- Details
- Category: คมนาคม
- Published: Thursday, 17 September 2015 08:28
- Hits: 3008
AOT คนไทยแห่ขึ้นเครื่องบินโลว์คอสต์ พบผู้โดยสารเพิ่มกว่า 50%ต่อปี
แนวหน้า : คนไทยแห่ขึ้นเครื่องบินโลว์คอสต์ พบผู้โดยสารเพิ่มกว่า 50%ต่อปี ท่าอากาศยาน‘ดอนเมือง’คึก
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)(ทอท). เปิดเผยในงาน LCC Airports Congress AsiaBangkok 2015 เมื่อวันที่ 15 ก.ย.2558 ว่า อุตสาหกรรมการบินของไทยปัจจุบันมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะสายการบินต้นทุนต่ำ(โลว์คอสต์ แอร์ไลน์)มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นประมาณ 50% ต่อปี นอกจากนี้ ยังพบว่าตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมาโลว์คอสต์มีเที่ยวบินเพิ่มขึ้น 30% ต่อปี
โดยสาเหตุมาจากเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการเดินทางของประชาชนจากทางบกเป็นทางอากาศ โดยขณะนี้ท่าอากาศยานดอนเมืองถือว่าท่าอากาศยานที่รองรับสายการบินต้นทุนต่ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก เนื่องจากมีพื้นที่จำกัดรองรับผู้โดยสารได้ถึง 18,500,000 คน แต่ปัจจุบันมีผู้โดยสารเข้ามาใช้บริการมากถึง 22,500,000 คน ทั้งนี้ ทอท. ได้เร่งก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ภายในท่าอากาศยานดอนเมืองให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้มากขึ้น 30 ล้านคน มีกำหนดเปิดให้บริการในเดือนพ.ย. 2558
นอกจากนี้ ทางกระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้ ทอท.เริ่มจัดทำแผนในการพัฒนาการให้บริการของท่าอากาศยานดอนเมืองและท่าอากาศยานสุวรรณภูมิต้นปีหน้า และ ทอท.ยังมีแผนการก่อสร้างสนามบินดอนเมืองเฟส 3 ให้รองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นเป็น 40 ล้านคน โดยตั้งเป้าให้สนามบินดอนเมืองเป็นศูนย์กลางของศูนย์ซ่อมอากาศยานในอนาคต
ด้านนายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยว่าในปัจจุบันปริมาณผู้โดยสารที่อากาศยานดอนเมืองมีความหนาแน่นมาก หากการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 แล้วเสร็จจะส่งผลดีต่อการให้บริการของสายการบินภายในท่าอากาศยานดอนเมือง รวมถึงได้มีการเจรจากับทางทอท.เรื่องปัญหาของหลุมจอดที่ไม่เพียงพอ ซึ่งทอท.ก็ได้รับเรื่องและจะดำเนินการนำเครื่องที่ไม่ได้ใช้งานออกไป ส่วนการแข่งขันในปัจจุบันของสายการบินต้นทุนต่ำไม่น่ากังวลมากนัก เนื่องจากเชื่อว่าระบบโครงสร้างพื้นฐานของไทยจะเต็มความจุแล้วผู้ที่จะลงทุนใหม่อาจไม่คุ้มทุน
ทั้งนี้ หากทาง ทอท.สามารถปรับลดค่าใช้จ่ายให้กับสายการบินได้ก็น่าจะส่งผลดีต่อผู้โดยสาร เช่น การลดต้นทุนค่าใช้จ่ายเพื่อให้ราคาตั๋วโดยสารถูกลงอีกประมาณ50-100 บาท เชื่อว่าจะสามารถกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวได้มากขึ้นส่วนการเก็บค่าใช้จ่ายผ่านตั๋วโดยสารจากระบบคัดกรองตรวจสอบผู้โดยสารล่วงหน้าทั้งเที่ยวไปและเที่ยวกลับรอบละ 35 บาท เชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารแต่จะส่งผลดีในด้านความปลอดภัยของสนามบิน
ในส่วนของสายการบินไทยแอร์เอเชียในปีหน้ามีแผนที่จะรับเครื่องบินเพิ่มอีก 5 ลำ โดยแบ่งเป็นการบริการในต่างจังหวัด 3 ลำ และอีก 2 ลำจะให้บริการจากกรุงเทพฯ สำหรับเหตุการณ์ระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ยอมรับว่ากระทบผู้โดยสารบ้างแต่ขณะนี้มองว่าสถานการณ์กลับสู่สภาวะปกติแล้ว
