- Details
- Category: คมนาคม
- Published: Saturday, 08 August 2015 12:52
- Hits: 4506
คมนาคม เร่งเดินหน้าแผนธุรกิจ-การตลาดสนามบินอู่ตะเภาเสนอ ครม.ภายใน ก.ย.
นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการเชื่อมโยงโครงข่ายการคมนาคม และคณะกรรมการวางแผนธุรกิจส่งเสริมกิจการของท่าอากาศยานอู่ตะเภาเพื่อพัฒนาให้เป็นสนามบินพาณิชย์เต็มรูปแบบว่า ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องได้เสนอแนวทางการพัฒนาเพื่อรองรับการขนส่งผู้โดยสาร และแนวทางด้านการตลาดความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่จะช่วยกันส่งเสริมการตลาด รวมถึงส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกและพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งจะมีการประชุมคณะกรรมการทั้ง 2 ชุดเพื่อสรุปรายละเอียดแผนปฏิบัติการ(Action Plan) อีกครั้ง และคาดว่าจะสรุปเสนอครม.พิจารณาได้ภายในเดือนก.ย.นี้
ทั้งนี้ ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานนั้น กรมทางหลวงจะเป็นผู้รับผิดชอบพัฒนาโครงข่ายถนนที่สนับสนุนท่าอากาศยานอู่ตะเภา 12 โครงการ และพัฒนาถนนภายในสนามบินอีก 1 โครงการ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการโครงการก่อสร้างขยายทางหลวงหมายเลข 331 ตอนแยกทางหลวงหมายเลข 36 (พนมสารคาม)-ทางหลวงหมายเลข 3 (อ.สัตหีบ) จาก 2 เป็น 4 ช่องจราจร ระยะทาง 25.92 กม. วงเงิน 607 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2560
นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายเส้นทางหลวงหมายเลข 3126 ตอนพลูตาหลวง-ท่าเรือจุดเสม็ด (แสมสาร) ระยะทาง 11.163 กม. จาก 2 เป็น 4 ช่องจราจร โดยระยะเร่งด่วนจะดำเนินการช่วงด้านหน้าสนามบินอู่ตะเภา ระยะทางประมาณ 2.5 กม. โดยใช้งบกลางปี 2559 วงเงิน 250 ล้านบาท ส่วนอีก 9 กม. วงเงินประมาร 350 ล้านบาท จะดำเนินการในปี 2560-2562 และโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง เส้นทาง พัทยา-มาบตาพุด ระยะทาง 31 กม. วงเงิน 20,200 ล้านบาท ดำเนินการปลายปี 2558-2561 เป็นต้น
ขณะที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้จัดทำแผนปรับปรุงเส้นทางรถไฟและก่อสร้างสถานีเพิ่มคือสถานีอู่ตะเภา วงเงินประมาณ 250 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 20 เดือน โดยจะหารือกับกองทัพเรือเพื่อขอใช้พื้นที่ประมาณ 40 ไร่ ในการก่อสร้างสถานีอู่ตะเภา คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ประมาณปลายปี 2559
ส่วนแผนธุรกิจเพื่อส่งเสริมให้สายการบินและนักท่องเที่ยวมาใช้บริการที่สนามบินอู่ตะเภาเพิ่มนั้น ได้รับความร่วมมืออย่างเต็มที่จากผู้เกี่ยวข้อง เช่น บมจ.ท่าอากาศไทย(AOT) หรือ ทอท., สมาคมผู้ประกอบการธุรกิจการบิน (AOC), กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, หอการค้าจังหวัดระยอง โดยได้เสนอให้มีการเจรจากับกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวจีนให้มาใช้บริการเพิ่มเติม, เจรจากับกลุ่มสายการบินต้นทุนต่ำ, เจรจากับบริษัท Nordwind ของรัสเซีย เพื่อทำการตลาดดึงนักท่องเที่ยวจากรัสเซียกลับมาหลังจากที่ลดจำนวนลงกว่า 50% เนื่องจากรัสเซียมีปัญหาเศรษฐกิจ พร้อมทั้ง เพิ่มมาตรการสร้างแรงจูงใจให้กับสายการบิน เช่น โปรโมชั่นลดค่าธรรมเนียมการใช้สนามบินนอกฤดูท่องเที่ยว
ทั้งนี้ ทาง AOC เสนอว่าสนามบินอู่ตะภาควรมีแรงจูงใจในด้านการตลาด เป็น Smart Airport หรือ Digital Airport เพื่อเป็นจุดขาย โดยคาดว่าจะมีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มจากปัจจุบันที่ 1.2-1.4 แสนคนต่อปี เป็น 1 ล้านคนต่อปี ภายในปี 2560 ระยะที่ 2 จะพัฒนาเพื่อเพิ่มศักยภาพการขนส่งสินค้า คาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ในปี 2560 และระยะยาวจะพัฒนาเป็นศูนย์ซ่อมอากาศยานด้วย
อินโฟเควสท์