- Details
- Category: คมนาคม
- Published: Sunday, 19 July 2015 14:22
- Hits: 3550
รมว.คมนาคมเผย FAA พบข้อบกพร่องด้านการบินของไทย เสี่ยงถูกลดชั้น
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม กล่าวว่า ผลการตรวจสอบของสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (FAA) อย่างไม่เป็นทางการ พบว่าไทยยังมีข้อบกพร่องด้านการบิน ซึ่งจะต้องเร่งแก้ไขภายใน 65 วันก่อนที่ทาง FAA จะส่งทีมงานเข้ามาตรวจสอบอีกครั้งในช่วง 30 วันถัดจากนั้น จึงจะทราบผลว่า FAA จะจัดอันดับให้ไทยได้มาตรฐานระดับความปลอดภัยประเภทใด ระหว่าง Category 1 คือ ได้มาตรฐาน หรือ Category 2 ไม่ได้มาตรฐาน จากปัจจุบันที่ไทยยังอยู่ในระดับ Category 1
"การดำเนินการแก้ไขนั้นฝ่ายไทยก็ได้ดำเนินการอย่างจริงจัง และตั้งใจก็คาดหวังว่าทาง FAA จะเห็นถึงความพยายามและความตั้งใจในการดำเนินการแก้ไขแล้ว ก็จะไม่ลดระดับมาตรฐานการบินของไทยเหลือ Category 2"พล.อ.อ.ประจิน กล่าว
รมว.คมนาคม กล่าวว่า ช่วงระหว่างวันที่ 13-17 ก.ค.ที่ผ่านมา FAA ได้เข้ามาตรวจกรมการบินพลเรือนของไทย และ 2 สายการบินของไทย ได้แก่ สายการบินไทย ของบมจ.การบินไทย (THAI) สายการบินบางกอกแอร์เวย์ ของบมจ.การบินกรุงเทพ (BA) ที่ทำการบินเข้าประเทศสหรัฐอเมริกา โดย FAA มาตรวจกรมการบินพลเรือนใน 3 ประเด็น ได้แก่ การออกใบอนุญาตผู้ทำหน้าที่ ,การปฎิบัติการบินของอากาศยาน และความสมควรการเดินอากาศ
โดยได้รับรายงานจากอธิบดีกรมการบินพลเรือนถึงผลการตรวจอย่างไม่เป็นทางการว่า FAA ตรวจพบข้อบกพร่อง 3 ด้าน ได้แก่ จำนวนบุคลากรในการตรวจสอบสายการบินมีไม่เพียงพอ และคุณสมบัติของผู้ดำเนินการตรวจไม่สามารถรองรับการตรวจเครื่องบินที่จดทะเบียน ,แนวทางการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ยังขาดรายการปฏิบัติในบางเรื่อง และการตรวจติดตามผลต่างๆ ดำเนินการไม่ครบถ้วน ซึ่งเป็นผลมาจากบุคลากรไม่เพียงพอ ซึ่งทั้ง 3 ด้านนี้ตรงกับการตรวจขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ซึ่ง FAA จะส่งผลการตรวจสอบมาให้ทราบอย่างเป็นทางการภายใน 30 วัน นับจากวันที่ 17 ก.ค. 58
ทั้งนี้ ไทยมีเวลาที่จะแก้ไขข้อบกพร่องดังกล่าวภายใน 65 วัน หลังจากนั้นทาง FAA จะส่งทีมงานมาติดตามการแก้ไขของฝ่ายไทยอีกครั้งภายใน 30 วัน ก่อนจะสรุปผลให้ทราบว่าจะลดมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินไทยลงจาก Category 1 เป็น Category 2 หรือไม่ โดยการแก้ไขข้อบกพร่องจากนี้จะดำเนินการแก้ไขข้อบกพร่องของ FAA ควบคู่กับการแก้ไขข้อบกพร่องที่ ICAO ตรวจพบเนื่องจากเป็นประเด็นเดียวกัน และจะรายงานผลความคืบหน้าให้ทั้ง ICAO และ FAA ได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง
พล.อ.อ.ประจิน กล่าวอีกว่า ปัจจุบันไทยก็ถูกจำกัดตามสมควรแล้วในเรื่องการไม่ได้เพิ่มสายการบิน ก็คาดหวังว่าจะสามารถต่อสู่เพื่อปลดข้อบกพร่องอย่างมีนัยสำคัญ(Significant Safety Concern: SSC)ได้ ขณะเดียวกันสิ่งที่ฝ่ายไทยดำเนินการอยู่ขณะนี้ก็นับเป็นการการันตีว่าไม่สมควรที่จะถูกลดชั้นลงไป แต่หากไทยถูกปรับลดชั้นเป็น Category 2 ก็จะเป็นการปรับในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสายการบินที่ทำการบินเข้าประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งในส่วนของสายการบินไทยก็ได้เตรียมแผนสำรองในเรื่องนี้ไว้แล้ว โดยทำงานร่วมกับพันธมิตรสายการบิน หรือสตาร์อัลไลแอนซ์ ที่จะส่งต่อลูกค้าให้กันได้ จึงไม่น่ากระทบกับลูกค้า แต่จะกระทบกับฐานการทำธุรกิจสายการบิน โดยฐานจะแคบลง และสายการบินที่อยู่ภายใต้ FAA ก็จะแคบลงไปด้วยเช่นเดียวกัน
ส่วนการปรับปรุงคู่มือที่เกี่ยวกับการขนสินค้าอันตรายนั้นได้ดำเนินการเสร็จแล้ว คู่มือเกี่ยวกับการออกใบอนุญาตการบินจัดทำเสร็จแล้ว และเมื่อได้ผู้เชี่ยวชาญที่มีใบอนุญาตตรวจสายการบินเพิ่มอีก 6 ราย ที่เป็นหัวหน้าทีมในการตรวจสายการบิน 28 สายการบินที่ให้บริการระหว่างประเทศ และ 13 สายการบินที่ให้บริการในประเทศ ซึ่งก็ได้ขอความเห็นใจไปยัง ICAO และสำนักงานความปลอดภัยด้านการบินของออสเตรเลีย ให้ส่งคนเข้ามาช่วยให้ได้ภายในสิ้นเดือนนี้ หลังจากนั้นก็จะเร่งดำเนินการฝึกอบรมทั้งหมดได้โดยจะใช้ระยะเวลาในการฝึกอบรมประมาณ 1 สัปดาห์ครึ่ง จึงเชื่อว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการตรวจสอบใบอนุญาต 41 สายการบินใหม่ได้ภายในเดือนส.ค.นี้อย่างแน่นอน แต่การแก้ไขคงจะแล้วเสร็จไม่ทันภายในปี 58 ซึ่งก็ต้องเลื่อนออกไปเป็นปี 59
ผู้ที่จะมาดำเนินการตรวจสอบใบอนุญาตสายการบินและรับการฝึกอบรมของฝ่ายไทยนั้นขณะนี้ได้ครบแล้ว 25 คน เหลือเพียงผู้เชี่ยวชาญที่จะมาเป็นหัวหน้าทีมในการตรวจใบอนุญาตสายการบินและฝึกอบรมให้กับบุคลากรที่จะดำเนินการตรวจสอบนั้นยังขาดอีก 6 คน ซึ่งก็รอจาก ICAO และออสเตรเลียส่งมาช่วยอยู่ก็ขอให้เข้าส่งมาภายในสิ้นเดือนนี้เพื่อที่จะดำเนินการฝึกอบรมและตรวจสอบใบอนุญาตสายการบินต่อไป
พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า หากดำเนินการแก้ไขไม่ทันในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวก็จะสั่งให้กรมการบินพลเรือน ไปเตรียมดำเนินการเจรจากับประเทศที่สายการบินไทยทำการบินเข้า เช่น เกาหลี ญี่ปุ่น จีน ออสเตรเลีย
"ยอมรับว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมาทั้งหมดนั้นส่วนหนึ่งมาจากการมีทัศนคติต่อรัฐบาลไทยด้วยเช่นกัน จะสังเกตได้ว่ากรมการบินพลเรือนนั้นมีมานานแล้วก็เพิ่งมาเกิดปัญหาในช่วงรัฐบาลนี้บริหารประเทศพอดี" พล.อ.อ.ประจิน กล่าว
อินโฟเควสท์
ผลตรวจ FAA ชี้'บพ.'บกพร่องต่อลม 95 วันแก้ไขให้เสร็จประจินรับมือไทยตกชั้น
ไทยโพสต์ : ราชดำเนิน * ‘ประจิน’ เผย FAA ตรวจพบความบกพร่องของกรมการบินพลเรือนทำนองเดียวกับผลของ ICAO ให้เวลา 65 วัน แก้ไขให้เสร็จ ก่อนส่งทีมเข้ามาตรวจซ้ำ ชี้มีเส้นตายแค่ 95 วัน ก่อนจะรู้ผลว่าตกมาตรฐานหรือไม่ ด้านการบินไทยเตรียมแผนรองรับไว้แล้ว
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงการตรวจสอบมาตรฐานการบินขององค์การบริหารการบินแห่ง ชาติของสหรัฐ (FAA) ที่เข้ามา ตรวจสอบระหว่างวันที่ 13-17 ก.ค.2558 ว่า ผลการตรวจสอบ ออกมาคล้ายกับผลการตรวจสอบขององค์การการบินพล เรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ที่พบว่าไทยมีบุคลากรไม่เพียงพอ และมีคุณสมบัติไม่ตรงกับ เครื่องบิน แนวทางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ยังขาดราย การปฏิบัติในบางเรื่อง เช่น ขาดความทันสมัย ไม่มีความครบถ้วน และการตรวจติดตามผลไม่ครบถ้วน เนื่องจากบุคลากรไม่เพียงพอ
ทั้งนี้ หลังจากนี้ 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค. ทาง FAA จะส่งผลการตรวจสอบอย่างเป็นทางการให้กรมการบินพลเรือน (บพ.) ขณะเดียวกัน บพ. จะมีเวลาในการแก้ไขปัญหานับตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค.ไปอีก 65 วัน และ FAA จะส่งทีมงานเข้ามาตรวจสอบอีกครั้งในช่วง 30 วันถัดจากนั้น จึงจะทราบผลว่า FAA จะจัดอันดับให้ไทยได้มาตรฐาน คือ Category 1 หรือไม่ได้มาตรฐาน คือ Category 2
"ขณะนี้ยังไม่ระบุว่า จะจัดไทยอยู่ในระดับใด ปัจจุบันยังอยู่ในมาตรฐาน คือ Cate gory 1 หลัง 65 วันในช่วงที่มีการแก้ไข และอีก 30 วัน รวมเป็น 95 วัน จึงจะทราบผลว่าจะอยู่ในมาตรฐาน Category 1 หรือมาตรฐาน Category 2 อย่างไรก็ตาม บพ.จะรายงานความคืบหน้าการแก้ไขข้อบก พร่องให้ FAA ทราบพร้อมๆ กับแจ้งผลการแก้ไขให้ ICAO ทราบด้วย" พล.อ.อ.ประจิน กล่าว
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าหากมีการลดชั้นของไทยไปอยู่ Category 2 จะกระทบต่อสายการบินที่บินเข้าน่านฟ้าสหรัฐ ซึ่งผลกระทบจะมีมากน้อยแค่ไหน วันที่ 20 ก.ค.นี้ จะขอดูรายละเอียดและชี้แจงอีกครั้ง อย่างไรก็ดี ไทยพร้อมเจรจาองค์กรการบินแต่ละประเทศ เพื่อแก้ไขสถานการณ์แต่ละเส้นทางการบินต่อไป
พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า FAA ได้ไปตรวจสายการบินไทย และบางกอกแอร์เวย์ส ซึ่งทาง การบินไทยมีแผนสำรอง หากบินเข้าสหรัฐไม่ได้ เพราะถูกปรับลดมาตรฐาน โดยการบินไทยจะทำงานร่วมกับสตาร์อัลไล อันซ์ในการส่งต่อลูกค้า ดังนั้น จะไม่กระทบกับผู้โดยสาร แต่จะกระทบกับมาตรฐานการทำธุรกิจของสายการบิน.