- Details
- Category: คมนาคม
- Published: Wednesday, 20 August 2014 22:22
- Hits: 2617
ทอท.ชงบอร์ดเคาะแผนพัฒนา 3 สนามบิน
ไทยโพสต์ : ราชดำเนิน * ทอท.เผยประชุมบอร์ด 21 ส.ค. เตรียมชงแผนพัฒนา 3 สนามบิน สุวรรณภูมิ, ดอนเมืองและอู่ตะเภา คาดแล้วเสร็จทันปี 2560 พร้อมโวมีสภาพคล่องล้นมือ
นายเมฆินทร์ เพ็ชรพลาย กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท. วันที่ 21 ส.ค.2557 นี้ จะนำแผนการขยายสนามบิน ดอนเมือง, การพัฒนาสนาม บินสุวรรณภูมิระยะที่ 2 และ การพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาในเชิงพาณิชย์ให้บอร์ดพิจารณา ภายหลังจากที่ได้ปรับแผนให้ สอดคล้องกับนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ที่มอบให้กระทรวงคมนาคมไปศึกษาพัฒนาระบบการขนส่งทางอากาศ เพื่อเชื่อมโยงการเดินทางเข้ากับภูมิภาคที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต หลังเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558
สำหรับ แผนการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2 นั้น คสช.เห็นว่าควรเร่งศึกษาให้เร็วขึ้น จึงทำให้ต้องมีการเปลี่ยนแบบ โดยเพิ่มอาคารผู้โดยสารภายในประ เทศ และลดเนื้องานสุวรรณ ภูมิระยะ 2 บางส่วนลง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบการก่อสร้างอาคาร ว่าจะเพื่อใช้รับเที่ยวบินในประเทศอย่างเดียว หรือรองรับได้ทั้งผู้โดยสารในและต่างประเทศ คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 1-1.3 หมื่นล้านบาท เพื่อรองรับได้ 15-20 ล้านคน
"แผนสุวรรณภูมิเฟส 2 เดิมจะใช้งบ 62,500 ล้านบาท เพื่อขยายความจุเป็น 60 ล้านคน แต่ถ้าจะสร้างอาคารผู้โดยสารในประเทศเพิ่มมา อาจต้องปรับลดงบเฟส 2 บางส่วน และนำงบไปสร้างอาคารในประเทศแทน ซึ่งจะทำให้สุวรรณภูมิรับผู้โดยสารได้เพิ่มจาก 60 ล้านคน บวกกับ 15-20 ล้านคน เป็น 75-80 ล้านคน"
ส่วนการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา ที่อยู่ภายใต้การบริหารของกองทัพอากาศ กระทรวงคมนาคมให้ ทอท.มาช่วยทำการศึกษา ซึ่งเบื้องต้นประเมินว่าจะต้องลงทุน 2,000-4,000 ล้านบาท เพื่อปรับพื้นที่บางส่วนให้เป็นสนามบินเชิงพาณิชย์ รองรับผู้โดยสาร 2.5 ล้านคน แต่พื้นที่หลักยังคงไว้สำหรับใช้กิจกรรมของกองทัพด้วย ขณะที่แผนขยายความจุของสนามบินดอนเมือง จากปัจจุบันรองรับผู้โดยสารได้ 18.5 ล้านคน เพิ่มเป็น 30 ล้านคนในเดือน ต.ค.นี้ แต่ในระยะต่อไปจะเพิ่มให้รองรับได้เป็น 40 ล้านคน ในปี 58 และเพิ่มเป็น 60 ล้านคน ในปี 59 เพื่อรองรับการเติบโตของสายการบินต้นทุนต่ำ ที่จะขยายตัวอีกไม่ต่ำกว่า 15-20% ในอนาคต.