- Details
- Category: คมนาคม
- Published: Sunday, 27 March 2016 11:35
- Hits: 1782
รมว.คมนาคม คาดก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีนในส.ค.- ก.ย.นี้ เตรียมคุยกับจีนลดราคาเหลือ 1.7 แสนลบ.
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า โครงการรถไฟ ไทย-จีน เส้นทางกรุงเทพฯ-แก่งคอย-นครราชสีมา ระยะทาง 250 กิโลเมตร จะดำเนินการก่อสร้างได้ราวเดือนส.ค.-ก.ย.59 ซึ่งคาดว่าจะใช้ เวลาดำเนินการทั้งหมด 2 ปีครึ่ง
อย่างไรก็ตาม ได้ประเมินว่ามูลค่าโครงการควรอยู่ที่ 1.7 แสนล้านบาท ต่ำกว่าที่จีนคำนวณอยู่ที่ 1.9 แสนล้านบาท ซึ่งจะต้องมีการหารือกับฝ่ายจีนอีกครั้ง ในเดือน เม.ย.เพื่อขอให้ปรับลดลง โดยไทยจะใช้เทคโนโลยีของจีนในด้านการก่อสร้าง อาณัติ สัญญาณ และ ตัวรถ แต่ผู้ก่อสร้างเป็นของคนไทยทั้งหมด
รถไฟไทย-จีน เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ถือว่าเป็นรถไฟความเร็วสูงเส้นแรก ส่วนเส้นทางนครราชสีมา-หนองคาย และ แก่งคอย- มาบตาพุด จะลงทุนเมื่อมีความพร้อมและเหมาะสมด้านเศรษฐกิจ
สำหรับ แหล่งเงินกู้นั้น นายอาคม กล่าวว่า มีหลายช่องทางทั้งกู้จากจีนซึ่งจีนตกลงให้ดอกเบี้ย 2% แต่ต้องดูปัจจัยอย่างอื่นประกอบด้วย ไม่ ใช่แค่เฉพาะ ดอกเบี้ยเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีสถาบันการเงินทั้งในและต่างประเทศ
"การก่อสร้างจะเริ่มได้ราวสิงหาคม กันยายน โดยทั้งโครงการคาดว่า จะใช้เวลา 2 ปีครึ่ง เฉพาะเส้นกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ที่เราตัดสินใจ เป็นรถไฟ ความเร็วสูง ระยะทาง 250 กิโลเมตร เราจะเน้นขนคนเป็นหลัก แหล่งเงินยังไม่สรุป ต้องให้รมว.คลังมาช่วยกันพิจารณาร่วมกับ ฝ่าย คณะทำงานของไทยและจีนด้วย ยืนยันว่าต้องเป็นแหล่งเงินที่ดีที่สุด และ ไทยได้ ประโยชน์มากที่สุด" นายอาคมกล่าว
ทั้งนี้ คณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟไทย-จีน จะมีการประชุมกันครั้งที่ 10 ในต้นเม.ย.นี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับ มูลค่าโครงการ ทีไทยขอปรับลดลง รวมถึงแหล่งเงินทุน โดยอาจเปิดทางให้เอกชนมาร่วมทุนกับภาครัฐหรือ(PPP) ในระบบอาณัติสัญญาณ และการบริหารการเดินรถ
"เมื่อได้วงเงินก่อสร้างทั้งหมดมาแล้ว ก็จะดูว่าส่วนไหนจะ กู้ ส่วนไหน ไม่กู้ อาจไประดมทุนเอง หรืออาจจะตั้งเป็นบริษัทเอกชน แล้วให้เอกชนมา เดินรถ เอกชนก็รับภาระในการซื้อรถไป ซึ่งตอนนี้ยังไม่นิ่ง" นายอาคมกล่าว
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
คลังเดินหน้าหาเงินลุยรถไฟความเร็วสูงมั่นใจสภาพคล่องในประเทศเพียงพอ
แนวหน้า : นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลังเปิดเผยว่ากระทรวงการคลังมีความพร้อมในการจัดหาแหล่งเงินเพื่อลงทุนในโครงการรถไฟความเร็วสูง ซึ่ง จะดำเนินการก่อสร้างช่วงแรกก่อน คือ กรุงเทพฯ-แก่งคอย-นครราชสีมา ระยะทาง 250 กิโลเมตร เบื้องต้นจะพิจารณาการกู้เงินภายในประเทศก่อน เนื่องจากสภาพคล่องในประเทศมีเพียงพอรองรับการดำเนินการใน ส่วนนี้ รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ
นอกจากนี้ การให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนกับรัฐ (พีพีพี)นั้น ก็อยู่แนวทางที่สามารถทำได้ ซึ่งถือเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ดี เพราะเอกชนส่วนใหญ่ก็มีความพร้อม และภาครัฐเองก็จะสามารถประหยัดงบประมาณที่จะใช้ในส่วนนี้ไปได้เป็นจำนวนมาก
"ทั้งนี้ เดิมทีเราจะร่วมทุนกับประเทศจีนในลักษณะการถือหุ้น ในรูปของบริษัท แต่เมื่อมาพิจารณาแล้วเรามีความพร้อมที่จะดำเนินการได้ก็จะทำเอง เราเป็นเจ้าของเจ้าเดียวเลย โดยหลักการในการกู้เงินก็จะเน้นในประเทศเป็นหลัก เงินเรามีเยอะอยู่แล้ว ไม่น่ามีปัญหา ดำเนินการได้หลายวิธี รวมถึงการกู้เงินผ่านกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ ฟันด์ด้วย แต่หากต่างประเทศมีข้อเสนอการปล่อยเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟท์โลน) ให้เราพิจารณา และหากดูแล้วว่าอัตราดอกเบี้ยในส่วนนี้ถูกกว่าในประเทศเราก็สามารถเลือกทางนี้ได้เช่นกัน โดยคงต้องมาดูว่าอะไรถูกกว่า ดีกว่าก็เอาอันนั้น ซึ่งเราเองก็เปิดตัวเลือกกว้างรอไว้" นายอภิศักดิ์ กล่าว
นายอภิศักดิ์กล่าวอีกว่า สำหรับสัดส่วนแหล่งเงินที่จะมาใช้ในการ ดำเนินการก่อสร้างครั้งนี้ คงต้องรอดูภาพรวมของโครงการทั้งหมดก่อนว่ามีความต้องการใช้เงินลงทุนอย่างไรบ้าง ทั้งเรื่องการลงทุนขบวนรถไฟ รางรถไฟ การบริหารจัดการในส่วนต่างๆ จากนั้นจึงจะมาพิจารณาว่าเราจะใช้แหล่งเงินจากไหน ในสัดส่วนเท่าใด โดยเรื่องนี้เชื่อว่ากระทรวงคมนาคมมีความพร้อม วางแผนและออกแบบไว้หมดแล้ว ซึ่งคาดว่าจะลงมือก่อสร้างได้ภายในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมนี้
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคมกล่าวว่าโครงการดังกล่าวจะเริ่มก่อสร้างเส้นทางกรุงเทพฯแก่งคอย-นครราชสีมา ระยะทาง 250 กิโลเมตร ส่วนเส้นทางที่เหลืออีก 595 กิโลเมตรจะพักโครงการไว้ก่อนแบบไม่มีกำหนด เพื่อรอดูความเหมาะสมในการดำเนินการต่อไป
สาเหตุที่ฝ่ายจีนไม่สามารถเข้าร่วมลงทุนครั้งนี้ ได้ ฝ่ายจีนให้เหตุผลว่าเนื่องจากการลงทุนโครงการตลอดเส้นทางกรุงเทพฯ-แก่งคอย-นครราชสีมา และนครราชสีมา-หนองคาย จะต้องใช้งบประมาณสูงถึง 500,000 ล้านบาท จึงต้องการนำพื้นที่ 2 ข้างทางรถไฟมาใช้ เพื่อพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ ซึ่งไทยไม่สามารถตกลงเงื่อนไขส่วนนี้ได้