- Details
- Category: คมนาคม
- Published: Sunday, 05 July 2015 09:23
- Hits: 2261
ลงทุนรถไฟไทย-จีน 4 แสนล. ซีเมนส์ ขอเอี่ยวโครงการรถไฟฟ้า
ไทยโพสต์ : ราชดำเนิน *'ประจิน'แจงเตรียมชง ครม.อนุมัติแผนลง ทุนรถไฟไทย-จีน 10 ก.ย.นี้ คาดใช้เงินลงทุน 4.2 แสนล้าน เมินข้อเสนอเพิ่มความเร็ว 250 กม./ชม.
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า โครงการความร่วมมือรถไฟไทย-จีน เส้นทางกรุงเทพฯ-แก่งคอยนครราชสีมา และแก่งคอย-มาบ ตาพุด ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำกรอบการทำงานทั้งหมด จะสรุปและให้ความเห็นชอบจากทั้ง 2 ฝ่ายภายในวันที่ 29 ส.ค.2558 นี้ จากนั้นจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติในวันที่ 10 ก.ย.นี้ โดยบริษัทที่ปรึกษาได้ประเมินเงินลงทุนไว้ที่ 4.2 แสนล้านบาท แต่เป็นรถไฟความเร็ว 250 กม./ชม. แต่รัฐบาลอนุมัติให้ดำเนินการที่ความเร็ว 180 กม./ชม. คาดว่ามูลค่าโครงการจะต่ำกว่านี้แน่นอน
ส่วนการก่อสร้างงานโย ธา จะเปิดประกวดราคาภายในเดือน ก.ย.นี้ โดยใช้วิธีพิเศษซึ่งจะคัดเลือกบริษัทผู้รับเหมาจากบัญชีรายชื่อที่ฝ่ายไทยและจีนได้ให้ความเห็นชอบก่อนหน้า นี้ โดยกำหนดสัดส่วนผู้รับเหมาไทย 70% จะก่อสร้างทางราบเป็นหลัก ส่วนผู้รับเหมาจีน 30% จะก่อสร้างทางลอดอุโมงค์และผ่านภูเขา
พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า ในส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จากประเทศจีนนั้น ทางฝ่ายจีนยืนยันว่าจะให้เงินกู้อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ ซึ่งจะเป็น ข้อเสนอที่ดีแทนสำหรับประ เทศไทยที่จะไปกู้จากแหล่งเงินกู้อื่นๆ และไม่กำหนดสกุลเงิน ส่วนอัตราดอกเบี้ยที่ชัดเจนต้องรอสรุปแบบการก่อสร้างและวงเงินที่แน่นอนก่อน อย่างไรก็ ตาม ไทยจะมีการพิจารณาเปรียบ เทียบกับแหล่งเงินกู้อื่นๆ เช่น กรณีล่าสุด ประเทศญี่ปุ่นปล่อยกู้โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต สัญญาที่ 1 และ 2 คิดในอัตราพิเศษเพียง 1.4% เท่านั้น รวมทั้งยังมีข้อเสนอแหล่งเงินกู้จากยุโรปและเยอรมนีนี้ที่เสนอในอัตราพิเศษให้กับไทยด้วย
พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า ส่วนที่ฝ่ายจีนได้ยื่นข้อเสนอขอปรับเพิ่มความเร็วจากข้อตกลงเดิม 180 กม./ชม. เป็น 250 กม./ชม.นั้น ได้ยืนยันชัดเจนว่าจะยึดตามกรอบเดิมที่ ครม.ได้อนุมัติเห็นชอบไว้แล้ว เนื่องจากความเร็ว 180 กม./ชม. จะประหยัดค่าก่อ สร้างได้มากกว่าความเร็ว 250 กม./ ชม. และเส้นทางดังกล่าวจะเน้นการขนส่งสินค้าจากจีนมาไทย จึงเห็นว่าความเร็วที่ตกลงไว้เดิมมีความเหมาะสมแล้ว
ซีเมนส์ ขอเอี่ยวโครงการรถไฟฟ้า
แนวหน้า : นายยอรก์เค่น ไอค์โคลต์ (Mr.Jochen Eickholt) ประธานและหัวหน้าฝ่ายบริหารแผนก Mobility บริษัทซีเมนส์ (SiemensAG) ประเทศเยอรมนี เปิดเผยในงาน Siemens Mobility Day ว่าทางบริษัทมีความพร้อมในการจัดหาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยในการพัฒนาระบบเครือข่ายรถไฟฟ้า และในด้านของการบริหารจัดการในระบบเครือข่ายคมนาคม รวมถึงบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ ส่วนนโยบายทางการตลาดยังตั้งเป้าที่จะรุกสู่ตลาดในอาเซียน ซึ่งทางบริษัทได้พยายามเพิ่มศักยภาพบุคลากรในประเทศไทยและตั้งไทยเป็นจุดศูนย์การในภูมิภาค โดยทางบริษัทมีทีมงานอยู่ที่ประเทศไทยอยู่แล้วจึงมีความพร้อมที่จะเสนอโครงการทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ทั้งนี้ นี้มองโอกาสในโครงการรถไฟความเร็วสูงที่ทางไทยได้ร่วมมือกับทางจีนและญี่ปุ่นนั้นขึ้นอยู่กับรายละเอียดของโครงการว่าทางรัฐบาลต้องการร่วมกับบริษัทต่างชาติหรือไม่ รวมถึงแผนธุรกิจเป็นอย่างไร ซึ่งหากเป็นโครงการที่สามารถดำเนอนงานร่วมกันได้ทางบริษัทก็มีในส่วนของระบบ Financial ที่จะสามารถสนับสนุนในส่วนของการดำเนินโครงการด้วย รวมถึงในส่วนที่จะทำการพัฒนาระบบเป็นไฟฟ้าทางบริษัทก็มีระบบที่รองรับอยู่แล้ว โดยปัจจุบันทางบริษัทก็มีสัญญาร่วมกับทาง BTS เกี่ยวกับการซ่อมบำรุงระยะเวลา 15 ปี และ BMCL ระยะเวลา 10 ปี
ส่วนเรื่องสิทธิเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวนั้น นายยอรก์เค่น ไอค์โคลต์ กล่าวว่า ทางบริษัทกำลังรอผลสรุประหว่างทาง BTS และทาง การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ม.)ว่าจะมีทิศทางในการดำเนินการอย่างไร เนื่องจากทางบริษัทมีความพร้อมที่จะเสนอตัวในการร่วมดำเนินโครงการดังกล่าว