WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1เรมกลบ

ถนนทุกสายมุ่งเข้ากรุง-ติดหนึบหนับ 'มิตรภาพ'สายเอเชีย เพชรเกษม รถทะลัก! ตร.รับมือ

       ถนนทุกสาย มุ่งเข้ากรุงติดหนึบหนับ ทั้งสายมิตรภาพ-เอเชีย-เพชรเกษม หมอชิต-หัวลำโพงเนืองแน่น ปชช.ทยอยกลับจากปีใหม่มาทำงาน โคราชเปิดช่องทางพิเศษ 4 จุด เร่งระบายรถเข้ากรุง พร้อมปิดชั่วคราว 16 จุดกลับรถด้วย แนะเส้นทางเลี่ยงตัวเมืองย่าโม บุรีรัมย์ก็ติดยาวหลายกิโลฯ ส่วนถนนเพชรเกษม จากภาคใต้ก็เริ่มติดอีก คาดยาวมาถึงถนนพระราม 2 ขณะที่สายเอเชียจากภาคเหนือก็หนาแน่น-รถชะลอตัว ปทุมฯ ก่อนเข้ากทม.หนึบกว่า 5 ก.ม. ยอด 4 วัน ดับ 253 ศพ ตายเป็นศูนย์ 8 จังหวัด ยึดรถเมาขับแล้ว 2,140 คัน ส่วนดอยสุเทพ-อ่างขางยังแห่เที่ยว รับอากาศหนาวบนภูเรือ-ภูกระดึง-ผามออีแดง

วันที่ 03 มกราคม พ.ศ. 2559 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9167 ข่าวสดรายวัน
เริ่มกลับ - ส่วนหนึ่งของประชาชนที่ทยอยเดินทางจากต่างจังหวัดโดยรถไฟ กลับเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ หลังจากหยุดยาวในช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง เมื่อวันที่ 2 ม.ค.


ดับ 253 ศพ-8 จว.ตายเป็นศูนย์
   เมื่อวันที่ 2 ม.ค. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะรองประธานกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน เป็นประธานแถลงสรุปผลการดำเนินงานลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2559 ของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาล ปีใหม่ 2559 โดยรวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 1 ม.ค. เกิดอุบัติเหตุ 647 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 75 ราย ผู้บาดเจ็บ 657 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาสุรา ร้อยละ 33.08 ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 15.90 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 82.34 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 60.12 บนถนนใน อบต.และหมู่บ้าน ร้อยละ 38.64 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 30.45 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 00.01-04.00 น. ร้อยละ 31.38 ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงาน ร้อยละ 55.94
     ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,103 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 65,642 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 646,978 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดีรวม 106,661 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 29,987 ราย ไม่มีใบขับขี่ 29,959 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 29 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ปทุมธานี 5 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ นครศรี ธรรมราช 35 คน
     นพ.โสภณกล่าวอีกว่า สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค.58-1 ม.ค.59 เกิดอุบัติเหตุรวม 2,338 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 253 ราย ผู้บาดเจ็บ 2,412 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 8 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ ตรัง พังงา แพร่ ระนอง สมุทร ปราการ สิงห์บุรี และสุโขทัย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 91 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา เชียงราย สงขลา และปทุมธานี จังหวัดละ 9 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 91 คน

เตรียมรับคนกลับเข้ากรุง
    นพ.โสภณ กล่าวอีกว่า ในวันนี้ประชาชนเริ่มทยอยเดินทางกลับ ขณะที่บางส่วนยังคงเฉลิมฉลองอยู่ในพื้นที่ ศปถ.จึงกำชับให้จังหวัดดูแลทั้งเส้นทางสายหลักและสายรองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากข้อมูลสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุเมื่อวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา พบว่าดื่มแล้วขับเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงกว่าร้อยละ 33 และเวลา 00.01-04.00 น. เป็นช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด จึงขอเน้นย้ำจุดตรวจ จุดสกัดตามชุมชน หมู่บ้านเข้มงวดในการเรียกตรวจ โดยเฉพาะช่วงกลางคืนหลังเวลา 23.00 น.ไปแล้ว เพื่อตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์และประเมินความพร้อมในการขับรถของผู้ขับขี่
    ด้านนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และเลขา นุการศปถ. เผยว่า ประชาชนบางส่วนเริ่มทยอยเดินทางกลับ ซึ่งความอ่อนล้าจากการเฉลิมฉลองและการขับรถระยะทางไกล อาจเป็นสาเหตุที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ นายกฯ ห่วงใยความปลอดภัยของประชาชน จึงได้สั่งการให้ศปถ.กำชับจังหวัดประสานการปฏิบัติงานของจุดตรวจที่อยู่บริเวณรอยต่อระหว่างจังหวัด เพื่อส่งต่อการดูแลความปลอดภัยของประชาชน รวมทั้งกวดขันความพร้อมของผู้ขับรถ โดยเฉพาะพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะทั้งประจำทาง ไม่ประจำทาง รถตู้โดยสารเป็นพิเศษ พร้อมยึดมาตรการบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด ควบคู่กับการผลักดันกลไกมาตรการทางสังคมและชุมชนให้มีความเข้มแข็ง

ยึดรถเมาขับแล้ว 2,140 คัน
   ขณะที่พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคสช. เปิดเผยว่า การดูแลประชาชนที่ใช้เส้นทางสัญจรตามมาตราการสร้างความปลอดภัยด้วยการดื่มไม่ขับของคสช. โดยกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ตำรวจ ฝ่ายปกครองยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจำนวนผู้ใช้เส้นทางยังมีจำนวนมาก แต่ไม่หนาแน่นเหมือน 1-2 วันที่ผ่านมา โดยสถิติการตรวจพบผู้กระทำผิดในลักษณะที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุโดยประมาทด้วยการดื่มแล้วขับขี่ในวันที่ 1 ม.ค. มีดังนี้ รถจักรยานยนต์ พบการกระทำความผิด 6,091 ครั้ง เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องยึดรถจักรยานยนต์ไว้ 740 คัน และส่งผู้กระทำผิดดำเนินคดี 5,216 คน ส่วนรถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคคล พบการ กระทำความผิด 2,667 ครั้ง เจ้าหน้าที่ยึดใบขับขี่ไว้ 238 คน ยึดรถยนต์ 96 คัน ส่งผู้กระทำความผิดดำเนินคดี 2,242 คน
    พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวอีกว่า ตลอด 8 วันที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค.58 -1 ม.ค.59 เจ้าหน้าที่ได้ยึดรถที่ฝ่าฝืนมาตรการดื่มไม่ขับไว้แล้ว 2,140 คัน แยกเป็นรถจักร ยานยนต์ 1,952 คัน และรถยนต์ 188 คัน และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด ในส่วนรถจักรยานยนต์ 16,650 คน รถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคล 6,565 คน ทั้งนี้ ในจุดบริการประชาชนของคสช.ตามเส้นทางต่างๆ มีผู้มาขอใช้บริการเป็นระยะ โดยส่วนใหญ่จะสอบถามเส้นทาง จอดพักรถ ซ่อมตรวจสภาพรถ ดื่มกาแฟ เข้าห้องน้ำและขอรับการปฐมพยาบาลเบื้องต้น
    พล.ต.บรรพต พูลเพียร โฆษกกอ.รมน. เปิดเผยว่า ผ่านพ้นห้วงการจัดกิจกรรมสำคัญในเดือนธ.ค.58 และไม่ปรากฏเหตุร้ายที่กระทบต่อความมั่นคง ล่าสุดการจัดกิจกรรมนับถอยหลังวันขึ้นปีใหม่ 2559 ตามสถานที่ต่างๆ ที่ปรากฏภาพงดงามตระการตา สร้างความสุขความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวและกิจกรรมการสวดมนต์ข้ามปี โอกาสนี้พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ. ในฐานะรองผอ.รมน. ฝากขอบคุณส่วนราชการทุกหน่วยงานและประชาชน ที่ร่วมกันบูรณาการและประสานงานด้านการข่าวเฝ้าระวังเหตุผิดปกติต่างๆ โดยให้ความสำคัญกับมาตรการเชิงป้องกัน

ถนนสายเหนือรถหนาแน่น
     ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เดินทางมาตรวจความเรียบร้อยศูนย์บริการร่วมในสังกัดกระทรวงคมนาคม จ.พิจิตร บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอวชิรบารมี โดยนายอาคมเปิดเผยว่า ประชาชนเริ่มทยอยเดินทางกลับจากกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งพบว่าบนทางหลวงหมายเลข 117 พิษณุโลก-นครสวรรค์ ซึ่งเป็นทางหลวงสายหลักจากหลายจังหวัดทางภาคเหนือเข้าสู่ภาคกลาง และเข้าสู่กรุงเทพฯ ปริมาณรถเริ่มหนาแน่นตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา เนื่องประชาชนจะเดินทางกลับก่อนกำหนด เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรในวันที่ 3 ม.ค.ที่คาดว่าจะหนาแน่น


เต็มบขส. - ผู้โดยสารจำนวนมากแห่ซื้อตั๋วเดินทางเข้ากรุงเทพฯ หลังกลับบ้านต่างจังหวัดเพื่อฉลองเทศกาลปีใหม่ ที่สถานีขนส่งนครราชสีมาแห่งที่ 2 ในขณะที่สถานีขนส่งจังหวัดต่างก็เต็มไปด้วยผู้โดยสารเช่นกัน เมื่อวันที่ 2 ม.ค.

    นายอาคม กล่าวอีกว่า ดังนั้นได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้ขยายระยะเวลาสัญญาณไฟเขียวในทางตรงให้เพิ่มมากขึ้นทุกจุดและรายงานการจราจรจังหวัดต่อจังหวัด เพื่อลดการสะสมของปริมาณรถยนต์ในทางตรง พร้อมทั้งให้เข้มงวดวินัยการจราจร โดยเฉพาะให้ตรวจจับความเร็วรถที่ขับเร็วกว่ากฎหมายกำหนด ตรวจวัดแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่ที่ดื่มสุราแล้วมาขับขี่ โดยยังใช้มาตรการของคสช. ในการตรวจยึดรถผู้ที่เมาแล้วขับ ส่วนรถโดยสารสาธารณะได้กำชับขนส่งจังหวัดจากต้นทางและจุดพักรถคอยตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่ พร้อมทั้งตรวจสภาพร่างกายผู้ขับขี่ หากพบว่ามีแอลกอฮอล์หรือร่างกายไม่พร้อมจะไม่ให้ขับขี่โดยเด็ดขาด

ถนนมิตรภาพหนึบ-เพิ่มเที่ยวทัวร์
    ส่วนบรรยากาศการเดินทางกลับจากท่องเที่ยวและภูมิลำเนาในช่วงปีใหม่ ที่จ.นคร ราชสีมา บรรยากาศภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดนครราชสีมาทั้ง 2 แห่ง ชาวโคราชและจังหวัดใกล้เคียงทยอยเดินทางมาใช้บริการรถโดยสาร เพื่อเดินทางกลับไปทำงานที่กรุงเทพฯ และจังหวัดใหญ่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยประชาชนส่วนใหญ่ที่เดินทางในวันนี้ เนื่องจากต้องการหลีกเลี่ยงความแออัดในการเดินทางวันที่ 3 ม.ค. ที่จะมีประชาชนจำนวนมากเดินทางกลับไปทำงาน โดยสำนักงานขนส่งจังหวัดนคร ราชสีมาได้เพิ่มเที่ยวรถเดินทางเข้ากรุงเทพฯ จากเที่ยววิ่งปกติวันละ 200 เที่ยว เป็น 400 เที่ยว พร้อมเตรียมรถโดยสารสำรองไว้อีก 100 คัน
    นายศิระ บุญธรรมกุล ผอ.สำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ทุกช่วงเทศกาลสำคัญจะมีประชาชนแห่มาใช้บริการพร้อมกัน แม้ผู้ให้บริการรถร่วมได้บริหารจัดการเต็มพิกัด 400 เที่ยวต่อวัน ก็ยังไม่เพียงพอ จึงบรรเทาปัญหาโดยจัดรถโดยสารไม่ประจำทาง หรือรถหมวดเลขทะเบียน 30 จำนวน 50 คัน ไว้รองรับการให้บริการ นอกจากนี้รถโดยสารสาธารณะทุกคัน เมื่อส่งผู้โดยสารปลายทางก่อนจะออกให้บริการเที่ยวต่อไป ต้องผ่านการตรวจสอบความพร้อมของสภาพรถและร่างกายของผู้ขับขี่ รวมทั้งสุ่มตรวจปัสสาวะ หากพบสารเสพติดหรือแอลกอฮอล์ต้องถูกลงโทษทันที
   ส่วนบรรยากาศการจราจรบนถนนมิตร ภาพขาออกจาก จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นเส้นทางหลักจากภาคอีสานมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯ เริ่มมีปริมาณรถหนาแน่น หลังจากประชาชนที่ต้องการหลีกเลี่ยงปัญหารถติดเริ่มทยอยเดินทางกลับเข้าทำงานที่กรุงเทพฯ ซึ่งการจราจรโดยรวมเริ่มติดขัด รถยนต์สามารถทำความเร็วได้ในบางช่วงและจะมีการชะลอตัวในบางจุด โดยเฉพาะช่วงบริเวณถนนมิตรภาพแยกบ้านโพธิ์ อ.เมืองนครราชสีมา และช่วงบริเวณทางขึ้นเขา-ลงเขา อ.ปากช่อง ไปจนถึงอ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ซึ่งคาดว่าปริมาณรถจะมีปริมาณรถเพิ่มมากขึ้น
    ด้านการจราจรบริเวณหน้าร.พ.วังน้ำเขียว ช่วงหลักก.ม.ที่ 230 ทางหลวงแผ่นดิน 304 ถ.ราชสีมา-กบินทร์บุรี ซึ่งเป็นเส้นทางลาดชันลงเขา พบการจราจรคับคั่ง รถเคลื่อนตัวช้าสลับหยุดนิ่งเป็นระยะทางยาวกว่า 2 ก.ม. เนื่องจากผู้ใช้รถใช้ถนนส่วนหนึ่งได้หลีกเลี่ยงการใช้ ถ.มิตรภาพ ซึ่งประสบปัญหาการจราจรติดขัด จึงเปลี่ยนเส้นทางมาใช้ทางหลวง 304 มุ่งหน้าไปภาคกลางแทน และใช้โอกาสแวะจอดพัก เพื่อท่องเที่ยวในเขต อ.วังน้ำเขียว ทำให้ตำรวจต้องเปิดช่องทางพิเศษให้รถแล่นสวนกัน บริเวณช่วงหลัก ก.ม.ที่ 101 ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 ถ.มิตรภาพ ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว

โคราชเปิดช่องทางพิเศษ 4 จุด
     สำหรับ เส้นทางเลี่ยงบริเวณ จ.นครราช สีมา เพื่อเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ในจุดแรกหากเดินทางมาจากอีสานเหนือให้ไปเส้นชัยภูมิ ด่านขุนทด หินด่าน ม่วงค่อม เพื่อออกถนนพหลโยธิน เป็นเส้นทางเลี่ยงถนนมิตรภาพ หรือหากมาจากทาง จ.ขอนแก่น เมืองพล ให้เลี้ยวขวาเข้าโคกสี แก้งสนามนาง พระทองคำ สุรนารายณ์ ด่านขุนทด หินด่าน ม่วงค่อม เพื่อออกถนนพหลโยธิน แต่หากไปถนนมิตรภาพและรถติดมากสามารถเลี่ยงไปทางถนนเส้น 304 แต่ถนนเส้นนี้ประชาชนบางส่วนที่มาเที่ยวอ.ปากช่อง วังน้ำเขียว จะใช้ถนนเส้นนี้มาก โดยคาดว่าถนนเส้นนี้ยังสามารถรับได้ ขณะที่ประชา ชนที่เดินทางจาก จ.ขอนแก่น ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงสาย 2384 เพื่อมุ่งหน้าเข้าสู่ อ.บ้านเหลื่อม จ.นครราชสีมา ก่อนตัดออกมายัง อ.สีคิ้ว ถนนสาย 201
    ด้านนายอดุลย์ เชาว์วาทิน ผอ.สำนักงานทางหลวงที่ 10 (ทล.10) นครราชสีมา กล่าวว่า ตลอดระยะทาง 220 ก.ม. บนถนนมิตรภาพมุ่งเข้าสู่ภาคกลาง มีจุดกลับรถรวม 88 จุด ได้ดำเนินการนำวัสดุแท่งแบร์ริเออร์มาวางกั้นจุดกลับรถ เพื่อปิดชั่วคราว 16 จุด พร้อมบริหารจัดการเส้นทางหลักให้เน้นสัญญาณไฟจราจรสีเขียว เพื่อเร่งระบายปริมาณยานพาหนะให้เคลื่อนตัว หากสภาพการจราจรยังวิกฤตจะเปิดช่องทางพิเศษชั่วคราว ให้รถยนต์วิ่งสวนทางกัน 4 จุด ประกอบด้วย 1.ช่วงหลักก.ม.ที่ 35-54 ฟาร์มโชคชัย ต.กลางดง อ.ปากช่อง ถึงสะพานมวกเหล็ก อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี 2.ช่วงหลักก.ม.ที่ 103 ถนนมิตรภาพ เส้นทางผ่านทางแยกต่างระดับสีคิ้ว 3.ทางแยกบ้านหนองกระดังงา ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง ถึงเส้นทางเลี่ยงเมือง ถ.จอหอ-ปักธงชัย และ 4.ช่วงหลักก.ม.ที่ 204-208 บ้านโนนทราย ถึงทางแยกตลาดแค อ.โนนสูง โดยตอนนี้พบชาวบ้านลักลอบทำลายเครื่องกั้นที่นำมาปิดจุดกลับรถ จึงขอความร่วมมือผู้ใช้รถใช้ถนน แม้จะเพิ่มระยะทาง แต่สามารถช่วยบรรเทาปริมาณยานพาหนะที่สะสม รวมทั้งลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้
     ที่จ.ปราจีนบุรี สภาพการจราจรบนถนนหลวงหมายเลข 304 จากอ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา มุ่งหน้าเข้า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เพื่อเดินทางเข้ากรุงเทพฯ พบมีประชาชนเดินทางกลับ ทำให้บนถนนมีรถเป็นจำนวนมาก
     ด้านพ.ต.ท.ไพโรจน์ เขียวนรภัย สารวัตรทางหลวงปราจีนบุรี ลงพื้นที่ควบคุมการระบายรถ พร้อมติดตั้งป้ายไฟวิ่งมีตัวอักษร "ลง 2 ช่องทาง และขึ้น 1 ช่องทาง" พร้อมกับรถวิทยุคอยประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงให้ผู้ใช้เส้นทางโปรดใช้ความระมัดระวัง เพราะถนนแคบ

บุรีรัมย์ ติดยาวหลายกิโลฯ
     ที่จ.บุรีรัมย์ สภาพการจราจรบนถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 24 สายโชคชัย-เดชอุดม ช่วงอ.ประโคนชัย ซึ่งเป็นถนนสายหลักของภาคอีสานตอนล่าง มีรถของประชาชนจากหลายจังหวัดสัญจรหนาแน่น เพื่อมุ่งหน้าไปยังกรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ ทำให้ถนนสาย 24 ช่วง อ.ประโคนชัย ซึ่งเป็นเส้นทางเข้าสู่ จ.นครราชสีมา และกรุงเทพฯ มีรถสัญจรหนาแน่นตลอดทั้งวัน บางช่วงมีรถจอดติดยาวเหยียดกว่า 2 ก.ม. ทำให้ตำรวจต้องจัดกำลังเจ้าหน้าที่มาคอยอำนวยความสะดวกตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะตามแยกที่มีสัญญาณไฟจราจร เพื่อให้รถสามารถเคลื่อนตัวได้สะดวก
     ที่จ.สระแก้ว สภาพการจราจรตั้งแต่ อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ จนถึงแยกวัฒนานคร จ.สระแก้ว มีปริมาณรถหนาแน่น ทำให้รถเคลื่อนตัวช้ามาก ส่วนที่เขาช่องตะโก ต.ทัพราช อ.ตาพระยา รถติดอย่างหนัก เนื่องจากปริมาณรถที่มาจากจ.สุรินทร์และจ.ศรีสะเกษ มีจำนวนมาก


ติดยาว - ประชาชนจำนวนมากเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ทางรถยนต์ ทำให้สภาพการจราจรบริเวณถนนมอเตอร์เวย์ ขาเข้าจากบางปะอินมุ่งหน้ากรุงเทพฯ ก่อนถึงทางเข้าด่านเก็บเงินลำลูกกา ติดขัดเป็นทางยาว เมื่อวันที่ 2 ม.ค.

     ส่วนภายในต.ท่าแยก อ.เมือง จ.สระแก้ว เกิดเหตุกลุ่มวัยรุ่นทะเลาะวิวาทและใช้อาวุธปืนยิงใส่รถของนายธีรพงษ์ ศรีพิราม อายุ 23 ปี เข้าที่กระจกรถ กระสุนโดนเข้าเอวได้รับบาดเจ็บ ก่อนกลุ่มวัยรุ่นจะขับรถหลบหนีไป โดยสาเหตุมาจากเขม่นกันขณะเที่ยวที่อ่างเก็บน้ำท่ากระบาก อ.วัฒนานคร ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามล่าตัว
    ที่จ.ขอนแก่น บรรยากาศการเดินทางกลับจากเทศกาลปีใหม่ ตลอดแนวถนนมิตรภาพ เส้นทางฝั่งขาขึ้นมุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะบริเวณสามแยกท่าพระ ต.ท่าพระ อ.เมืองขอนแก่น เส้นทางสายหลักที่สำคัญของผู้ใช้รถใช้ถนน และเป็นจุดตัดผ่านไปยัง จ.มหาสารคาม พบมีปริมาณรถสะสมหนาแน่น ขณะที่ช่วงสี่แยกบ้านไผ่ไปจนถึง อ.พล ยังคงมีปริมาณรถสะสมต่อเนื่อง แต่ยังคงสามารถเคลื่อนตัวได้อย่างช้าๆ นอกจากนี้ยังมีสภาพการจราจรที่ติดขัดคือ สะพานต่างระดับข้ามทางรถไฟยาวไปจนถึงหน้าหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงพล พบมีรถยนต์เคลื่อนตัวอย่างช้าๆ ทำให้ตำรวจจำเป็นจะต้องปิดสัญญาณไฟจราจรและให้เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจรแทน
    พ.ต.ท.รัฐพร คงสุโข สว.สทล.2 กก.4 บก.ทล. กล่าวว่า ปริมาณรถยังคงหนาแน่นเพิ่มขึ้นตลอด คาดว่าจะหนาแน่นไปจนถึงวันที่ 3 ม.ค. เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่เริ่มเดินทางกลับกรุงเทพฯ ส่งผลให้ปริมาณรถจากหลายจังหวัดในภาคอีสานตอนบนสะสมหนาแน่นเพิ่มขึ้นในเขต จ.ขอนแก่น ทำให้จำเป็นต้องเปิดช่องทางพิเศษ 2 จุด ประกอบด้วยช่วงก.ม.ที่ 287-283 ช่วงตั้งแต่ อ.บ้านไผ่ ไปจนถึง อ.โนนศิลา ระยะทาง 4 ก.ม. และช่วงก.ม.ที่ 263-258 ในเขต อ.พล ระยะทาง 5 ก.ม.
    ที่จ.อุดรธานี สภาพการจราจรบริเวณถนนสายอุดรธานี-สกลนคร อ.หนองหาน ซึ่งเป็นถนนสายหลักและเป็นจุดรวมรถที่เดินทางจาก จ.สกลนคร บึงกาฬ นครพนม และหนองคาย พบมีผู้ใช้รถใช้ถนนจำนวนมาก เพื่อเดินทางไป อ.กุมภวาปี และเข้าสู่ถนนมิตรภาพ ช่วงอุดรธานี-ขอนแก่น จึงทำให้การจราจรติดขัดมาก
     พ.ต.ท.ก่อเกียรติ ชื่นชม สวป.สภ.หนองหาน กล่าวว่า เพื่อเป็นการแก้ปัญหาการจราจรติดขัดในเส้นทางกุมภวาปี-หนอง หาน จึงให้เจ้าหน้าที่ถือป้ายอยู่กลางสี่แยกไฟแดง เพื่อแจ้งผู้ใช้รถใช้ถนนให้หลีกเลี่ยงการใช้ถนนสายกุมภวาปี-หนองหาน แต่ให้ใช้เส้นทางเข้าตัวเมืองอุดรธานี พอถึงสี่แยกบิ๊กซีแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนมิตรภาพอุดรธานี-ขอนแก่น

สายเพชรเกษมเริ่มหนึบอีก
    ที่จ.สุโขทัย ประชาชนเริ่มทยอยเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ และต่างจังหวัด หลังเสร็จสิ้นเทศกาลปีใหม่และวันหยุดยาว โดยที่ขนส่งเฉลิมพระเกียรติ อ.เมืองสุโขทัย มีประชาชนเริ่มทยอยเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ เพื่อเริ่มทำงาน โดยมีการขนข้าวสารอาหารแห้ง เพื่อนำไปประกอบอาหารลดค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ยังจับกุมคนขับรถโดยสาร 1 ราย หลังตรวจวัดแอลกอฮอล์และพบมีแอลกอฮอล์ในร่างกาย จึงส่งตัวคำเนินคดี
     ที่จ.พิจิตร ประชาชนต่างเริ่มเดินทางกลับจากภูมิลำเนา ทำให้สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดพิจิตรเนืองแน่นไปด้วยผู้โดยสาร ซึ่งพบว่าตั๋วโดยสารถูกจองและจำหน่ายเต็มยาวไปจนถึงวันที่ 3 ม.ค. ทำให้ต้องหารถเสริมมาคอยให้บริการ เพื่อให้เพียงพอต่อการเดินทางและไม่ให้มีผู้โดยสารตกค้าง
    ที่จ.ประจวบคีรีขันธ์ สภาพการจราจรบนถนนเพชรเกษม หมายเลข 4 จาก 14 จังหวัดภาคใต้ ที่ต้องวิ่งผ่าน จ.ประจวบคีรีขันธ์ รวม 8 อำเภอ พบการเดินทางกลับกรุงเทพฯ เริ่มคับคั่ง มีปริมาณรถจำนวนมาก ทั้งรถยนต์ส่วนตัวและรถโดยสารประจำทาง หลังจากหยุดไปฉลองเทศกาลปีใหม่ โดยเฉพาะขาขึ้นกรุงเทพฯ รถมีปริมาณเพิ่มขึ้นและหนาแน่นเป็นช่วงๆ บางช่วงรถติดยาวในเขต อ.เมืองประจวบฯ และอ.ปราณบุรี ซึ่งเชื่อว่าปริมาณรถที่มีจำนวนมากในขณะนี้อาจทำให้รถติดยาวและหนาแน่นต่อเนื่องไปถึงถนนพระราม 2 ส่วนถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ พบมีปริมาณรถไม่มากนัก สามารถเดินทางได้อย่างสะดวก

รถก็แน่นถนนเอเชียด้วย
     ที่จ.พระนครศรีอยุธยา สภาพการจราจรบนถนนสายเอเชีย ขาเข้ากรุงเทพฯ ช่วงผ่าน อ.นครหลวง พบประชาชนเริ่มกลับจากการท่องเที่ยวและภูมิลำเนาในภาคเหนือ ทำให้บนถนนสายเอเชียมีปริมาณรถเพิ่มมากขึ้นตลอดทั้งวัน โดยบริเวณหลักก.ม.ที่ 26 ทางลงสะพานบ่อโพง อ.นครหลวง พบมีปริมาณรถเพิ่มมากขึ้นและมีการชะลอตัว จนรถติดขัดแน่นเป็นทางยาว เจ้าหน้าที่พยายามวางกรวยบังคับให้รถเลี้ยวเข้าตามช่องทาง
     ที่จ.อ่างทอง หลังประชาชนเดินทางมุ่งสู่ภาคเหนือ เพื่อกลับภูมิลำเนาและฉลองเทศกาลปีใหม่ ล่าสุดประชาชนเริ่มเดินทางกลับ เพื่อพักผ่อนก่อนจะเริ่มทำงานในวันจันทร์ ทำให้การจราจรติดขัดหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบนถนนสายเอเชีย ช่วง จ.อ่างทอง มีรถเป็นจำนวนมาก บางจุดชะลอตัวเกือบหยุดนิ่งเป็นทางยาวหลายกิโลเมตร แต่บางช่วงก็ใช้ความเร็วได้ ส่วนพื้นที่ที่มีปัญหามากจะเป็นช่วงก.ม.ที่ 55 หมู่ 1 ต.ตลาดกวด อ.เมือง จ.อ่างทอง ซึ่งเป็นทางผ่านบ้านหุ่นเหล็กจะมีรถชะลอตัวมากและติดสะสม
    ที่จ.ปทุมธานี ประชาชนต่างทยอยเดินทางกลับ ทำให้มีรถเริ่มสะสมระยะทางยาวกว่า 5 ก.ม. บริเวณถนนกาญจนาภิเษก ทางหลวงหมายเลข 9 มอเตอร์เวย์ ฝั่งตะวันออก หลักก.ม.ที่ 25 หน้าด่านเก็บเงินธัญบุรี มุ่งหน้าบางนา-ชลบุรี อ.ธัญบุรี หลังประชาชนต่างเดินทางกลับจากภาคเหนือและภาคอีสาน เพื่อมุ่งหน้าไปบางนา-ชลบุรี ทำให้มีรถติดขัดกันเป็นจำนวนมาก

หมอชิต-หัวลำโพงคึกคัก
     ส่วนบรรยากาศภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารหมอชิต ในช่วงหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 2559 ยังคงมีประชาชนทยอยเดินทางมารอขึ้นรถโดยสารตามเวลาที่ได้มีการจองตั๋วล่วงหน้า และต่อแถวซื้อตั๋วโดยสาร ทั้งโซนภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนา แต่ส่วนใหญ่เป็นการท่องเที่ยวในต่างจังหวัด ซึ่งยังไม่หนาแน่นมากนัก และก็ทยอยมาเป็นระยะ ประกอบกับบรรดานักท่องเที่ยวต่างชาติที่เลือกใช้บริการที่สถานีแห่งนี้ ต่างสอบถามเส้นทางการจำหน่ายตั๋ว โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์คอยอำนวยความสะดวกให้
     ขณะเดียวกัน ประชาชนบางส่วนที่ต้องเริ่มทำงานในวันจันทร์ที่ 4 ม.ค. ก็เลือกเดินทางกลับมาในวันนี้ เพื่อเตรียมตัวทำงาน โดยคาดว่าปริมาณรถขาเข้ากรุงเทพฯ จะหนาแน่นมากขึ้น เช่นเดียวกับที่สถานีรถไฟหัวลำโพงก็มีประชาชนเริ่มเดินทางกลับจากภูมิลำเนา เพื่อลดการเบียดเสียดในวันที่ 3 ม.ค.
    วันเดียวกัน พ.ต.อ.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รอง ผบก.จร. เปิดเผยว่า สำหรับการจัดกำลังเจ้าหน้าที่รับการอำนวยการจราจรของประชาชนที่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ในช่วงท้ายเทศกาลปีใหม่ ซึ่งจะมีชาวบ้านทยอยเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ในเส้นทางสายหลักทุกเส้นทาง โดยบก.จร.ได้จัดกำลังอำนวยการจราจรและรับมืออย่างเต็มที่

ยังแห่เที่ยวดอยสุเทพ-อ่างขาง
     ส่วนบรรยากาศการท่องเที่ยวในช่วงหลังวันขึ้นปีใหม่ ที่จ.เชียงใหม่ บรรดานักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศต่างพากันแห่ขึ้นดอยสำคัญของ จ.เชียงใหม่ ทั้งดอยสุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ ดอยอ่างขาง ดอยผ้าห่มปก อ.ฝาง ดอยหลวงเชียงดาว อ.เชียงดาว และห้วยน้ำดัง รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ จำนวนมาก จนแน่นดอยแต่ละแห่ง โดยบนดอยสุเทพพบคนแห่ขึ้นไปกราบนมัสการพระธาตุดอยสุเทพจำนวนมาก ทำให้การจราจรบนดอยและระหว่างทางขึ้นติดขัด ทำให้ตำรวจและเจ้าหน้าที่อุทยานปิดการขึ้นชั่วคราว เพื่อขอให้คนบนดอยเดินทางลงมาก่อน เพื่อระบายผู้คน ซึ่งนักท่องเที่ยวได้ให้ความร่วมมืออย่างดี
    ส่วนที่ดอยคำ อ.เมืองเชียงใหม่ ซึ่งมีพระเจ้าทันใจที่ต้องบนด้วยดอกมะลิ ปรากฏว่ามีประชาชนแห่ไปเที่ยวจำนวนมากเช่นกัน โดยส่วนใหญ่นำดอกมะลิไปถวาย ทำให้พ่อค้าแม่ค้าที่ขายดอกมะลิระหว่างทางขึ้นดอยขายดีเป็นพิเศษ
    นายพรเทพ เจริญสืบสกุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง เปิดเผยว่า อุณภูมิยอดดอยอินทนนท์ บนยอดหญ้าวัดได้ 1 องศาฯ ทำให้เกิดเปิดปรากฏการณ์น้ำค้างแข็งบนยอดหญ้า หรือเหมยขาบ บริเวณ ก.ม.46-47 และยอดดอยทั่วไปเป็นบริเวณกว้าง
     ขณะที่ดอยอ่างขาง อ.ฝาง พบอุณหภูมิต่ำสุด 6 องศาฯ โดยมีนักท่องเที่ยวเดินทางมารับอากาศหนาวจำนวนมาก จนถนนทางขึ้นมีรถจอดซ้อน 2 ฝั่ง รวมถึงบริเวณจุดกางเต็นท์และที่พักก็ถูกจับจองแน่นเต็มทั้งหมด ก่อนในช่วงเช้านักท่องเที่ยวจะออกมาชมทะเลหมอกที่ปกคลุมยอดดอย ส่วนภายในสถานีเกษตรหลวงดอยอ่างขางมีรถนักท่องเที่ยวทยอยเข้ามาชมสวนดอกไม้ ที่สำคัญต้องการชมดอกซากุระและดอกนางพญาเสือโคร่งที่กำลังแข่งกันบานแทบทุกต้น
   นายวรพจน์ คุณาวิวัฒนางกูร เวรพยากรณ์อากาศภาคเหนือ รายงานมาว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศ ไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทาให้บริเวณภาคเหนือมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป กับมีหมอกหนาบางพื้นที่ในช่วงตลอดระยะปลายสุดสัปดาห์นี้ จ.เชียงใหม่อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 16-17 องศาฯ อุณหภูมิบนเทือกเขาและยอดดอย 5-10 องศาฯ

ขึ้นภูเรือ-ภูกระดึง-ผามออีแดง
    ที่ จ.พิษณุโลก นักท่องเที่ยวจำนวนมากต่างพาครอบครัวไปพักผ่อนตามสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกชาติตระการ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวและมีน้ำตก 7 ชั้น ทำให้เจ้าหน้าที่อุทยานต้อง เตรียมความพร้อม และอำนวยความสะดวกดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ซึ่งในปีนี้เจ้าหน้าที่ได้แจกถุงดำให้นักท่องเที่ยว เพื่อเก็บขยะไปทิ้งบริเวณจุดทิ้งขยะที่อุทยานจัดไว้ให้
    ที่ จ.มหาสารคาม บรรดานักท่องเที่ยวต่างมาฉลองปีใหม่ที่บึงกุย สะดืออีสาน อ.โกสุมพิสัย พร้อมถ่ายภาพกับดอกทานตะวันที่ออกดอกสีเหลืองบานสะพรั่ง นอกจากนี้ยังมีสวนดอกไม้ สวนการ์ตูนและสวนสนุกไว้ให้เด็กได้เล่น อีกทั้งยังสามารถเดินทางไปเที่ยววนอุทยานโกสัมพี ที่มีลิงแสมขนสีทองที่มีแห่งเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย
    ที่จ.ศรีสะเกษ บริเวณผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ มีบรรดานักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศพากันเดินทางมาเที่ยวชมความสวยงาม ซึ่งอยู่ติดกับแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านปราสาทพระวิหารกันอย่างคึกคัก โดยนักท่องเที่ยวจะพากันกราบไหว้พระพรหมที่อยู่บนผามออีแดง พร้อมชมภาพสลักนูนต่ำอายุกว่า 1,500 ปี และส่องกล้องทางไกลดูความสวยงามของปราสาทพระวิหารที่สามารถมองเห็นได้ค่อนข้างชัดเจนมาก ซึ่งมีเจ้าหน้าที่อุทยาน และทหารพรานคอยรักษาความปลอดภัย ขณะที่วัดไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ ซึ่งเป็นวัดที่ตั้งของสรีระสังขารของหลวงปู่สรวง มีนักท่องเที่ยวเดินทางมากราบไหว้และเดินลอดใต้โลงศพของหลวงปู่สรวง เพื่อความเป็นสิริมงคลอย่างคึกคัก
    ที่จ.บุรีรัมย์ นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติยังหลั่งไหลขึ้นไปเที่ยวชมสะพานแขวนลาวาข้ามปากปล่องภูเขาไฟ ที่มอดดับสนิทมาแล้วนับแสนปี ตั้งอยู่บนยอดภูเขาไฟกระโดง ต.เสม็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ พร้อมถ่ายรูปเป็นที่ระลึกและสัมผัสอากาศหนาวเย็น บางส่วนยังกราบไหว้ขอพรพระสุภัทรบพิตรจำลององค์ใหญ่ เพื่อเสริมสิริมงคล โดยจากการสำรวจของเจ้าหน้าที่วนอุทยานฯ พบว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นมาเที่ยวมากเป็นประวัติการณ์ ในรอบหลายปี วันเดียวมากถึง 20,000 คน
    ที่จ.เลย นายรณภพ คัชมาตย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูเรือ กล่าวว่า ในช่วงปีใหม่มีนักท่องเที่ยวขึ้นมาเที่ยวบนยอดภูเรือมีจำนวนมาก โดยเฉพาะวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา จากการเช็กยอดนักท่องเที่ยวมีกว่าหมื่นคน ซึ่งมีนักท่องเที่ยวที่ค้างแรมบนยอดภูเรือทั้งในบ้านพักและกางเต็นท์ 2,000 คน โดยอุณหภูมิอยู่ระหว่าง 8-9 องศาฯ
    นายฑิตศักดิ์ สุริยะชัยวัฒนา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง กล่าวว่า นักท่องเที่ยวบนยอดภูกระดึงมีประมาณ 3,200 คน แต่บางส่วนเริ่มทยอยเดินทางกลับแล้ว โดยอุณหภูมิอยู่ที่ 11 องศาฯ

เที่ยวหาดใหญ่-เบตง-สมุย
    ที่จ.ตราด นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติต่างพาครอบครัวมาพักผ่อนที่หาดราชการุณย์ และหาดบานชื่น ต.ไม้รูด อ.คลองใหญ่ เพื่อเล่นน้ำทะเลและอาบแดด ท่ามกลางอุณหภูมิที่ไม่สูงมากนัก ส่วนภายในสถานีขนส่งจังหวัดตราด มีผู้โดยสารเริ่มทยอยเดินทางกลับไปทำงาน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเสริมเที่ยวรถไว้คอยบริการ
    ที่จ.สงขลา มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวมาเลเซียและสิงคโปร์เดินทางมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในอ.หาดใหญ่ เพื่อความเป็นสิริมงคล ขณะที่ตามย่านการค้าใน อ.หาดใหญ่ ทั้งร้านอาหารและแหล่งช็อปปิ้ง มีนักท่องเที่ยวมาจับจ่ายเนืองแน่นเช่นกัน
   ที่จ.สุราษฎร์ธานี นักท่องเที่ยวทยอยเดินทางออกจากเกาะสมุย โดยข้ามฝั่งด้วยเริ่มเรือเฟอร์รี่ เพื่อเดินทางกลับมาทำงานที่กรุงเทพฯ แต่ยังมีนักท่องเที่ยวอีกบางส่วนเดินทางไปชมความงามตามธรรมชาติยังเกาะพะงัน เกาะเต่า และเกาะนางยวน
   นายกรณ์ เพียรเกาะ ผู้ช่วยกรรมการบริหารและผู้จัดการฝ่ายเรือ บริษัท เรือเร็วลมพระยา จำกัด เปิดเผยว่า ช่วงวันคริสต์มาสและปีใหม่ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังเกาะสมุยทางเรือไม่ต่ำกว่า 10,000 คน เนื่องจากการเดินทางเข้ามายังเกาะสมุยทางเรือมีราคาที่ถูกและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวตางชาติ และหลังจากนักท่องเที่ยวได้ฉลองปีใหม่แล้วต่างเริ่มทยอยเดินทางออกจากเกาะสมุย ทำให้ทุกเที่ยวเรือที่ออกจากเกาะสมุยเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
    ที่จ.ยะลา บรรดานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางผ่านด่านพรมแดนเบตงอย่างคึกคัก ทำให้บรรยากาศตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ คึกคักเป็นอย่างมาก เช่น บ่อน้ำร้อน อุโมงค์ปิยะมิตร ด้านนายดำรงค์ ดีสกูล นายอำเภอเบตงกล่าวว่า สั่งการให้เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจสอบบุคคลและยานพาหนะที่ผ่านเข้าออกอย่างเข้มงวด พร้อมเปรียบเทียบบุคคลต้องสงสัยจากแฟ้มประวัติคดีความมั่นคงในพื้นที่

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!