- Details
- Category: คมนาคม
- Published: Wednesday, 30 September 2015 09:42
- Hits: 2482
ขสมก.ขาดทุนต่อเนื่องพุ่ง 9.6 หมื่นล้าน'ออมสิน'อ้อนคลังช่วยรับหนี้แทน ถ้าไม่ได้ขอพักจ่ายอีก 6 ปีพลิกกำไร
มติชนออนไลน์ : วันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2558
ขสมก.เดินหน้าแผนฟื้นฟู 'ออมสิน'ยอมรับปีนี้ขาดทุนสะสมเพิ่มอีกเป็น 9.6 หมื่นล้าน เล็งชงคลังช่วยรับหนี้แทนหรือยอมพักหนี้ให้ มั่นใจอีก 6 ปี พลิกฟื้นมีกำไรแน่นอน
เมื่อวันที่ 28 กันยายน นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยระหว่างตรวจเยี่ยมองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ว่า ขสมก.อยู่ระหว่างดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการอย่างต่อเนื่อง ภายหลังได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2557 ไม่ว่าจะเป็นการลดรายจ่าย การจัดซื้อรถเมล์ใหม่ การปรับปรุงเส้นทางให้บริการ การสร้างอู่ ขสมก.เอง จากปัจจุบันใช้วิธีการเช่าซึ่งมีค่าใช้จ่ายประมาณ 60 ล้านบาทต่อปี การทำระบบจัดเก็บตั๋วโดยสารอัตโนมัติ (อี-ทิกเก็ต) และการติดตั้งอินเตอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง (ไวไฟ)
นายออมสิน กล่าวว่า จะบริหารเชิงพาณิชย์มากขึ้น รวมถึงจะเสนอกระทรวงการคลังรับผิดชอบภาระหนี้สินของ ขสมก.ด้วย ส่วนจะพิจารณารับหนี้ทั้งหมดไว้เองหรือเป็นการพักหนี้ให้ อยู่ที่กระทรวงการคลังจะพิจารณา โดยปีนี้คาดว่าจะขาดทุนสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 9.6 หมื่นล้านบาท จากที่มีหนี้สะสมอยู่ 9.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งตามแผนฟื้นฟูมีการประเมินกรณีกระทรวงการคลังพักชำระหนี้ให้ทั้งหมด ขสมก.จะไม่มีภาระต้องจ่ายดอกเบี้ยประมาณ 250 ล้านบาทต่อเดือน และเมื่อปรับปรุงกระบวนการทำงานต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพตามแผนงานที่กำหนดจะส่งผลให้ภายใน 6 ปี จะสามารถสร้างกำไรได้แน่นอน
นายออมสิน กล่าวถึงการจัดซื้อรถโดยสารใช้เชื้อเพลิงธรรมชาติ (เอ็นจีวี) ระยะแรก 489 คัน จากทั้งหมด 3,183 คัน ว่าหากคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (กวพ.อ) ของกรมบัญชีกลางส่งผลการพิจารณาตามที่มีผู้ร้องเรียนเกี่ยวกับการประกวดราคาว่าไม่มีการทุจริตมายัง ขสมก. ก็จะสามารถลงนามกับบริษัทที่ชนะการประกวดราคาได้ และส่งมอบรถได้ภายใน 50 วัน ส่วนการจัดซื้อรถเมล์ล็อตต่อไป ได้ให้ ขสมก.ศึกษารายละเอียดข้อดีข้อเสียของระบบรถเมล์ไฟฟ้าให้ครบถ้วน เพื่อเสนอให้พิจารณาในเดือนตุลาคมนี้
นางปราณี ศุกระศร รักษาการผู้อำนวยการ ขสมก. กล่าวว่า การดำเนินงานตามแผนฟื้นฟูที่อยู่ระหว่างดำเนินการในขณะนี้คือ การก่อสร้างอู่จอดรถเมล์ 6 แห่ง โดยใกล้จะเสร็จแล้ว ส่วนอีก 5 แห่งจะดำเนินการปีหน้า การจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน คาดว่าจะดำเนินการได้ในปีนี้ การบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ซึ่งจะดำเนินการหลังอู่จอดรถแล้วเสร็จ ส่วนกลางปี 2559 แผนจัดเส้นทางใหม่รวม 172 เส้นทาง แบ่งเป็นเส้นทางของเอกชน 85 เส้นทาง และ ขสมก. 87 เส้นทาง ของกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) จะแล้วเสร็จ ขณะที่การจัดซื้อรถเมล์ไฟฟ้าคาดว่าจะดำเนินการได้ในปี 2560
ขสมก.ยื่นคำขาดขอตัวช่วยจากคลังด่วน ออดอ้อนขอเวลาอีกเพียง 6 ปีทำผลกำไร
นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมช. คมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) อยู่ระหว่างทำแผนฟื้นฟูกิจการ อาทิ การลดรายจ่าย การจัดซื้อรถเมล์ใหม่ ปรับปรุงเส้นทางให้บริการ การสร้างอู่ ขสมก.เอง จากปัจจุบันที่ใช้วิธีการเช่า ซึ่งมีค่าใช้จ่าย 60 ล้านบาทต่อปี รวมถึงการทำระบบจัดเก็บตั๋วโดยสารอัตโนมัติ (อี ทิกเก็ต) และ ขสมก.จะเสนอให้กระทรวงการคลังรับผิดชอบภาระหนี้สินของ ขสมก.ด้วย ที่ผ่านมา ขสมก.มีหนี้สะสม 92,000 ล้านบาท คาดว่าปีนี้จะขาดทุนสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 96,000 ล้านบาท ซึ่งตามแผนฟื้นฟูได้มีการประเมินไว้กรณีที่กระทรวงการคลัง พักชำระหนี้ให้ทั้งหมด ขสมก.ก็จะไม่มีภาระต้องจ่ายดอกเบี้ย 250 ล้านบาทต่อเดือน จากนั้นเมื่อมีการปรับปรุงการทำงานให้มีประสิทธิภาพ คาดว่าส่งผลให้ใน 6 ปี ขสมก.จะสามารถสร้างกำไรได้
สำหรับ การจัดซื้อรถโดยสารใช้เชื้อเพลิงธรรมชาติ (เอ็นจีวี) ระยะแรก 489 คัน จากทั้งหมด 3,183 คัน หากคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (กวพ.อ.) ของกรมบัญชีกลาง ส่งผลการพิจารณาตามที่มีผู้ร้องเรียนเกี่ยวกับการประกวดราคา ว่าไม่มีการทุจริตมายัง ขสมก. ก็จะทำให้ ขสมก. สามารถลงนามกับบริษัทที่ชนะการประกวดราคาได้ จากนั้นจะสามารถส่งมอบรถได้ใน 50 วัน ส่วนการจัดซื้อรถเมล์รอบต่อไป ที่เป็นระบบรถเมล์ไฟฟ้า จะได้รายละเอียดทุกด้านในเดือน ต.ค.นี้.
คมนาคม ปรับแผน เล็งซื้อเมล์พลังงานไฟฟ้า 200 คัน จ่อชง ครม.เร็วๆ นี้
คมนาคม ปรับแผน เตรียมซื้อรถเมล์พลังงานไฟฟ้า 200 คันเพิ่มให้ ขสมก. หลังผลการศึกษาชี้ ต้นทุนจัดซื้อลดลงเหลือคันละ 10 ล้าน เนื่องจากผลิตได้ในประเทศ ถูกกว่านำเข้า 'ออมสิน' รับข้อเรียกร้องคนพิการ จัดรถชานต่ำ ยันไม่ละเลย...
เมื่อวันที่ 28 ก.ย. นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มอบนโยบายคณะกรรมการและผู้บริหารองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) โดยมีตัวแทนจากเครือข่าย ”รถเมล์เพื่อประชาชนทุกคนต้องขึ้นได้ทุกคัน” ซึ่งมีสมาชิกส่วนหนึ่งเป็นผู้พิการนั่งรถวิลแชร์ ยื่นหนังสือเรียกร้องขอให้การจัดซื้อรถเมล์ใหม่นอกเหนือ 489 คัน ที่ประกวดราคาไปแล้ว ต้องเป็นรถชานต่ำทั้งหมด ซึ่งได้มีการมอบหมายให้คณะกรรมการ ขสมก.รับไปพิจารณา
นายออมสิน เปิดเผยว่า การจัดหารถเมล์ใหม่เพิ่ม ล่าสุดได้หารือนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีความเห็นร่วมกันว่าการจัดซื้อรถเมล์ใหม่พลังงานไฟฟ้าไม่ควรจัดซื้อครั้งละมากๆ เพื่อไม่ให้เป็นวงเงินสูงเกินไป มีความคล่องตัวในการจัดซื้อ และเห็นควรจัดซื้อครั้งละ 200 คัน อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะทำแผนประกวดราคาจัดซื้อรถและเสนอให้ ครม.พิจารณาเร็วๆ นี้
ทั้งนี้ จากข้อมูลที่กระทรวงคมนาคม พิจารณาผลศึกษารถเมล์พลังงานไฟฟ้า หากนำเข้าทั้งคันจะมีมูลค่าคันละ 15 ล้านบาท แต่ผลการศึกษาปรากฏว่า มีเอกชนสามารถผลิตรถในประเทศทำให้ต้นทุนจัดซื้อลดลง เหลือคันละ 10 ล้านบาท ดังนั้น เมื่อนำมาเปรียบเทียบต้นทุนการใช้เชื้อเพลิงกับค่าบำรุงรักษาระยะยาวเห็นว่า ราคาดังกล่าวเป็นไปได้ที่จะจัดซื้อรถพลังงานไฟฟ้า ส่วนข้อเรียกร้องของผู้พิการที่ต้องการให้จัดซื้อรถเมล์ชานต่ำทั้งหมดนั้น ต้องพิจาณารายละเอียด ยืนยันว่าที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมไม่ได้ละเลยทั้งรถเมล์และรถไฟโดยสาร ซึ่งได้มีการจัดทำพื้นราบ เพื่ออำนวยความสะดวกคนพิการแล้วส่วนหนึ่ง
พร้อมระบุ การจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีที่ล่าช้า ได้ส่งผลกระทบทำให้ ขสมก.ไม่มีรถเมล์ใหม่ ทั้งที่มติ ครม.สั่งให้มีการจัดหารถเมล์ใหม่ตั้งแต่ปี 2548 โดยคาดหวังว่าการพิจารณาจะได้ข้อสรุป จัดซื้อและสามารถรับมอบรถเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่คนไทยได้.
ที่มา : www.thairath.co.th