- Details
- Category: คมนาคม
- Published: Sunday, 28 February 2016 12:32
- Hits: 2512
รมว.คมนาคม คาดโครงการมอเตอร์เวย์บางใหญ่–กาญจนบุรี/บางปะอิน–นครราชสีมาเข้า PPP Fast Track ปลายปีนี้
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม กล่าวภายหลังเปิดการสัมมนาเพื่อประเมินความสนใจของภาคเอกชน (Market Sounding) แนวทางการให้เอกชนดำเนินงานและบำรุงรักษา (Operation and Maintenance:O&M) โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางใหญ่-กาญจนบุรี และสายบางปะอิน-นครราชสีมาว่า เป็นการเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนทั้งในและต่างประเทศที่สนใจจะเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานและบำรุงรักษาโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองทั้ง 2 สายได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับโครงการ ตลอดจนกรอบแนวคิด แนวทางการดำเนินงาน ระยะเวลาการดำเนินงาน และการให้เอกชนมีส่วนร่วมในการลงทุน
อีกทั้ง ยังเป็นการเปิดรับฟังความคิดเห็นขององค์กรภาคธุรกิจ หน่วยงาน และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องถึงรูปแบบการร่วมทุนที่เหมาะสม เพื่อจัดทำรายละเอียดรูปแบบการลงทุนเสนอคณะกรรมการ PPP เพื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารณา PPP Fast Track ปลายปีนี้ โดยงาน O&M จะเปิดให้เอกชนเป็นผู้ดำเนินการเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางตามระยะทาง พร้อมทั้งมีพื้นที่ให้บริการจุดพักรถ (Rest Area) ในแต่ละสายอีกด้วยซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาประเมินมูลค่า
สำหรับ การศึกษาในส่วนของทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางใหญ่-กาญจนบุรี การลงทุนงานระบบ ประกอบด้วย ด่านเก็บค่าผ่านทาง, อาคารควบคุมจราจร, ด่านชั่งน้ำหนัก, หน่วยกู้ภัย, หน่วยบริการบำรุวรักษา เป็นต้น วงเงินเบื้องต้นประมาณ 4,200 ล้านบาท ซึ่งการลงทุนจะมี 2 ส่วน คือ 1.การดำเนินงานและบำรุงรักษา โดยตามแผนจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขออนุมัติหลักการในเดือน ก.ค.59 ส่วนที่ 2 เป็นการบริหารที่พักริมทาง ซึ่งงานส่วนนี้จะเสนอ ครม.ของความเห็นชอบในหลักการเดือน ม.ค.60 มีเป้าหมายเปิดให้บริการในปี 2563
สำหรับ การสัมมนาเพื่อประเมินความสนใจของภาคเอกชน (Market Sounding) ดังกล่าว เป็นไปตามข้อกำหนดของ พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2556 และมติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ ครั้งที่ 3/2558 ซึ่งเล็งเห็นประโยชน์ของการเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองทั้งสองสาย เพื่อเป็นการควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน เป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรและงบประมาณของภาครัฐ ตลอดจนการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแก่ผู้ใช้ทาง และการบริหารจัดการรายได้จากค่าธรรมเนียมผ่านทาง
อินโฟเควสท์
ทล.ขอต่อราคาสร้างมอเตอร์เวย์
บ้านเมือง : แหล่งข่าวจากกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมทางหลวงได้เชิญบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้เสนอราคาต่ำสุดในการประกวดราคาด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) โครงการก่อสร้างทางพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา ตอนทางแยกต่างระดับสระบุรี ระหว่างกิโลเมตร (กม.) 37+700.000 -กม.41+300.000 (ตัดกับทางหลวงหมายเลข 1 ที่ กม.99+500.000) มาต่อรองราคา เนื่องจากการเสนอราคานั้น สูงกว่าราคากลางซึ่งอยู่ที่ 1,512 .02 ล้านบาท ซึ่งภายหลังการต่อรองนั้น บริษัท ยอมลดลงให้มาอยู่ที่ 1,600 ล้านบาท ซึ่งลดลงกว่าที่เสนอมาครั้งแรกเพียงเล็กน้อย แต่ยังไม่ยอมลดให้ต่ำกว่าราคากลาง เนื่องจากอ้างว่าตามระเบียบ การประกวดราคาด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ ผู้เสนอราคาสามารถเสนอให้ต่ำกว่าราคากลาง 10% หรือ สูงกว่าราคากลาง 10% ก็ได้
ทั้งนี้ กรมทางหลวงยังต้องเชิญ บริษัท อิตาเลียนไทยฯ มาต่อรองอีกครั้งในสัปดาห์หน้า โดยมีเป้าหมายว่าต้องปรับราคาให้ต่ำกว่าราคากลางให้ได้ แต่หากยังยืนที่ราคา 1,600 ล้านบาท กรมทางหลวงก็ต้องรายงานไปยังสำนักงบประมาณ เพื่อให้พิจารณาว่าจะปรับเพิ่มค่าก่อสร้างมากกว่าราคากลางได้หรือไม่ แต่ยังต้องรอให้สำนักงบประมาณนำส่งแผนการเปลี่ยน แปลงแหล่งเงินลงทุนมอเตอร์เวย์เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์นี้ก่อน เนื่องจากสำนักงบประมาณจะขอเปลี่ยนแหล่งเงินลงทุนมอเตอร์เวย์ 2 สายทาง คือ สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กิโลเมตร วงเงิน 55,620 ล้านบาท และสายบางปะอิน-นครราชสีมา ระยะทาง 196 กิโลเมตร วงเงิน 84,600 ล้านบาท มาเป็นการใช้เงินจากงบประมาณ จากเดิมที่ครม.ได้มีมติให้ใช้วิธีกู้เงิน
สำหรับ มอเตอร์เวย์สายบางใหญ่-กาญจนบุรีนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างปรับปรุงการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) คาดว่าจะสามารถเสนอคณะกรรมการ สิ่งแวดล้อมแห่งชาติได้กลางปี 2559 แต่กรมทางหลวงจะเริ่มประกาศ ทีโออาร์ ได้ปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยดำเนินการในส่วนที่ไม่ติดเรื่อง EIA ก่อน ซึ่งจะแบ่งงานออกเป็น 25 สัญญา โดยงานก่อสร้างจะเริ่มต้นที่จากช่วง จ.กาญจนบุรี-ท่ามะกาก่อน
'อาคม'ลุยสร้างมอเตอร์เวย์ถนนเชื่อมไทย-ท่าเรือทวาย
แนวหน้า : นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ว่า สำหรับสายพัทยา-มาบตาพุด ขณะนี้ได้ผู้รับเหมาก่อสร้างแล้ว 11 ช่วงสัญญาจากทั้งหมด 130 ช่วงสัญญา คาดว่าจะ เริ่มการก่อสร้างได้ไม่เกินเดือนเม.ย.นี้
ส่วนเส้นบางปะอิน-นครราชสีมาได้ผู้รับเหมาแล้ว 1 ช่วงสัญญาจากทั้งหมด 40 ช่วงสัญญา ซึ่งอยู่ระหว่างการต่อรองราคากับผู้รับเหมาก่อสร้างและการจัดการกรรมสิทธิ์ ที่ดินที่ยังมีปัญหาอยู่
ขณะที่เส้นทางบางใหญ่-กาญจนบุรี ขณะนี้อยู่ระหว่างการทบทวนทางกายภาพ ของที่ดินให้มีความทันสมัย คาดว่า จะเสนอต่อคณะกรรมการวิเคราะห์ผล กระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) ได้ภายในกลางปีนี้ พร้อมคาดว่ามอเตอร์เวย์สาย บางปะอิน-นครราชสีมา และสายบางใหญ่-กาญจนบุรี จะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2563
นายอาคม กล่าวเพิ่มเติมถึงโครงการท่าเรือน้ำลึกทวาย ในเมียนมา ว่า โครงการนี้เป็นความร่วมมือกันระหว่าง 3 ประเทศได้แก่ ไทย เมียนมา และญี่ปุ่น โดยการจัดตั้งเป็นแบบนิติบุคคล เฉพาะกิจ(SPV) ขึ้นมาบริหารโครงการ ขณะนี้ได้มีการลงนามในสัญญาเพื่อ ทำข้อตกลงเกี่ยวกับการถือหุ้นแล้ว คาดว่ากระบวนการการลงทุนดังกล่าวจะแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้
ส่วนการสร้างถนนจากทวายมาถึงบ้านพุน้ำร้อนของไทย ที่จ.กาญจนบุรี ก่อนหน้านี้ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (ITD) ที่เป็น ผู้ได้รับสัญญาจาก รัฐบาลเมียนมาให้เป็น ผู้ดำเนินการก่อสร้าง และเคยออกแบบ ถนน 2 ช่องจราจรไว้
อย่างไรก็ดี ล่าสุด องค์การความ ร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) ได้เข้าช่วยเหลือเรื่องการศึกษาเส้นทางถนนสายดังกล่าว โดยศึกษาถึงความเป็น ไปได้ของการขยายถนน (new highway road) จากโครงการทวายเชื่อมมายังชายแดนไทยที่บ้านพุน้ำร้อน ซึ่งนำมาผลการศึกษาและออกแบบของ ITD มาศึกษาร่วมด้วย และการศึกษาของ ทางญี่ปุ่น โดยพบว่าแบบเดิมมีทาง ลาดเอียงที่ชันมากทำให้ยากต่อการ ใช้งานของรถบรรทุก
"ญี่ปุ่นมีการลงพื้นที่พร้อมกับ กรมทางหลวง เพื่อทำการศึกษาเพิ่มเติม มีความเห็นว่าต้องมีการปรับเป็นบางส่วน เท่านั้น และแนวเส้นทางส่วนใหญ่ประมาณ 80% ยังคงเป็นตามแนวเส้นทางเดิม ส่วนที่จะต้องมีการปรับจะเป็นบริเวณ ภูเขาที่จะต้องทำอุโมงค์เพิ่ม 7 จุด โดยอาจจะ มีการใช้เงินกู้จากทางญี่ปุ่นในส่วนนี้ และ จะต้องมีการพิจารณาของค่าใช้จ่ายในการ ก่อสร้างที่จะเพิ่มขึ้น แต่เชื่อว่าโครงการดังกล่าวจะไม่ล่าช้าออกไป" นายอาคม กล่าว