับการสร้างรถยนต์เปิดประทุนที่เงียบที่สุดในโลกให้ได้ แรงปรารถนาในความเงียบนี้ปรากฎในทุกองค์ประกอบด้านวิศวกรรมของหลังคาแบบใหม่ และด้วยการสร้างรถยนต์รุ่นใหม่
ประการแรกคือประสบการณ์ในการนั่งรถยนต์ที่เปิดและปิดหลังคาได้ขณะกำลังแล่น ต้องมีแค่กับโรลส์-รอยซ์เท่านั้น แบบของหลังคาต้องสง่างาม สวยและเร้าอารมณ์ ในขณะเดียวกันต้องเป็นหลังคาที่ใหญ่ที่สุดชิ้นหนึ่งที่เสริมความงามของรถเปิดประทุนได้
ที่สำคัญคือวิธีที่หลังคานั้นห่อหุ้มที่นั่งหลังคู่แล้วโน้มตัวลงเหนือกรอบหน้าต่างของดอว์น ซึ่งทำให้ดูเหมือนหลังคาเตี้ยซึ่งเสริมความงามของรถลำตัวต่ำได้ดี อีกจุดหนึ่งที่ต้องให้ความสนใจคือหน้ากระจกมองท้ายขนาดเล็ก อันเป็นการเลือกสรรอย่างระมัดระวังซึ่งมาเสริมให้เกิดความรู้สึกว่าเป็นบริเวณพื้นที่ส่วนตัวเมื่อขับขณะใช้หลังคา
เทคนิคสำคัญ 2 รูปแบบที่ถูกนำมาใช้เพื่อให้มั่นใจได้ว่าหลังคาไม่เพียงแค่สวยและเร้าอารมณ์เท่านั้นในรูปแบบ แต่ยังต้องเงียบรับกับเสียงเครื่องยนต์ของรถด้วย พื้นผิวหลังคาที่ราบเรียบผนวกกับการตัดเย็บด้วยเทคนิค “เฟรนช์ ซีม” เพื่อความมั่นใจว่ารถต้องพุ่งตัดอากาศขณะใช้หลังคาแล้วจะไม่ได้ยินเสียงลมปะทะ ภายในห้องโดยสารของโรลส์-รอยซ์ ดอว์นจะต้องเงียบเช่นเดียวกับโรลส์-รอยซ์ เรธ – ซึ่งเป็นยนตรกรรมรุ่นแรกที่เปิดประทุน
ประการที่สอง กลไกในการกางและเก็บหลังคาจริงจะต้องถึงพร้อมทั้งความงามและเงียบในขณะเดียวกัน ทีมวิศวกรรมนั้นไปไกลถึงต้องบัญญัติคำศัพท์กันใหม่เลยทีเดียวสำหรับสิ่งที่พวกตนต้องการในกลไกของหลังคา คือ “จินตลีลาแห่งความเงียบ” และจินตลีลาแห่งความเงียบนี้เองที่พวกเขาบรรลุ
การทำงานอันเงียบสนิทภายใน 22 วินาทีที่ความเร็วขณะรถวิ่งไม่เกิน 50 ก.ม./ช.ม. “จินตลีลาแห่งความเงียบ”นี้จะเข้ามาครอบคลุมประสาทสัมผัสในฐานะของความเงียบและวิเวก ที่ตัดขาดจากเสียง แสงและกลิ่นจากโลกภายนอก แล้วราวกับการเปิดแค็ปซูลอากาศสู่พิภพให้ห้องโดยสารได้กลายเป็นพื้นที่ใช้สังสรรค์ของผู้เป็นเจ้าของ
เหนือชั้น ด้วยระบบเครื่องเสียงที่ออกแบบมาพิเศษ (บีสโป๊ค ออดิโอ)
สำหรับ ผู้ไม่ห่วงเรื่องความเงียบและให้ความสนใจในการแบ่งปันเสียงดนตรีกับเพื่อนร่วมทางมากกว่า ชุดเครื่องเสียงสำหรับรถยนต์ที่สั่งทำพิเศษของโรลส์-รอยซ์ได้ถูกปรับแต่งให้เข้ากับโรลส์-รอยซ์ ดอว์นเรียบร้อยแล้ว มันได้รับการปรับแต่งอย่างพิถีพิถันโดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องเสียงรถยนต์ของโรลส์-รอยซ์โดยเฉพาะ บีสโป๊ค ออดิโอ คือระบบเครื่องเสียงไฮ-ไฟสำหรับรถยนต์ที่ได้รับการพัฒนาและปรับแต่งเพื่อให้เข้ากับบุคลิกภาพของดอว์นโดยเฉพาะ
หลังคาจะเปิดหรือปิดก็ตาม บีสโป๊ค ออดิโอจะให้เสียงก้องกังวานอย่างเต็มประสิทธิภาพและเหมาะเจาะ ทีมวิศวกรเครื่องเสียงได้ร่วมปรึกษาหารือกันตลอดกระบวนการออกแบบรถยนต์แล้ว ในด้านการปรับเปลี่ยนที่อาจจะเกิดขึ้นกับประสิทธิภาพของระบบเครื่องเสียงที่เป็นสุดยอดชุดเครื่องเสียงในวงการยานยนต์ของโลก
ลำโพงทั้ง16 ชิ้นที่ได้รับการปรับแต่งเฉพาะแต่ละชิ้น พร้อมการปรับตั้งจากในรถยนต์จริงและจากสตูดิโอ ให้ความรู้สึกที่ 'อลังการ'ที่สุด ลำโพงเบสคู่วางไว้ใต้กระโปรงหลังประกอบกับทวีตเตอร์ 7 ชิ้นที่ถูกวางไว้อย่างดีทั่วห้องโดยสาร ระบบใช้ไมโครโฟนความไวสูงเพื่อตรวจจับเสียงในห้องโดยสารตลอดเวลา การปรับแต่งความดังและโทนเสียงเป็นไปอย่างเหมาะสมเพื่อสร้างเสียงที่สมบูรณ์ที่สุด เทคโนโลยีที่เสริมกันคือการปรับแก้ความถี่และเฟซสำหรับลำโพงแต่ละตัวเพื่อขจัดเสียงก้องและจุดอับอันเกิดจากปัจจัยภายนอก
สุดยอดวิศวกรรมแห่ง ดอว์น ใหม่ สำหรับรถยนต์เปิดประทุน
นอกจากการก้าวกระโดดอันไร้ข้อโต้แย้งในด้านวิศวกรรมของรถยนต์เปิดประทุนหลังคาอ่อนโดยทีมสร้างโรลส์-รอยซ์แล้ว โรลส์-รอยซ์ ดอว์นใหม่ยังมีนวัตกรรมด้านวิศวกรรมยานยนต์มานำเสนออีกมาก
ความท้าทายในการออกแบบรถยนต์เปิดประทุนใดๆก็ตาม มีพื้นฐานในด้านการคงไว้ซึ่งความคงทนต่อแรงบิดตัวตลอดทั้งตัวรถขณะต้องสร้างให้น้ำหนักน้อย ความคงทนต่อแรงบิดตัวนี้สำคัญในการลดอาการสั่นสะเทือนที่เกิดในรถยนต์เปิดประทุนส่วนใหญ่ และเพื่อช่วยการขับเคลื่อนอันนิ่งสนิท
การทดสอบและวิจัยได้ถูกกระทำอย่างละเอียดถี่ถ้วนเพื่อความมั่นใจสูงสุดของทีมวิศวกรรม ระยะทางนับหลายหมื่นกิโลเมตรบนถนนอันขรุขระหมดไปกับการระบุและแก้ไขปัญหาได้หมดจด ผลคือแชสซีสุดแกร่งที่ทำให้โรลส์-รอยซ์ ดอว์นเป็นรถสี่ที่นั่งเปิดประทุนที่แกร่งที่สุด ระบบกันสะเทือนใหม่ล่าสุดรับหน้าที่ควบคุมลักษณะการทำงานเฉพาะของรถเปิดประทุนรุ่นนี้ในหลายๆ จุดทั้งด้านความแข็งแกร่งของตัวรถและการกระจายมวลน้ำหนัก เพื่อรับประกันความสบายในการขับเคลื่อนและมุ่งหวังให้แล่นได้นุ่มนวลราวมนต์สะกดในแบบฉบับของโรลส์-รอยซ์
การปรับปรุงด้านอากาศพลศาสตร์อีกสองสามรายการทั้งด้านหน้าแหลัง กับการลดความสูงของจุดศูนย์ถ่วง ผสานกับแอร์สปริงและแอคทีฟ โรล บาร์ที่ออกแบบใหม่ ทำให้การบังคับรถเป็นไปอย่างคล่องตัวในแบบฉบับของรถยนต์สุดหรูที่พุ่งทยานไปบนถนนสายใหญ่
ส่วนท้ายของดอว์นอันงามสง่ามีระยะของฐานล้อหลังกว้างกว่ารุ่นโกสต์ 24 มิลลิเมตร ทำให้ดอว์นมีรูปร่างที่เพรียวกว่า นอกจากนี้ ส่วนท้ายที่กว้างทำให้รถยนต์ดูเย้ายวนใจ กับฐานล้อที่แคบขึ้นด้วยขนาด 180 มิลลิเมตร
หัวใจสำคัญแห่งประสบการณ์การขับเคลื่อนโรลส์-รอยซ์ ดอว์น
หัวใจและจิตวิญญาณของรถยนต์โรลส์-รอยซ์คันใดก็ตาม คือสุดยอดเครื่องยนต์ทวินเทอร์โบ V12 ขนาด 6.6 ลิตร ที่ให้กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 563 แรงม้า หรือ 420 กิโลวัตต์ที่ 5,250 รอบต่อนาที และแรงบิดที่ 780 นิวตันเมตรที่ 1,500 รอบต่อนาที แต่ดอว์นทำได้มากกว่านั้น แรงขับเคลื่อนของมันได้ถูกเพิ่มสมรรถนะขึ้นโดยคันเร่งแบบไดนามิกที่ให้พละกำลังสูงขึ้นอีก 30% เมื่อใช้ความเร็วปานกลาง
ดอว์นยังคงเอกลักษณ์ของพวงมาลัยในแบบฉบับของโรลส์-รอยซ์ ระบบบังคับเลี้ยวของดอว์นตอบสนองต่อผู้ขับได้ดี ขับได้สบายแต่บังคับได้มั่นใจ ในขณะเดียวกันยังรู้สึกได้ถึงความปลอดภัยสูงสุดแม้ขณะใช้ความเร็วสูงไม่ว่าจะในแบบปิดหรือเปิดหลังคา
ผลลัพธ์คือดอว์นที่เป็นโรลส์-รอยซ์แบบเปิดประทุน 4ที่นั่งที่ทรงพลังที่สุดในปัจจุบัน และต้องขอบคุณต่อวิศวกรรมอันทันสมัยที่ทำให้รถเบาและประหยัดเชื้อเพลิงกว่ารถเปิดประทุนแบบ 2+2 ที่นั่งส่วนใหญ่ในตลาด
ยางรันแฟลตคือหัวใจของการเกาะถนนที่วัดขนาดตามมาตราเมตริกคือเส้นผ่าศูนย์กลาง 540 มิลลิเมตร (20 นิ้ว) ยางแบบนี้ช่วยให้ดอว์นสามารถแล่นได้แม้ยางจะแบนสนิทต่อไปได้อีก 160 กิโลเมตร (100ไมล์) ในย่านความเร็ว 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง ก่อนจะเปลี่ยน รถยังคงควบคุมได้ดีอย่างน่าประทับใจแม้เมื่อยางแบนสนิทก็ตาม อีกทั้ง ยังมียางขนาด 21 นิ้วให้เลือกใช้ด้วยกับขอบล้อซี่ลวด 10 เส้น เทคโนโลยียางแบบรันแฟลตได้ถูกนำมาใช้งานเพื่อตัดปัญหาการเปลี่ยนล้อและแม่แรง และเพื่อเพิ่มพื้นที่บรรจุสัมภาระ
สุดยอดเทคโนโลยี เพื่อการขับเคลื่อนที่แสนง่ายดาย
เป็นธรรมดาเช่นเดียวกับรถยนต์ชั้นเลิศจากโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส ดอว์นใหม่คือผู้นำด้านการออกแบบและเทคโนโลยียานยนต์ เป็นรถยนต์ที่ถึงพร้อมซึ่งเทคโนโลยีอันล้ำลึกสำหรับผู้ขับเคลื่อนเพื่อความมั่นใจในช่วงเวลาแห่งความสนุกในรถยนต์สุดหรูที่ขับได้สบาย หัวใจสำคัญคือการวางเทคโนโลยีด้านการใช้งานไว้อย่างเหมาะเจาะแยบยล ดอว์นจึงใช้ระบบสปีริต ออฟ เอ็กสตาซี โรตารี คอนโทรลเลอร์ ระบบการบังคับแบบวัน-ทัชซึ่งผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงทั้งอุปกรณ์เพื่อความบันเทิงและฟังก์ชั่นเพื่อการนำทางได้อย่างง่ายดาย
ตัวอย่างเช่น สามารถใช้นิ้วสัมผัสจอได้เลยเมื่อต้องการออกคำสั่งเกี่ยวกับการนำทางหรือเพื่อความบันเทิง หรือเพื่อใช้ฟังก์ชั่นแฮนด์ฟรีของสมาร์ท โฟน ปุ่มโทรออกแบบวัน-ทัชถูกติดตั้งไว้แล้วในจุดที่ใช้งานได้สะดวกบนพวงมาลัยให้ออกคำสั่งต่างๆ ได้ด้วยเสียง ทั้งสองคุณสมบัตินี้ช่วยให้ไม่ต้องมีปุ่มมากมายเพื่อการใช้งานที่สะดวก เพียงแค่กดปุ่มปุ่มเดียวแล้วออกคำสั่ง : 'ไปแซงต์ โตรเปซ์' เท่านั้นระบบนำทางด้วยดาวเทียมของรถจะค้นหาเส้นทางที่สั้นที่สุดให้เอง
สปีริต ออฟ เอ็กสตาซี โรตารี คอนโทรลเลอร์นี้คือแป้นสัมผัส (แทนที่จะเป็นทัช สกรีนซึ่งอาจจะเกิดรอยนิ้วมืออันไม่พึงปรารถนาให้รำคาญสายตาของทั้งผู้ขับและผู้โดยสาร) ซึ่งใช้เขียนตัวอักษรต่างๆ ได้ด้วยนิ้วมือ รวมทั้งขีดความสามารถในการไล่ดูเมนูการใช้งานต่างๆ ได้ด้วยการหมุนแป้นโครเมียม แล้วกดเมื่อพบฟังก์ชั่นที่ต้องการ
ระบบนี้มีหลายภาษาให้เลือกใช้ทั้งอังกฤษ ลาตินและภาษาอาหรับ รวมทั้งภาษาจีนกลาง
แป้นสัมผัสของระบบโรตารี คอนโทรลเลอร์ยังมีคุณสมบัติ “ย่อ และ ขยายเพียงปลายนิ้วสัมผัส” เหมือนโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ท โฟนให้ใช้ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถระบุตำแหน่งต่างๆ บนจอภาพหรือขยายจุดนั้นให้ใหญ่ขึ้นได้
ข้อมูลจากมัลติมีเดีย อินเตอร์เฟซและระบบนำร่องที่ได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยแล้ว จะปรากฏอย่างชัดเจนงดงามบนจอภาพความละเอียดสูงขนาด 10.25 นิ้ว อุปกรณ์และซอฟต์แวร์ใหม่ช่วยให้คำนวณเส้นทางได้เร็วขึ้น
ระบบควบคุมความเร็วออโตเมติก ครูซ คอนโทรลช่วยลดการปรับเล็กๆ น้อยๆ ได้ในด้านระยะทางและความเร็ว ลดความกังวลต่อเนื่อง ควบคุมการหยุดและไปต่อ ผู้ขับขี่ทำแค่บังคับรถไปตามถนนในเมืองอย่างมั่นใจและผ่อนคลาย โดยปล่อยให้ระบบทำหน้าที่ติดตามแล้วตอบสนองต่อรูปแบบของสภาพถนนที่เปลี่ยนไป – เช่นเมื่อเข้าสู่ถนนเส้นใหม่หรือถนนลื่น
ซอฟต์แวร์ใหม่สำหรับเรดาร์และกล้องซึ่งติดตั้งอยู่เหนือกรอบกันชนและตรงกลางกระจกหน้า ตอบสนองต่อสถานการณ์ได้รวดเร็วขึ้น รวมทั้งออกคำสั่งไปยังเบรกได้เร็วขึ้นด้วยเมื่อเหยียบเบรกกะทันหัน
หากเกิดสถานการณ์อันเลวร้ายขึ้น ดอว์นมีระบบนิรภัยป้องกันการพลิกคว่ำของรถซ่อนไว้ที่ด้านหลังพนักซึ่งจะทำงานได้ภายในเสี้ยววินาทีซึ่งเฟืองสปริงหมุนทางเดียวจะล็อคอุปกรณ์เข้าที่ ระบบนิรภัยป้องกันการพลิกคว่ำนี้ยังถูกติดตั้งไว้ที่กระจกรอบคันรถ
เทคโนโลยีSatellite Aided Transmission (SAT)
การขับเคลื่อนโรลส์-รอยซ์ ดอว์นอันแสนง่ายดายนี้ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพให้สูงขึ้นอีก ด้วยเทคโนโลยี Satellite Aided Transmission ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เปิดตัวพร้อมกับรถยนต์รุ่น เรธ ในปีพ.ศ. 2556
ระบบนี้ใช้สัญญาณจีพีเอสเพื่อให้รถมองเห็นได้ไกลกว่าสายตาของผู้ขับ คำนวณการเคลื่อนที่โดยอาศัยสภาพพื้นที่และสไตล์การขับ
ระบบใช้ข้อมูลนี้เพื่อเลือกเกียร์อันเหมาะสมที่สุดจากระบบเกียร์แซดเอฟ 8 สปีด เพื่อให้ผู้ขับใช้กำลังเครื่องยนต์ได้อย่างเหมาะสมจากเครื่องยนต์โรลส์-รอยซ์ขนาด 6.6 ลิตร ทวิน-เทอร์โบ วี 12 เพื่อการขับเคลื่อนที่ง่ายดายและราบรื่นไร้รอยต่อ เช่น เมื่อเวลาเข้าโค้งฉกาจซึ่งรถเดาใจคนขับถึงวิธีที่จะผ่านจุดนี้ไป เมื่อผ่อนคันเร่งระบบจะคงเกียร์ต่ำไว้เพื่อให้มั่นใจได้ว่ามีพลังขับเคลื่อนพอต่อการเร่งเมื่อออกจากโค้งนั้น
ระบบควบคุม Satellite Aided Transmission นี้เป็นฟังก์ชั่นมาตรฐานของดอว์น
มองเห็นได้ชัดเจนทุกเวลา ด้วยเทคโนโลยีส่องสว่างอันเหนือชั้น
พัฒนาการล่าสุดในเทคโนโลยีส่องสว่างด้วยหลอดแอลอีดี เป็นอีกหนึ่งซึ่งถูกนำมาใช้ในโรลส์-รอยซ์ ดอว์น การจัดการกับแสงสว่างได้ถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นมากด้วยเทคโนโลยีการปรับไฟ โดยรีเฟลคเตอร์ที่ควบคุมด้วย อิเล็กทรอนิกจะหมุนตามทิศทางการหมุนของล้อ เพื่อช่วยในการมองเห็นให้ไกลขึ้นเมื่อยามเข้าโค้ง แสงสว่างที่สว่างขึ้นช่วยให้การขับรถเป็นไปอย่างง่ายดายและปลอดภัยในยามค่ำคืน เนื่องจากช่วยลดอาการอ่อนล้าของสายตา
นอกจากนี้ ไฟหน้าปรับเปลี่ยนมุมลำแสงอัตโนมัติยังถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยีเบี่ยงแสงสะท้อนใหม่ล่าสุด เมื่อรถยนต์อีกคันแล่นเข้าหาลำแสงจะถูกเบนออกเพื่อให้คนที่ขับเข้าหาตาไม่พร่า ผู้ขับดอว์นจึงสามารถใช้ไฟหน้าได้อย่างเต็มที่และปลอดภัย ตอนกลางวันไฟหน้าของดอว์นจะมีไฟวิ่งรอบช่วยให้รถยนต์มีความเป็นเอกลักษณ์และในขณะเดียวกันปลอดภัยในยามขับขี่
ส่วนความปลอดภัยในยามค่ำคืน ได้รับการเสริมให้ดีขึ้นด้วยระบบเตือนและระบบตรวจจับความร้อนแสดงภาพบนจอ ซึ่งตรวจจับความร้อนในตัวของทั้งคนและสัตว์ แล้วส่งเสียงเตือนคนขับให้ระวังอันตรายทันท่วงที
ข้อมูลทางเทคนิค
ขนาด |
|
ความยาว |
5285 มม. / 17.34 ฟุต |
ความกว้าง |
1947 มม. / 6.39 ฟุต |
ความสูง (เมื่อไม่มีผู้โดยสาร) |
1502 มม. / 4.93 ฟุต |
ฐานล้อ |
3112 มม. / 10.21ฟุต |
วงเลี้ยว |
12.7 เมตร / 41.7 ฟุต |
ความจุสัมภาระด้านท้าย (DIN) |
244 ลิตร – 295 ลิตร / 8.6 ฟุต - 10.4 ฟุต |
น้ำหนัก |
|
น้ำหนักเมื่อไม่มีผู้โดยสาร (DIN) |
2560 กิโลกรัม / 5644 ปอน์ด |
เครื่องยนต์ |
|
เครื่องยนต์ / กระบอกสูบ / วาล์ว |
V / 12 / 48 |
การจ่ายเชื้อเพลิง |
Direct injection |
กำลังสูงสุด |
563bhp / 420kW / 570PS @ 5250rpm |
แรงบิดสูงสุด |
780Nm / 575lb ft @ 1500rpm |
ประเภทเชื้อเพลิง |
10:1 / Premium unleaded |
สมรรถนะ |
|
ความเร็วสูงสุด |
250kmh / 155mph (governed) |
อัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. |
4.9 วินาที |
อัตราการใช้พลังงาน |
|
ในเมือง |
21.4 ลิตร / 100 กม. / 13.2mpg (Imp.) |
นอกเมือง |
9.8 ลิตร / 100 กม. / 28.8mpg (Imp.) |
อัตราโดยเฉลี่ย Combined consumption / range |
14.2 ลิตร / 100 กม. / 19.9mpg (Imp.) |
ระดับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ |
330 กรัม/กม. |
บทถึงบรรณาธิการ
ท่านสามารถหาข่าวประชาสัมพันธ์ แฟ้มข้อมูลสําหรับสื่อมวลชน รวมถึงรูปภาพและวีดิทัศน์ความละเอียดสูงพร้อมให้ดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์สําหรับสื่อมวลชนที่เว็บไซต์ PressClub ท่านยังสามารถติดตามข่าวสารของโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส ได้ที่ ทวิตเตอร์