WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Gสมคด สมคิด เร่ง รฟม.กระชับขั้นตอน คาดปี 59เปิดประมูลรถไฟฟ้าอย่างน้อย 4 สาย

    นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ เปิดเผยภายหลังการตรวจติดตามความคืบหน้าของการดำเนินงานของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) โดยระบุว่า ได้ติดตามคืบหน้าโครงการคมนาคมทั้งหมด โดยเฉพาะการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ( รฟม. ). เป็นที่น่าพอใจ ได้เร่งรัดให้ทุกโครงการ อยากให้เริ่มดำเนินงานในปีหน้า ยิ่งในเรื่องประกวดราคาให้เริ่มเร็วที่สุด คาดมีโครงการทยอยออกมาเรื่อยๆ โดยโครงการที่ดำเนินการได้เร็วที่สุดคือ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม - มีนบุรี ที่จะเข้า ครม.ในสัปดาห์หน้า

    ส่วนโครงการรถไฟทางคู่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย( รฟท.) มั่นใจว่าโครงการจะเริ่มได้ปีหน้า เป็นโครงการรถไฟทางคู่ 3-4 เส้นทาง มูลค่าเงินลงทุนเกือบแสนล้านบาท รวมทั้งมีโครงการมอเตอร์เวย์ เชื่อว่าใน 2-3 ปีข้างหน้าจะมีเม็ดเงินลงทุนเข้ามาจำนวนมาก ที่มาจากภาครัฐ เอกชนและจากต่างประเทศ

     ทั้งนี้ ได้ให้ทางสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เร่งรัดโครงการที่จะต้องดำเนินงานตามกระบวนการร่วมทุนเอกชน (PPP) ให้เร็วขึ้น พร้อมกันนี้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานการทำงานร่วมกัน ทั้งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) คณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ(PPP) และคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม (EIA) เพื่อให้มั่นใจว่าโครงการเดินหน้าตามเป้าหมาย

     ด้านนายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการ รฟม. กล่าวว่า รองนายกรัฐมนตรีได้เร่งรัดและให้รฟม. กระชับขั้นตอนการทำงานเพื่อให้เปิดประมูลรถไฟฟ้า 4 สายภายในปี 59 ซึ่งทาง รฟม.จะเร่งแผนให้เป็นไปตามนโยบาย โดยสายสีส้มตะวันออกช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี วงเงิน 1.1 แสนล้านบาท หากครม.เห็นชอบ จะเร่งรัดขั้นตอนการประกวดราคาให้เร็วที่สุด คาดใช้เวลาในการเตรียมเอกสารประกวดราคาจัดทำราคากลางประมาณ 2-3 เดือน และจะประกาศทีโออาร์ได้ในไตรมาสแรกของปี 59 ส่วนการคัดเลือกเอกชนได้ปรับให้เร็วขึ้นเหลือ 4 เดือนจากเดิม 6 เดือน โดยจะพยายามลงนามสัญญาในเดือนส.ค.-ก.ย. 59

     ส่วนสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ เนื่องจากมีการต่อขยายเส้นทางไปอีก 5 กม. รวมเป็นระยะทาง 23.6 กม.  วงเงิน1.3 แสนล้านบาท จึงต้องเสนอที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก(คจร.) พิจารณาเพิ่มเติมในแผนแม่บท รวมถึงรอผลการพิจารณา EIA ช่วงที่ต่อขยายเพิ่มเติมด้วย คาดว่าจะประมูลได้ในปลายปี 59

      ส่วนสายสีน้ำเงินต่อขยาย (หัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ) เรื่องการเดินรถนั้น รฟม.ได้เสนอผลการศึกษาวิเคราะห์ตามพ.ร.บ. ร่วมทุนฯ 56 ไปยังกระทรวงคมนาคมแล้วคาดว่าจะเห็นชอบและส่งกลับ รฟม.เร็วๆนี้ เพื่อเสนอไปยังสคร.และเข้าสู่คณะกรรมการ PPP อนุมัติในเดือนมี.ค. 59

    ส่วนสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) วงเงิน 56,690 ล้านบาท และสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) วงเงิน 54,644 ล้านบาท รฟม.ได้เสนอไปที่สคร.แล้ว ล่าสุด สคร.ได้ปรับแผนที่จะเสนอคณะกรรมการ PPP อนุมัติจากเดือนมี.ค. 59 ให้เร็วขึ้นเป็นเดือนก.พ.59 เพื่อเดินหน้าจัดตั้งคณะกรรมการมาตรา 35 ตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 56 และเริ่มกระบวนการร่างทีโออาร์และประกาศประกวดราคาในเดือนเม.ย.-พ.ค.59 และคาดว่าจะได้ผู้รับเหมาในปลายปี 59

                อินโฟเควสท์

'สมคิด'ตะลุยรถไฟฟ้า 5 สีชุ่มฉ่ำ ยันเซ็นความร่วมมือข้าว-ยาง-รางกับจีน

    นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เร่งรัดให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม.เร่งดำเนินการในโครงการรถไฟฟ้า 5 สาย ซึ่งประกอบด้วย รถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี, รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี, รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ, รถไฟฟ้าสายเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง และการจัดหาบริษัทเดินรถของโครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและคาดว่ารถไฟฟ้า 3 สายทาง ที่จะเปิดประกวดราคาก่อนต้นปีมี 3 สายทางคือรถไฟฟ้าสายสีส้ม, สายสีชมพู, สายสีเหลือง ส่วนอีก 2 สายทาง ประกวดราคาได้ในกลางปี 59 โดยโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี กระทรวงคมนาคม จะเสนอให้ ครม.พิจารณาได้ในสัปดาห์หน้า ส่วนโครงการที่ต้องเข้ากรอบการลงทุนให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐแบบเร่งด่วน (PPP Fast Track) คือโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี, รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ, รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง และการจัดหาบริษัทเดินรถของโครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินนั้น จะเร่งรัดโครงการให้เร็วที่สุดและดำเนินการได้ในปี 59

    ส่วนกรณีการเลื่อนลงนามความร่วมมือไทย-จีน ด้านรถไฟ ข้าว และยางพาราวันที่ 3-4 ธ.ค.นี้ ยังทำได้ปกติ โดยอุปสรรคที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องรายละเอียด และให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งเรื่องยางพารา รถไฟไปเร่งเจรจากันให้เสร็จก่อนรองนายกรัฐมนตรีจีนจะเดินทางมาถึงไทย โดยในส่วนของรถไฟไทย-จีน ให้นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ไปดูข้อความเอกสารที่จีนส่งมาให้ก่อน หากเงื่อนไขรายละเอียดและเอกสารความร่วมมือพร้อม ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร.

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!