- Details
- Category: คมนาคม
- Published: Friday, 04 September 2015 09:30
- Hits: 5314
รมช.คมนาคม เร่งประมูลรถไฟทางคู่ 6 เส้นทางภายในปีนี้,เร่งรถเมล์ NGV
นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคมให้กำกับดูแล 6 หน่วยงาน ประกอบด้วย กรมเจ้าท่า ,กรมการขนส่งทางบก ,บริษัท ขนส่งจำกัด (บขส.) ,องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ,การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และบริษัท รถไฟฟ้าร.ฟ.ท. จำกัด ซึ่งได้มอบหมายนโยบายให้กับหน่วยงานกำกับทั้งหมดในเรื่องความโปร่งใส ตรวจสอบได้ พร้อมกับเร่งรัดงานในหลายโครงการ โดยเฉพาะโครงการของรฟท. ซึ่งรัฐบาลต้องการเร่งรัดการประกวดราคาโครงการรถไฟทางคู่ 6 เส้นทางให้ได้ภายในปีนี้
"การปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้เป็นที่จับตามองและมีความคาดหวังสูง ประกอบกับเป็นช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจไม่ดี ดังนั้นการเร่งรัดงานให้รวดเร็วจะต้องมีความรอบคอบและรัดกุมด้วย โดยเฉพาะการลงทุนโครงการขนาดใหญ่"นายออมสิน กล่าว
นายออมสิน กล่าวว่า ขณะนี้โครงการรถไฟทางคู่ เส้นทางฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย ระยะทาง 106 กม. วงเงิน 11,348.36 ล้านบาท ได้ขายเอกสารประกวดราคาแล้ว ส่วนเส้นทางชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 185 กม. วงเงิน 26,007.20 ล้านบาท จะเสนอเข้าที่ประชุมบอร์ดรฟท.เพื่อขออนุมัติในวันที่ 8 ก.ย.นี้ จึงจะขายเอกสารประกวดราคา ส่วนโครงการรถไฟทางคู่ ประจวบคีรีขันธ์- ชุมพร วงเงิน 17,000 ล้านบาท และมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กม.นั้น ได้รับการอนุติรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) แล้ว และคาดว่าจะเร่งประกาศทีโออาร์ได้เร็วๆนี้
ส่วนเส้นทางที่เหลือ ได้แก่ ลพบุรี –ปากน้ำโพ , นครปฐม – หัวหิน จะประสานกับรมว. ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อขอให้เร่งรัดการพิจารณา EIA เพื่อให้สามารถเปิดประกวดราคาได้ภายในปีนี้ ตามเป้าหมายรัฐบาล
รมช.คมนาคม กล่าวถึงความคืบหน้าการประกวดราคาโครงการก่อสร้างรถไฟสายสีแดงช่วง บางซื่อ-รังสิต สัญญาที่ 3 (งานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมตู้รถไฟฟ้าบางซื่อ-รังสิต และบางซื่อ-ตลิ่งชัน) นั้น ได้เร่งรัดให้รฟท.สรุปผลการประมูล ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ประชุมบอร์ดรฟท.ได้อนุมัติวงเงินที่มีการเจรจาล่าสุดแล้ว โดยกลุ่มกิจการร่วมค้า MHSC Consortium (บริษัท MITSUBISHI Heavy Industrial Ltd., บริษัท Hitachi และ บริษัท Sumitomo Corporation) ปรับลดราคามาอยู่ที่ 32,399 ล้านบาท สูงกว่ากรอบวงเงินที่ได้รับอนุมัติที่ 27,926 ล้านบาทและสูงกว่ากรอบวงเงินที่คณะกรรมการเคยเห็นชอบในการปรับใหม่ที่ 30,500 ล้านบาท ดังนั้น รฟท.จะต้องชี้แจงเหตุผลที่ทำให้วงเงินมาอยู่ที่ 32,399 ล้านบาท นำเสนอกระทรวงคมนาคม และนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.)พิจารณาปรับเพิ่มกรอบวงเงินต่อไป
"รถไฟต้องเร่งสรุปเรื่องนี้ เพราะกังวลว่าหากการก่อสร้างสัญญา 1และ 2 เสร็จจะมีปัญหาสายสีแดงไม่มีรถวิ่ง เนื่องจาก หลังจากได้ข้อสรุปสัญญาที่ 3 ยังมีอีกหลายขั้นตอนและหลังเซ็นสัญญา จะต้องใช้เวลาในการดำเนินการจัดหาอีก 48 เดือนหรือ 4 ปี"รมช.คมนาคม กล่าว
นายออมสิน กล่าวอีกว่า ยังได้เร่งรัดขสมก.ในเรื่องการจัดหารถเมล์ NGV จำนวน 489 คัน โดยได้รับรายงานว่า ในวันที่ 3 ก.ย.นี้ ทางกระทรวงการคลัง โดยคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ (กวพ.อ.) จะพิจารณาและตัดสินเรื่องดังกล่าว ขณะที่เป้าหมายของรัฐบาลต้องการเร่งรัดการจัดหาเพื่อนำรถเมล์ใหม่มาให้บริการประชาชนเร็วที่สุด ขณะที่ปัจจุบันมีรถเก่าหมดสภาพจอดอยู่เฉยๆ ประมาณ 786 คัน มีค่าใช้จ่ายเรื่องค่าเช่าอู่จอดและค่ารักษาความปลอดภัย 4.5 แสนบาท/เดือน ดังนั้นให้เร่งไปทบทวนแผนและมติครม.ที่ห้ามขายซากรถดังกล่าว และเสนอมาเพื่อลดค่าใช้จ่ายลง
อินโฟเควสท์
รถไฟมั่นใจเซ็นทางคู่ 2 เส้น
บ้านเมือง : นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยภายหลังรับมอบนโยบายปฏิบัติงาน จากนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะรัฐมนตรีกำกับดูแล การรถไฟแห่งประเทศไทย ว่าที่ประชุมได้มอบหมายให้การรถไฟฯ ดำเนินโครงการให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด ทั้งนี้ ที่ผ่านมา โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เส้นทางคลองสิบเก้า-แก่นคอย ขณะนี้ได้เปิดขายซองประกวดราคาเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา และในส่วนของเส้นทาง ชุมทางจิระ-ขอนแก่น กำลังจะเปิดขายซองประกวดราคา ทั้งนี้ จะต้องเสนอรายละเอียดต่อที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฯ ในวันที่ 8 กันยายน 2558 เพื่อพิจารณาก่อนที่จะเปิดดำเนินการ
"ที่ประชุมได้มีมอบหมายให้การรถไฟฯ เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามแผนที่กำหนด เร่งรัดงานตามแผนงานให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด โดยเฉพาะโครงการรถไฟทางคู่ ซึ่งการรถไฟฯ การได้มีการรายงานความคืบหน้า โครงการรถไฟทางคู่ ประกอบด้วย เส้นทางคลองสิบเก้า-แก่นคอย ขณะนี้ได้เปิดขายซองประกวดราคาเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา และในส่วนของเส้นทาง ชุมทางจิระ-ขอนแก่นนั้น จะเสนอเข้าที่ประชุมบอร์ดเพื่ออนุมัติก่อน จึงจะสามารถเปิดขายซองได้ นอกจากนี้ ยังมีโครงการรถไฟทางคู่ที่ยังติดเรื่องของการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) อยู่บางส่วน ประกอบด้วย เส้นทาง ลพบุรี-ปากน้ำโพ, นครปฐมหัวหิน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งรัดกระบวนการศึกษาผลกระทบ EIA ทั้งนี้ รายละเอียดส่วนอื่นถือว่ามีความพร้อมทั้งหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม ตั้งเป้าเส้นทางต่อไปที่จะสามารถเปิดขายซองประกวดราคาได้ก็คือ เส้นทางประจวบศีรีขันธ์-ชุมพร, มาบกระเบา-ชุมทางจิระ ซึ่งทั้ง 2 เส้นทางตามแผนจะต้องเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่ออนุมัติก่อน อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะทำเรื่องเสนอขออนุมัติจากครม.ก่อนในส่วนของเส้นทางที่ยังติดเรื่อง EIA ทั้งนี้ ยังมีความมั่นใจว่า ภายในปี 2558 นี้ จะสามารถลงนามสัญญาโครงการได้ 2 เส้นทาง คือ คลองสิบเก้า-แก่นคอย และชุมทางจิระ-ขอนแก่น ส่วนอีก 4 เส้น คือ ลพบุรี-ปากน้ำโพ, นครปฐม-หัวหิน, ประจวบศีรีขันธ์-ชุมพร และมาบกระเบา-ชุมทางจิระ จะเป็นการเปิดประกวดราคา"นายวุฒิชาติ กล่าว