- Details
- Category: คมนาคม
- Published: Wednesday, 21 September 2016 23:45
- Hits: 7373
คมนาคม คาดสัปดาห์หน้าได้ข้อสรุปวงเงินก่อสร้างรถไฟไทย-จีน ชงครม.พิจารณา ต.ค. เปิดประมูล พ.ย.นี้ วงเงินโครงการ 1.79 แสนลบ.
คมนาคม คาดสัปดาห์หน้าได้ข้อสรุปวงเงินก่อสร้างรถไฟไทย - จีน และเตรียมเสนอให้ครม.พิจารณาในเดือนต.ค. เปิดประมูล พ.ย.นี้ วงเงินโครงการ 1.79 แสนลบ.
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 14 ณ โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน กรุงเทพฯ วันนี้ (21ก.ย.59) ว่า การหารือครั้งนี้ได้พูดคุยในประเด็นใหญ่ 3 เรื่อง คือ สัญญาการออกแบบ ที่ปรึกษาควบคุมงาน และระบบตัวรถ รวมไปถึงการฝึกอบรมบุคลากร ซึ่งพบว่าปัจจุบันฝ่ายจีนยังสรุปในส่วนของสัญญาการออกแบบไม่แล้วเสร็จเนื่องจากยังติดปัญหาของการปรับแก้วัสดุอุปกรณ์ที่จะใช้พัฒนาซึ่งจะต้องแปลงรหัสต่างๆ จากจีนให้เป็นมาตรฐานสากลและเทียบเคียงของไทย จึงคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือน ต.ค.นี้
ในที่ประชุมยังวางกรอบกำหนดของเอกสารประกวดราคา (ทีโออาร์) ที่จะจัดใช้เป็นเงื่อนไขจัดหาเอกชนไทยเข้ามารับงานก่อสร้างโครงการ โดยในส่วนนี้จำเป็นต้องรอข้อมูลลักษณะจำเพาะจากฝ่ายจีนที่จะถอดแบบรหัสวัสดุก่อสร้างรวมทั้งการออกแบบต่างๆ ซึ่งขณะนี้ได้เร่งรัดให้ฝ่ายจีนสรุปข้อกำหนดดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายใน 15 ต.ค.นี้ เพื่อร่างสัญญาโครงการร่วมกัน และนำเสนอขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในเดือน ต.ค.นำไปสู่การเปิดประกวดราคาจัดหาผู้รับเหมางานก่อร้างในส่วนแรก 3.5 กิโลเมตร (กม.) บริเวณสถานีกลางดงในเดือน พ.ย.ที่จะถึงก่อนจะเริ่มก่อสร้างภายในเดือน ธ.ค. 2559 ทั้งนี้ในส่วนของกรอบวงเงินโครงการเบื้องต้นฝ่ายไทยยังประเมินไว้ที่ 1.79 แสนล้านบาท
นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวเสริมว่า การประชุมครั้งนี้จะเป็นการหารือเพื่อสรุปรายละเอียดในส่วนของวงเงินก่อสร้างโครงการ รวมไปถึงการหารือเพื่อปรับรายละเอียดวัสดุก่อสร้างจากจีนเป็นไทยนำมาสู่การเปิดประกวดราคาที่จะเกิดขึ้นภายในปีนี้
อย่างไรก็ดี กระบวนการต่อไปหลังจากหารือสิ้นสุดลง การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จะสรุปรายละเอียดวงเงินก่อสร้างเสนอมายังกระทรวงฯ ในช่วงสัปดาห์หน้า ก่อนส่งต่อไปยัง ครม. เพื่อขออนุมัติโครงการในเดือน ต.ค.นี้ ขณะที่ประเด็นของวงเงินก่อสร้างนั้นภายในที่ประชุมครั้งนี้กระทรวงการคลังจะเข้ามาเป็นผู้เจรจาโดยตรง และยังคงยืนยันที่จะประเมินอัตราดอกเบี้ยเทียบเคียงกับเงินกู้ในประเทศ จึงคาดว่าประเด็นเรื่องเงินกู้จะยังไม่ได้ข้อสรุปในการหารือครั้งนี้
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย