- Details
- Category: คมนาคม
- Published: Tuesday, 01 December 2015 22:29
- Hits: 2546
ประธาน ICAO อึ้ง นายกฯไทยให้ความสำคัญแก้ปัญหา SSC รับรู้ความก้าวหน้า
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ในการเดินทางไปร่วมประชุม นานาชาติ องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization : ICAO) หรือ ICAO International World Aviation Forum ที่ประเทศแคนนาดาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้มีโอกาสเข้าพบกับประธาน ICAO ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 2 หลังจาก ICAO ได้พบข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัย (Significant Safety Concern : SSC) โดยได้รายงานความก้าวหน้าในการแก้ปัญหา ตามแผนการแก้ไขข้อบกพร่อง (Corrective Action Plan : CAP) ในส่วนของการปรับปรุงโครงการกรมการบินพลเรือน (บพ.) ออกเป็น กรมท่าอากาศยาน (ทย.) และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) และหน่วยงานสอบสวนกรณีอันเกี่ยวกับอุบัติเหตุของอากาศยานและหน่วยงานช่วยเหลืออุบัติเหตุอากาศยาน โดยได้ขอให้ทาง ICAO ส่งที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยในการจัดตั้งหน่วยงานสอบสวนและช่วยเหลืออุบัติเหตุอากาศยานและปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญ ในเรื่องการปรับปรุงกฎหมาย การเดินอากาศเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐาน ICAO
พร้อมกันนี้ ได้รายงานถึงความก้าวหน้าในการตรวจสอบของสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (Federal Aviation Administration : FAA) และสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหภาพยุโรป หรือเอียซ่า (EASA) อย่างไรก็ตาม ประธาน ICAO ขอให้ไทยทำงานร่วมกับทำงานของ ICAO ที่สำนักงานในประเทศไทยอย่างใกล้ชิด และบอกว่า ไม่เคยเห็นผู้นำประเทศไหนให้สำคัญกับเรื่องนี้เหมือนไทยที่ นายกรัฐมนตรีของไทยได้มอบหมายให้รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมเดินทางไปพบประธาน ICAO
นายอาคม กล่าวว่า ตนได้กล่าวในการอภิปรายกลุ่ม ICAO International World Aviation Forum ว่า แม้ประเทศไทยจะติดธงแดง แต่ได้มีการปรับปรุงขั้นตอน การออกใบรับรอง ใบอนุญาต ซึ่งไทยให้ความสำคัญกับ การเข้มงวดมาตรฐานการบินเพื่อสร้างความมั่นใจในการเดินทางที่ปลอดภัยจะสร้างโอกาสในการเติบโตทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของไทย ซึ่งมีการคาดหมายว่าในอีก 10 ปีข้างหน้า จำนวนการเดินทางโดยเครื่องบินสูงถึง 1,000 ล้านคนต่อปี โดยในเอเชียจะมีอัตราการเติบโตของนักท่องเที่ยวสูง โดยในเอเชียแปซิฟิก มีคำสั่งซื้อเครื่องบินในสัดส่วน 36% ของคำสั่งซื้อทั่วโลก
ทั้งนี้ นโยบายของรัฐบาลไทยที่สนับสนุนอุตสาหกรรมการบินมี 3 เรื่องหลัก คือ 1.การพัฒนาฟรีโซนของสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์ได้เต็มขีดความสามารถ โดยบมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือทอท.จะร่วมมือกับบริษัทโลจิสติกส์ในภูมิภาค 2. การพัฒนานิคมอุตสาหกรรมการบินที่สนามบินอู่ตะเภา โดยสายการบินลุฟท์ฮันซ่า สนใจที่จะร่วมทุนกับบมจ. การบินไทย (THAI) เพื่อดำเนินโครงการศูนย์ซ่อมอากาศยานที่อู่ตะเภา ซึ่งจะเสริมศักยภาพให้ไทยเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาคได้ 3. การสร้างอุตสาหกรรมมูลค่าเพิ่มในสนามบินหรือ Value Added Service โดยการนำสินค้าเกษตร พืชผักผลไม้มาสร้างมูลค่าเพิ่ม จากการบรรจุภัณฑ์หรือการบรรจุหีบห่อ (Packaging) ที่ตรงกับความต้องการของตลาดยุโรป
อินโฟเควสท์