- Details
- Category: คมนาคม
- Published: Sunday, 26 July 2015 09:12
- Hits: 5870
นายกฯ ยันเร่งเดินหน้าโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่มีความพร้อม
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยถึงการเดินหน้าการลงทุนในส่วนของโครงการโครงสร้างพื้นฐานว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้สั่งการให้มีการเร่งการลงทุนให้เร็วยิ่งขึ้นโดยเฉพาะการก่อสร้างรถไฟไทย-จีน โดยเชื่อมั่นว่าหากไม่มีปัญหาความขัดแย้งหรือปัญหาการเมืองเข้ามาแทรก การดำเนินการเรื่องการลงทุนก็จะเห็นผลได้เร็ว
"เดือนหน้าถ้าอันไหนทำได้ก็อยากให้เกิดเลย ทั้งรถไฟ รถเมล์ แต่ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่ามันติดขัดปัญหาเรื่องความขัดแย้ง มีประชาชนออกมาต่อต้านซึ่งอาจจะเป็นจากประชาชนไม่เข้าใจ และถ้าหากสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ การเดินหน้าในงานทุกๆด้านก็จะเร็ว"นายกรัฐมนตรี กล่าว
รับเมกกะโปรเจกต์ยังล่าช้า
บ้านเมือง : พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่ายอมรับว่ามี 2 ส่วนที่ล่าช้าไปจากแผนประมาณ 2-3 เดือน คือ โครงการรถไฟทางคู่ 3 เส้นทางประกอบด้วย ฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย, ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น,ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร โดยจะล่าช้าจากแผนเดิมที่จะประกวดราคาในเดือนส.ค. 2558 เป็นเดือน ก.ย.-ธ.ค.58 และโครงการถไฟฟ้า 3 สาย คือ สายสีส้ม (ตลิ่งชัน-มีนบุรี) สายสีเหลือง (ลาดพร้าวสำโรง) สายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) จะล่าช้าไปเป็นปลายปี 2558-ต้นปี 2559 ส่วนโครงการอื่นๆ ที่อยู่ในแผนงานปี 2558 ยังเดินหน้าไปตามแผนได้ตามเดิม
"พูดถึงแผนงานในปี 2558-2559 ต้องบอกว่า หลายเรื่องไม่ได้มีงบประมาณไว้ก่อน และมีหลายเรื่องที่เห็นว่ามีความจำเป็นจึงได้เร่งขึ้นมาทำก่อน ซึ่งข้อเท็จจริงก็คือ เมื่อยังไม่มีการตั้งงบประมาณของโครงการไว้ก่อน พอจะเริ่มจึงทำได้ในส่วนของ งบศึกษาความเป็นไปได้ งบศึกษาสำรวจออกแบบ ดังนั้นการก่อสร้างจะไปเริ่มได้ในปี 2559 ศึกษาผลกระทบและตามมาด้วยการเวนคืนที่ดิน การขอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อผ่านแล้ว ก็จะต้องเลือกบริษัทจึงจะก่อสร้างได้"
สำหรับ การใช้งบประมาณปี 2558 นั้น ขณะนี้มี 2 หน่วยที่เบิกจ่ายล่าช้ากว่าแผน คือ กรมเจ้าท่า และสำนักงานนโยบายแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ส่วนหน่วยงานอื่นเบิกจ่ายได้ตามแผน นอกจากนี้ ยังมีงบประมาณเหลือจ่ายที่ต้องส่งคืนอีกประมาณ 299.86 ล้านบาท ณ สิ้นเดือน มิ.ย.58 โดยมี 7 หน่วยงาน คือ สถาบันการบินพลเรือน (สบพ.) กรมเจ้าท่า กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท รฟม. รฟท.) และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)
'ประจิน'ยันให้ข้อมูลโครงการรถไฟ ก่อนเดินทางประชุมที่จีนสัปดาห์หน้า
แนวหน้า : พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในวันที่ 24 ก.ค.นี้ จะมีการให้ข้อมูลความคืบหน้าในส่วนของโครงการการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.), โครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานที่จะสามารถเปิดประมูลได้ภายในปีนี้ รวมถึงสัปดาห์หน้าจะมีการให้ข้อมูลในของโครงการทางด้านอากาศ คาดว่า จะสามารถให้ข้อมูลโครงการทั้งหมดได้ก่อนไปประชุมที่สาธารณรัฐประชาชนจีน
ทั้งนี้ ในส่วนของประเด็นที่ทางท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย(ทอท.) มีการประสานงานไปยังกองทัพอากาศ เพื่อขอพื้นที่สำรองลานจอดเครื่องบิน หากไม่ผ่านการตรวจสอบจากทางองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) เป็นข้อตกลงที่มีอยู่เดิมเนื่องจากทางกองทัพอากาศเป็นพันธมิตรและมีแผนสนับสนุนในหลายด้านร่วมกับทาง ทอท.อยู่แล้วเพราะมีการใช้พื้นที่สนามบินร่วมกันหลายแห่ง
สำหรับ ในส่วนของโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพง-บางแค และ บางซื่อ-ท่าพระ ซึ่งทางรัฐบาลก็อยากให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว ซึ่งโดยส่วนตัวมองว่าโครงการดังกล่าวหากมีการก่อสร้างแล้วเสร็จจะมีอุโมงค์ลอดผ่านแม่น้ำเป็นส่วนเชื่อมระหว่าง 2 ฝั่ง เพื่อความสะดวกในการใช้บริการของผู้โดยสารน่าจะทำการเดินรถแบบต่อเนื่องมีความเหมาะสมกว่า รวมถึงไม่จำเป็นต้องลงทุนศูนย์ซ่อมบำรุงเพิ่ม โดยคาดว่าน่าจะมีการนำประเด็นดังกล่าวมาหารือในสัปดาห์หน้า
นอกจากนี้ ในส่วนของกรณีการย้ายสถานีขนส่งของบริษัท ขนส่ง จำกัด(บ.ข.ส.)นั้น จำเป็นต้องย้ายเพื่อให้ ร.ฟ.ท. ก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อตามแผน แต่จะมีพื้นที่ประมาณ 14-16ไร่เหลืออยู่ ซึ่งจะต้องมีการหารืออีกครั้งว่าจะมีการวางแผนการจัดการเพื่อสามารถให้บริการอย่างไร เพื่อเป็นการเชื่อมโครงข่ายระหว่างรถ บขส. กับสถานีกลางบางซื่อเพื่อต่อไปยังเส้นทางอื่นที่ไม่เกิน 300 กม.ต่อไป