- Details
- Category: คมนาคม
- Published: Saturday, 20 June 2015 09:05
- Hits: 3290
จี้รบ.เร่งปลด-ธงแดง บ.ทัวร์จ๊าก'บินไทย'ชี้กระทบ-เพิ่มเส้นทาง โดนบี้ตรวจยิบเดือนละ 50 หน รมต.คมนาคมงัด3แผนรับมือ
ท่องเที่ยวจ๊ากธงแดง บริษัททัวร์ผวาทรุดหนัก ชี้มีผลต่อภาพลักษณ์-ความเชื่อมั่นช่วงไฮซีซั่น พร้อมจับตาท่าทียุโรป-วอนเร่งแก้ไขที่ต้นตอ ด้านดีดีบินไทยจี้รัฐบาลเร่งปลดธงแดง หากล่าช้าหวั่นการบินมีความเสี่ยง เหตุถูกห้ามเพิ่มเที่ยวบิน-เส้นทางบิน แถมยังถูกสุ่มตรวจเดือนละ 50 ครั้ง
ขณะที่แอร์เอเชียจับตานานาชาติ เตรียมเข้าถกคมนาคม ส่วนคมนาคมแถลงแจงไทยโดน ธงแดง ยันไม่ได้สอบตก แต่กำลังสอบใหม่อยู่ ชี้ไอเคโอพอใจส่งรมต.หารือ ระบุถูกปักธงแดงตั้งแต่เดือนก.พ. แต่ไม่ถูกเผยแพร่ต่อสาธารณะ เผยเวลาแก้ปัญหา 90 วันไม่พอ ยันไม่กระทบสายการบินของไทย เหตุมีไลเซนส์การบินประเทศอื่นอยู่แล้ว-ยังบินได้ปกติ สั่งเร่งทำแผนแก้ไข-ตรวจสอบการออกใบอนุญาตการบินใหม่-ปรับโครงสร้างองค์กร เตรียมส่งหนังสือเชิญไอเคโอ 9 ก.ย. คาดมาประเมินไทยในเดือนพ.ย.-ธ.ค. ปัดไปล็อบบี้ไอเคโอ ระบุสหรัฐเข้าใจ บิ๊กตู่เผยทุกอย่างเป็นไปตามเดิม ยังไม่มีประเทศใดห้ามบินเข้า
วันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 8970 ข่าวสดรายวัน
คมนาคมแจงโดนธงแดง
เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ที่กระทรวงคมนาคม พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม พร้อมนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม แถลงชี้แจงถึงกรณีองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอเคโอ) ปักธงแดงหน้าชื่อประเทศไทยในเว็บไซต์ ซึ่งถือเป็นการเผยแพร่สถานะธงแดงของไทยต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยพล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า ขณะนี้ได้รายงานปัญหาธงแดงให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับทราบแล้ว โดยพล.อ.ประยุทธ์ได้ให้กำลังใจในการแก้ไขปัญหาและบอกให้ใจเย็นในการแก้ปัญหาต่างๆ
ด้านนายอาคม กล่าวว่า จากการหารือกับประธานไอเคโอ แสดงความพอใจที่รัฐบาลไทยส่งบุคคลระดับรัฐมนตรีไปหารือ ซึ่งแสดงถึงความตั้งใจในการแก้ปัญหาข้อบกพร่องด้านการบินที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัย (เอสเอสซี) ของรัฐบาลไทย โดยไอเคโอยืนยันว่าแผนการแก้ไขปัญหาเอสเอสซีของไทยที่นำเสนอมีความเหมาะสม และมีรายละเอียดที่เชื่อมั่นว่าไทยจะแก้ปัญหาได้สำเร็จ ส่วนการปักธงแดงเผยแพร่ต่อสาธารณะนั้น ถือเป็นการทำตามแนวทางการปฏิบัติทั่วไปของไอเคโอ แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อสาธารณะ และไม่ได้ออกมาตรการจำกัดหรือควบคุมการบินกับสายการบินของไทย ขณะเดียวกันข้อมูลที่มีการเผยแพร่ก็เป็นข้อมูลเดิมที่ภาคีสมาชิกไอเคโอรับทราบก่อนหน้านี้อยู่แล้ว
"ความจริงไอเคโอปักธงแดงมาตั้งแต่ช่วงเดือนก.พ.ที่ผ่านมาแล้ว แต่เผยแพร่ให้ดูได้เฉพาะประเทศสมาชิกเท่านั้น แต่เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ซึ่งครบกำหนดประเมิน 90 วัน ไอเคโอก็ทำการประกาศให้สาธารณะรับทราบ โดยปักธงแดงเผยแพร่เป็นการสาธารณะ ซึ่งทุกคนสามารถเข้ามาดูได้ด้วย จากเดิมที่จะเห็นเฉพาะสมาชิก การปักธงแดงครั้งนี้ไม่ใช่ว่าเราแก้ไม่ทัน แต่ช่วงระยะเวลา 90 วันคือ ช่วงจัดทำแผน ไม่มีประเทศไหนสามารถใช้เวลาเพียงเท่านี้แก้ไขปัญหาทั้งหมดได้ เราไม่เคยบอกว่าจะแก้เอสเอสซีให้เสร็จใน 90 วันด้วย" รมช.คมนาคมกล่าว
ปัดสอบตก-แค่สอบใหม่
นายอาคม กล่าวอีกว่า การปักธงแดงจะยังอยู่จนกว่าไทยจะแก้ไขปัญหาเอสเอสซีแล้วเสร็จ ส่วนกรณีที่ระบุว่าไทยสอบตกหรือไม่นั้น ไม่อยากให้พูดว่าเราสอบตก เพราะขณะนี้เรากำลังสอบอยู่ ถ้าพูดว่าเราสอบตกก็คงจะเป็นเรื่องการติดธงแดงตั้งแต่ตอนแรก แต่ตอนนี้กำลังสอบใหม่อยู่
"ธงแดงไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับสายการบินของไทยเพิ่มเติม เพราะทั้งสายการบินแบบประจำ และเช่าเหมาลำที่มีไลเซนส์การบินในประเทศต่างๆ อยู่แล้ว ก็ยังทำการบินไปได้ตามปกติ แต่จะไม่สามารถขอขยายจำนวนเที่ยวบิน หรือขอเพิ่มเส้นทางการบินใหม่ๆ หากเรายังไม่สามารถปลดล็อกปัญหาเอสเอสซีได้" นายอาคมกล่าว
นายอาคม กล่าวถึงแผนการแก้ไขปัญหาเอสเอสซีว่า แบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือการจัดทำแผนแก้ไขเอสเอสซี การตรวจสอบการออกใบอนุญาตการทำการบินใหม่ (เอโอซี) และการปรับโครงสร้างองค์กร โดยในส่วนของการตรวจสอบใบอนุญาตการทำการบิน คาดจะเปิดให้สายการบินยื่นเอกสารเข้ามา เพื่อเข้าไปตรวจสอบใหม่ตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค. โดยน่าจะแล้วเสร็จประมาณกลางเดือนต.ค. เบื้องต้นจะเร่งตรวจสอบสายการบินขนาดใหญ่ที่มีจำนวนที่นั่งมากก่อน โดยไอเคโอยืนยันให้ไทยต้องตรวจเอโอซีให้ครบทั้ง 28 สายการบินก่อน จึงจะเดินทางเข้ามาประเมินไทยอีกครั้งว่าจะปลดล็อกเอสเอสซีหรือไม่
รอไอเคโอประเมินช่วงสิ้นปี
"ในวันที่ 9 ก.ย. ไทยเตรียมส่งหนังสือเชิญให้ไอเคโอ เข้ามาตรวจสอบซ้ำแล้ว คาดว่าไอเคโอจะเดินทางเข้ามาช่วงเดือนพ.ย.-ธ.ค. นี้ ส่วนจะใช้เวลาตรวจสอบนานและจะปลดล็อกเอสเอสซีหรือยกเลิกการปักธงแดงให้ไทยหรือไม่ เรากำหนดเองไม่ได้และตั้งเป้าหมายเองไม่ได้ เพราะคนที่กำหนดคือไอเคโอเท่านั้น เราตอบแทนไอเคโอไม่ได้ว่าใช้เวลานานไหม แต่สำหรับไทยคิดว่าคงต้องใช้เวลานานพอสมควร เพราะมีจำนวนสายการบินมากกว่าประเทศอื่น" นายอาคมกล่าว
ส่วนกรณีที่สื่อออกมาระบุว่าปัญหาการปักธงแดงของไอเคโอเกิดจากการระบบสื่อสารที่ผิดพลาดนั้น นายอาคมกล่าวยืนยันว่า ไม่มีเรื่องการสื่อสารที่ผิดพลาดเกิดขึ้นแน่นอน เพราะไอเคโอไม่ได้ประกาศมาตรการอะไรเพิ่มเติมจากเดิมที่มีอยู่แล้ว ที่ผ่านมาไม่เคยบอกว่าจะไปขอไม่ให้ติดธงแดง
นายอาคม กล่าวต่อว่า สำหรับผลหารือกับองค์กรบริหารการบินแห่งสหรัฐอเมริกา (เอฟเอเอ) นั้น ทางเอฟเอเอมองว่าอุตสาหกรรมการบินไทยเติบโตแบบรวดเร็วมาก และเข้าใจว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้กรมการบินพลเรือน ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับกับดูแลความปลอดภัยด้านการบินของไทยโตไม่สอดคล้องกัน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะถูกสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) จำกัดอัตรากำลัง ทำให้กำกับไม่ทั่วถึง และยืนยันว่าจะไม่นำปัญหาเอสเอสซีของไอเคโอมาเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาตัดสินจัดลำดับความปลอดภัยด้านการบินของประเทศไทย แต่จะประเมินจากข้อมูลภายในของเอฟเอเอเองเท่านั้น รวมทั้งเตรียมพัฒนาความร่วมมือด้านเทคนิคร่วมกับไทย แต่ยืนยันว่าจะเดินทางเข้ามาตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินของประเทศไทยระหว่างวันที่ 13-19 ก.ค.
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า ได้รับการชี้แจงจากนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ ที่เดินทางกลับมาจากประเทศเยอรมันแล้วว่าทุกอย่างเป็นไปตามเดิม โดยมีการปักธงแดงอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่ได้เผยแพร่ออกผ่านเว็บไซต์ จากนั้นได้รับการชี้แจงว่ามีความจำเป็นที่ต้องเสนอออกมา แต่ขณะนี้ก็ไม่มีประเทศใดห้ามการบินของเรา และโดยลึกๆ มีการพบปะกับเจ้าหน้าที่ขององค์กรเหล่านี้แล้ว เขาบอกว่าจำเป็นและเห็นใจ รวมทั้งเข้าใจในเจตนารมณ์ของเรา ตนให้ความสำคัญในเรื่องนี้โดยให้รมช.คมนาคมไปชี้แจงกับเขาโดยตรง
บินไทยจี้รบ.เร่งปลดธง
วันเดียวกัน นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ต้องการให้กระทรวงคมนาคมเร่งแก้ไขเอสเอสซีโดยเร็ว เพื่อให้ไอเคโอปลดล็อกและปลดสัญลักษณ์ธงแดงออกจากสถานะของประเทศไทยโดยเร็ว เพราะหากยิ่งล่าช้าจะเกิดความเสี่ยงเรื่องการทำการบินมากขึ้น โดยสายการบินจากไทยไม่สามารถเพิ่มเที่ยวบิน เพิ่มจุดบินได้เลยจนกว่าจะปลดธงแดง นอกจากนี้สายการบินที่ได้รับอนุญาตทำการบินจะถูกสุ่มตรวจมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินในแต่ละเที่ยวบินที่จะทำการบินขึ้น-ลง ในประเทศต่างๆ มากขึ้นด้วย ขณะนี้การบินไทยได้รับผลกระทบส่วนนี้แล้ว โดยปกติจะถูกสุ่มตรวจมาตรฐานจากปลายทางเฉลี่ยเดือนละ 3 ครั้ง แต่ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันถูกสุ่มตรวจเฉลี่ยเดือนละ 50 ครั้ง ดังนั้นรัฐบาลต้องเร่งปลดสถานะธงแดงให้เร็วที่สุด
แอร์เอเชีย จับตานานาชาติ
ส่วนนายนัดดา บุรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ กล่าวว่า หลังไอเคโอปักธงแดงประเทศไทย ในส่วนของสายการบินคงต้องใช้เวลา 3-4 วัน ประเมินผลกระทบและแผนดำเนินงานว่าต้องปรับอย่างไร เบื้องต้นมองว่าแต่ละประเทศมีมาตรการด้านการบินกับสายการบินจากไทยไปก่อนหน้านี้แล้ว คงไม่เปลี่ยน แปลงไปมาก ทั้งญี่ปุ่นและเกาหลี แต่สำหรับประเทศอื่นต้องจับตามองว่าจะมีมาตรการใดกับสายการบินจากไทยหรือไม่ และสายการบินจะได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใด นอกจากนี้ เห็นว่าเป็นหน้าที่ของแต่ละสายการบินที่ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้เห็นว่าสายการบินของตนเป็นไปตามมาตรฐานสากล โดยเตรียมข้อเสนอต่างๆ เพื่อเข้าหารือกับกระทรวงคมนาคมด้วย
ขณะที่นายเดวิด ศรีชัยอุดม ประธานกรรมการ ผู้อำนวยการใหญ่ (ซีอีโอ) บริษัท การบินเอเชียน จำกัด ผู้ให้บริการสายการบินเอเชียนแอร์แบบเช่าเหมาลำ กล่าวว่า ผลกระทบจากการที่ไทยโดนประกาศธงแดง จะส่งผลกระทบต่อสายการบินคือ ไม่สามารถขอเพิ่มเส้นทางบิน เพิ่มเที่ยวบิน จึงส่งผลต่อการประกอบการแน่นอน แต่สายการบินต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลง และทำให้ตลาดที่ทำการบินยังคงอยู่ ซึ่งเดิมแผนของบริษัทมีแผนเพิ่มเที่ยวบินในเมืองต่างๆ เช่น ญี่ปุ่น ยุโรป เป็นต้น แต่ตอนนี้มีข้อจำกัดมากขึ้น
ผวาบริษัททัวร์ทรุดหนัก
สำหรับ ภาคการท่องเที่ยว นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า ต้องจับตาดูแต่ละประเทศว่าจะมีท่าทีต่อสายการบินจากไทยอย่างไร โดยในส่วนของธุรกิจนำชาวต่างชาติเดินทางมาไทย ตามปกติใช้บริการขนส่งนักท่องเที่ยวผ่านสายการบินที่เป็นสัญชาติไทยราว 20 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือเป็นการเลือกใช้สายการบินต่างประเทศ ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการประกาศดังกล่าว ส่วนกรณีที่กังวลว่าจะกระทบต่อประเทศในกลุ่มยุโรปนั้น เบื้องต้นธุรกิจท่องเที่ยวไม่เป็นห่วงมากนัก เพราะเชื่อว่าด้วยศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของไทยที่มีขนาดใหญ่ และติดกลุ่มผู้นำของโลกไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ายุโรป อีกทั้งที่ผ่านมามีการแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวในจำนวนมาก ดังนั้นยังเชื่อว่าหน่วยงานที่กำกับดูแลการบินจากยุโรปจะไม่มีมาตรการใดๆ ที่สร้างผล กระทบรุนแรงต่อธุรกิจการบินของไทย ซึ่งปฏิบัติตามมาตรฐานและได้รับการยอมรับที่ดีมาตลอด แต่ก็ยังไม่ต้องการให้นิ่งนอนใจและควรเร่งแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ เพราะมีผลโดยตรงต่อความเชื่อมั่นและเป้าหมาย
"ยอมรับว่า เป็นห่วงในเรื่องกรอบระยะเวลาแก้ไขปัญหาที่กรมการบินพลเรือนระบุว่าจะแล้วเสร็จในช่วงเดือนต.ค. เนื่องจากกระชั้นชิดกับฤดูกาลท่องเที่ยว 3 เดือนสุดท้าย และหากถึงกำหนดเวลาแล้วไม่สามารถดำเนินการได้ทันหรือล่าช้าไปอีก จะเป็นผล กระทบกับช่วงไฮซีซั่นที่เป็นความหวังของการท่องเที่ยวแน่นอน" นายเจริญกล่าว
นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร ที่ปรึกษาแอตต้า กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวส่งผลต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยแน่นอน และต้องรับสภาพ รวมถึงเร่งแก้ไขมาตรฐานอย่างเร่งด่วนก่อนจะลามไปยังประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะยุโรป ตอนนี้อาจเกิดความวุ่นวายบ้าง หลังจากไทยได้รับการปักธงแดงและผลกระทบน่าจะตกไปอยู่กับบริษัททัวร์ การท่องเที่ยวขาออก ที่เน้นใช้ชาร์เตอร์ไฟลต์ เพื่อทำราคาแพ็กเกจให้ถูกจูงใจลูกค้า แต่เชื่อว่าบริษัททัวร์สามารถรับมือได้และปรับแผนรับมือไว้แล้ว
ประยุทธ์นิ่ง-ประจินเครียด! ยอมรับสภาพสอบตกการบิน สั่งเฝ้าระวังถูกตอบโต้จากนานาชาติ
มติชนออนไลน์ : วันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เวลา 08:23:41 น.
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยกรณีองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอซีเอโอ หรือไอเคโอ) ปักธงแดงหน้าชื่อประเทศไทยบนเว็บไซต์ของไอเคโอ ในหมวดการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบิน ภายหลังจากก่อนหน้านี้ไอเคโอได้ตรวจสอบกรมการบินพลเรือน (บพ.) ของไทยแล้วพบข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญ (เอสเอสซี) ความปลอดภัยด้านการบิน และให้เร่งดำเนินการแก้ไขภายใน 90 วัน ซึ่งครบกำหนดวันที่ 18 มิถุนายน 2558 ว่าเป็นการสอบตก เฉพาะเรื่องการออกใบอนุญาตการบิน (เอโอซี) และคงต้องรับสภาพกับสิ่งที่เกิดขึ้น หลังจากนี้ต้องเดินหน้าแก้ไขเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน โดยจะนัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันที่ 22 มิถุนายนนี้ ก่อนจัดแถลงข่าวอีกครั้ง
"ก่อนหน้านี้ที่ออกมาระบุว่าไอเคโอจะไม่ประกาศผลต่อสาธารณะนั้น ยอมรับว่าอาจเป็นการสื่อสารผิดพลาดระหว่างผมกับนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ที่เป็นตัวแทนเดินทางไปพบหารือกับประธานไอเคโอ ที่เมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา และได้ส่งสรุปผลการหารือมาให้ผมรับทราบ โดยระบุว่าหลังครบกำหนด 90 วัน ไอเคโอจะไม่มีมาตรการอะไรเพิ่ม แต่ยังคงเอสเอสซีไว้เหมือนเดิมจนกว่าจะทำตามแผนแล้วเสร็จ ซึ่งหมายถึงว่าทางไอเคโอจะไม่มีการประกาศต่อสาธารณะ แต่สาธารณะจะเห็นสถานะของเอสเอสซีเท่านั้น" พล.อ.อ.ประจินกล่าว
พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า การปักธงแดงแสดงว่าการหารือระหว่างประธานไอเคโอกับนายอาคมไม่ได้สอดคล้องในทางปฏิบัติที่เกิดขึ้น ส่วนที่เข้าใจกันว่าไอเคโอจะไม่ประกาศสู่สาธารณะนั่นคือการชะลอหรือไม่ ปักธงแดงหรือไม่นั้น ยังงงว่าการปักธงคือการประกาศสาธารณะหรือไม่ ขอตรวจสอบก่อน โดยมอบหมายให้นางปาริชาต คชรัตน์ รักษาการอธิบดี บพ. ติดต่อไปที่นายอาคมว่าตกลงในการหารือกันนั้นสรุปว่าอย่างไรแน่
"วันนี้ผลคือถูกปักธงแดง ก็ต้องยอมรับว่าเราสอบตก เราเป็นนักเรียนสอบตกก็ต้องรับสภาพ แต่เป็นการปักธงแดงเฉพาะเรื่องเอโอซี เขาบอกว่าจะไม่ลงเว็บไซต์ เราเข้าใจว่าจะไม่ประกาศสาธารณะ แต่ตอนนี้เป็นอย่างไร ก็ต้องมาดูอีกทีว่าจะแก้ไขอย่างไร" พล.อ.อ.ประจิน กล่าว
พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้ไทยสอบตกและถูกปักธงแดง เนื่องจากไทยยังไม่สามารถจัดทำคู่มือการตรวจสอบการออกใบอนุญาตการบินเสร็จทันกำหนด และได้ส่งข้อความรายงานสถานการณ์เบื้องต้นให้นายกรัฐมนตรีรับทราบแล้ว แต่ทางนายกฯยังไม่ได้สอบถามข้อมูลกลับมาเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังแจ้งให้สายการบินไทยของไทยเฝ้าระวังว่าแต่ละประเทศจะมีมาตรการตอบโต้ออกมาเพิ่มเติมหรือไม่และให้รีบรายงานมาที่กระทรวงคมนาคมเพื่อหาแนวทางรับมือต่อไปทั้งนี้ยอมรับว่ารู้สึกเครียดกับปัญหาที่เกิดขึ้น แต่จะเดินหน้าแก้ปัญหาต่อไป
พล.อ.อ.ประจินกล่าวถึงการปักธงแดงจะมีผลกระทบต่อการสั่งห้ามบินเข้า-ออกประเทศใดหรือไม่ว่า ถือเป็นอำนาจของรัฐเจ้าบ้านแต่ละประเทศ แต่ส่วนใหญ่คงดูแนวโน้มของไอเคโอ ในขณะที่สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหภาพยุโรป (เอียซ่า) เองก็เคยแจ้งแล้วว่า จะประกาศท่าทีต่อประเทศไทยในวันที่ 25 มิถุนายนนี้
"การเตรียมแผนสำรองได้จัดทำไว้แล้วอยู่ในแผนการแก้ไขข้อบกพร่อง และยังได้มอบหมายให้แต่ละสายการบินเตรียมจัดทำแผนสำรองของตัวเองด้วย" พล.อ.อ.ประจินกล่าว และว่า ส่วนเรื่องการเดินสายทำความเข้าใจกับประเทศอื่นๆ นั้น ที่ผ่านมาได้เดินสายทำความเข้าใจกับหลายประเทศแล้ว แต่จะให้ไปพูดคุยทั้ง 50 ประเทศ ภายในหนึ่งเดือนคงเป็นไปไม่ได้ ต้องรอดูผลที่เกิดขึ้นจากนี้ก่อน เพราะเมื่อไอเคโอประกาศออกมาแล้วก็ไม่มีประโยชน์ที่จะเดินทางไปพูดคุยอีก โดยยืนยันว่าแม้จะปักธงแดงแต่ก็ยังต้องเดินหน้าแก้ไขปัญหานี้ต่อ ไม่สามารถหมดกำลังใจได้
วันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 8969 ข่าวสดรายวัน
'ไอเคโอ'ชักธงแดง การบินไทยวุ่น-จำปีไม่หวั่น ยันเครื่องได้มาตรฐาน ชี้เป็นแค่ปัญหาของบพ. 'บิ๊กจิน'ยอมรับสอบตก ลุ้นอีก 25 มิย.-ท่าทียุโรป
สายการบินของไทยป่วน ไอเคโอปักธงแดง "บิ๊กจิน"ยอมรับสอบตก เหตุแก้ปัญหาออกใบอนุญาตการบินไม่เสร็จใน 90 วัน ระบุส่งรมช.คมนาคมไปเจรจาแล้ว แต่สุดท้ายยังติดธงแดง รู้สึกงงๆ-เครียดมาก ยันเร่งตรวจสอบการออกใบอนุญาตทำการบินใหม่แล้ว แถมปรับโครงสร้างองค์กร-เปลี่ยนผู้บริหาร ชี้ปัญหาสะสมมานาน ระบุเป็นอำนาจแต่ละประเทศพิจารณา แต่สั่งสายการบินของไทยเฝ้าระวังการตอบโต้ ลุ้น 25 มิ.ย. ยุโรปประกาศท่าที เผยรายงาน "บิ๊กตู่" แล้ว ชงแผนปรับโครงสร้างองค์กรต่อคสช. นัดถกด่วน 22 มิ.ย. ส่วน 13 ก.ค.สหรัฐเข้าตรวจสอบ ด้านดีดีบินไทยแจงธงแดงเป็นเรื่องของกรมการบินพลเรือนไทย ไม่เกี่ยวสายการบิน-เครื่องบิน-สนามบิน ยันมีมาตรฐานความปลอดภัย ขณะที่ไทยแอร์เอเชียปัดญี่ปุ่นสั่งระงับบิน 15 วัน ส่วนท่องเที่ยวจ่อใช้บินต่างชาติแทน จับตาท่าทีหลายประเทศ สื่อนอกตีข่าวไทยติดธงแดง
ไอเคโอปักธงแดงไทย
เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงกรณีองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ(ไอเคโอ) ขึ้นตราสัญลักษณ์ธงสีแดงบนหน้าชื่อประเทศไทยในเว็บไซต์ของไอเคโอ ซึ่งเป็นวันครบกำหนดที่ไทยต้องแก้ไขปัญหาข้อบกพร่องด้านการบินที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัย(เอสเอสซี) ให้แล้วเสร็จภายใน 90 วันตามกรอบที่ไอเคโอกำหนดว่า เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม เป็นหัวหน้าคณะฝ่ายไทยเดินทางไปหารือกับประธานไอเคโอ ที่แคนาดา โดยนายอาคมได้รายงานผลการหารือมายังตนผ่านเอสเอ็มเอส มือถือว่า ไอเคโอรับปากจะคงสถานภาพ เอสเอสซีของไทยไว้ตามกติกา และจะไม่นำข้อมูลความบกพร่องของไทยเผยแพร่ออกสู่สาธารณชนผ่านทางเว็บไซต์ของไอเคโอ แต่เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ไอเคโอกลับปักธงแดงประเทศไทยเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ แสดงว่าประธานไอเคโอปฏิบัติไม่สอดคล้องกับที่พูดคุยไว้กับนายอาคม
"ผมรู้สึกงงว่าเกิดอะไรขึ้น ยอมรับว่าขณะนี้มีความผิดพลาดในการสื่อสารเกิดขึ้น แต่จะสื่อสารผิดพลาดระหว่างผมกับรมช.อาคม หรือระหว่างรมช.อาคมกับประธานไอเคโอกำลังตรวจสอบอยู่ มอบหมายให้นางปริชาติ คชรัตน์ รักษาการอธิบดีกรมการบินพลเรือน (บพ.) ติดต่อไปยังรมช.อาคม ซึ่งกำลังปฏิบัติภารกิจราชการในต่างประเทศ เพื่อสอบถามว่าไอเคโอพูดอย่างไรแน่ เพราะการที่ไอเอโคปักธงแดงประเทศไทยในเว็บไซต์เหมือนกับประกาศต่อสาธารณะว่าไทยยังมีปัญหาเรื่องการแก้ไขการออกใบอนุญาตการบิน(เอโอซี) โดยจะนัดทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องประชุมด่วนวันจันทร์ที่ 22 มิ.ย. และจะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนต่อไป" พล.อ.อ.ประจินกล่าว
บิ๊กจิน ยอมรับสอบตก
พล.อ.อ.ประจินกล่าวอีกว่า การที่ไอเคโอปักธงแดงประเทศไทย ต้องยอมรับว่าเราเป็นนักเรียนสอบตก ซึ่งก็ต้องรับสภาพ แต่ยังงงว่าทำไมถูกปักธงแดงเรื่องเอโอซี เพราะที่ผ่านมาฝ่ายไทยแก้ไขปัญหาเต็มที่ ด้วยการปรับโครงสร้างองค์กร เปลี่ยนตัวผู้บริหาร จัดทำคู่มือตรวจสอบการออกใบอนุญาตสายการบินใหม่ ที่ผ่านมาไทยพยายามขอเวลาแก้ไขปัญหา ตั้งเป้าที่จะตรวจสอบการออกใบอนุญาตทำการบินใหม่ให้แล้วเสร็จภายในเดือนต.ค. แต่ไอเคโอก็ให้ธงแดงไปก่อน เรื่องนี้ไทยคงไม่มีอำนาจต่อรองอะไร ก็ต้องยอมรับสภาพว่าทำไม่สำเร็จ คงต้องไปตีความกันเอาเองว่าเราทำงานล้มเหลวหรือไม่ แต่ยอมรับว่าเราทำไม่สำเร็จภายใน 90 วันตามที่ไอเคโอกำหนด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะปัญหาที่สะสมมานาน มีหลายปัจจัยมาเกี่ยวข้องและเป็นเรื่องที่มีความซับซ้อน แต่ยืนยันว่าจะเดินหน้าแก้ไขปัญหาอย่างรอบคอบ
พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้ไทยสอบตกและถูกธงแดงมาตรการบินในส่วนการออกใบอนุญาตการบินนั้น เนื่องจากไทยไม่สามารถจัดทำคู่มือการตรวจสอบการออกใบอนุญาตการบินเสร็จทันกำหนด ซึ่งเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ระดับฝ่ายปฏิบัติและไม่สามารถมอบหมายให้ใครทำแทนได้ ขณะนี้ตนได้ส่งข้อความรายงานสถานการณ์เบื้องต้นให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ รับทราบแล้ว แต่พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่ได้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกลับมา นอกจากนี้ยังแจ้งให้สายการบินไทยของไทยเฝ้าระวังว่าแต่ละประเทศจะมีมาตรการตอบโต้ออกมาเพิ่มเติมหรือไม่ และให้รีบรายงานมาที่กระทรวงคมนาคม เพื่อหาแนวทางรับมือ ซึ่งตอนนี้ยอมรับว่ารู้สึกเครียดกับปัญหาที่เกิดขึ้น แต่จะเดินหน้าแก้ปัญหาต่อไป
ลุ้นท่าทียุโรป 25 มิ.ย.นี้
รมว.คมมาคมกล่าวต่อว่า ส่วนผลกระทบห้ามทำการบินเข้าไปยังประเทศต่างๆ นั้น ขณะนี้ยังตอบไม่ได้ว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ เพราะเป็นอำนาจที่แต่ละประเทศจะพิจารณา แต่หากเกิดขึ้นจริงคิดว่าจะเป็นลักษณะค่อยเป็นค่อยไป เบื้องต้นแต่ละประเทศจะยึดตามมาตรฐานของไอเคโอเป็นหลัก โดยขณะนี้แต่ละประเทศอาจอยู่ระหว่างการตรวจสอบท่าทีไอเคโอว่าจะมีมาตรการอย่างไรกับไทย นอกจากนี้ ยังต้องรอฟังท่าทีจากสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหภาพยุโรป (เอียซ่า) ที่จะประกาศท่าทีเรื่องทำการบินต่อประเทศไทยในวันที่ 25 มิ.ย.นี้ ว่าจะส่งผล กระทบอย่างไร ซึ่งเอียซ่าก็คงรอฟังท่าทีจาก ไอเคโอก่อน ระหว่างนี้ไทยต้องทำความเข้าใจกับประเทศต่างๆ ด้วย
พล.อ.อ.ประจินกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการเตรียมแผนสำรองได้จัดทำไว้แล้ว ซึ่งอยู่ในแผนแก้ไขข้อบกพร่อง เพราะเรื่องนี้คิดมานานแล้วว่าในแผนแก้ไขข้อบกพร้องต้องระบุทั้งแผนหลักและแผนสำรอง และยังมอบหมายให้แต่ละสายการบินเตรียมจัดทำแผนสำรองของตัวเองด้วย โดยรายละเอียดดังกล่าวดำเนินการแล้วเสร็จ ขณะเดียวกันเตรียมเสนอแผนปรับโครงสร้างองค์กรต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ซึ่งการแก้ไขปัญหานี้รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นเรื่องระดับชาติที่พล.อ.ประยุทธ์เข้ามาดูแลในเรื่องนี้ด้วย
รอสหรัฐเข้าตรวจสอบ
"ที่ผ่านมาทำความเข้าใจกับหลายประเทศแล้ว แต่จะให้ไปพูดคุยทั้ง 50 ประเทศภายใน 1 เดือนคงเป็นไปไม่ได้ ต้องรอดูผลที่เกิดขึ้นจากนี้ก่อน เพราะเมื่อไอเคโอประกาศออกมาแล้วก็ไม่มีประโยชน์ที่จะเดินทางไปพูดคุยอีก ส่วนเรื่องของแผนสำรองเตรียมไว้ในแผนการแก้ไขข้อบกพร่องอยู่แล้ว ก็พร้อมจะนำมาดำเนินการได้ทันที โดยย้ำว่าแม้ขณะนี้จะถูกปักธงแดง แต่ยังต้องเดินหน้าแก้ไขปัญหานี้ต่อไปและไม่สามารถหมดกำลังใจได้" พล.อ.อ.ประจินกล่าว
แหล่งข่าวจากกรมการบินพลเรือนระบุว่า กรณีการปักธงแดงเป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ เพราะไอเคโอไม่สามารถยกเว้นการปฏิบัติกับประเทศใดประเทศหนึ่งได้ แต่ที่ผ่านมาฝ่ายไทยส่งทีมไปเจรจากับหลายประเทศถึงความพยายามและให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง ในความเป็นจริงฝ่ายไทยได้ดำเนินการแก้ไขตามที่ไอเคโอกำหนดและมีความคืบหน้าไปมาก ทั้งการจัดทำคู่มือใหม่ การเพิ่มบุคลากรต่างๆ แต่ขั้นตอนดำเนินการยังไม่เสร็จสมบูรณ์ โดยเฉพาะการตรวจสอบและออกใบอนุญาตสายการบินใหม่ ซึ่งต้องใช้เวลา จึงส่งผลให้ประเทศไทยยังถือว่าไม่ได้รับการปลดล็อกจากเอสเอสซี
แหล่งข่าวจากกรมการบินพลเรือนเผยต่อว่า สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนี้จะไม่เลวร้ายไปมากกว่าก่อนหน้านี้ที่ประเทศไทยได้รับผลกระทบตั้งแต่ก.พ.ที่ผ่านมา สิ่งที่ต้องจับตามองจากนี้คือ ท่าทีของเอียซ่าและการเข้ามาตรวจสอบของสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา(เอฟเอเอ) ที่มีกำหนดจะเข้ามาตรวจสอบกรมการบินพลเรือนของไทยวันที่ 13 ก.ค.นี้ แต่เชื่อมั่นจะไม่ส่งผลถึงขั้นที่เอียซ่าหรือเอฟเอเอจะประกาศห้ามสายการบินของไทยบินเข้าออก เพราะไทยมีเพียงสายการบินไทย ซึ่งถือว่ามีมาตรฐานสูง โดยทั้งยุโรปและสหรัฐอเมริกามีการตรวจสอบตลอดเวลา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 19 มิ.ย.ที่กระทรวงคมนาคม นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม เตรียมแถลงถึงความคืบหน้ากรณีที่ไอเคโอประกาศธงแดงกับไทย พร้อมมาตรการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
ดีดีบินไทยยันมีมาตรฐาน
ด้านนายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การให้ธงแดงเป็นการแสดงว่ากรมการบินพลเรือนของไทยยังกำกับดูแลด้านความปลอดภัยที่ไม่เพียงพอตามมาตรฐาน แต่ไม่ได้หมายความว่าการบริการเดินอากาศ สายการบิน เครื่องบินและสนามบินของประเทศไทยมีข้อบกพร่อง หรือไม่ได้มาตรฐานด้านความปลอดภัย ส่วนการบินไทยยังคงรักษามาตรฐานด้านความปลอดภัยในระดับสูงมาตลอด และได้รับรองมาตรฐานสากลจากองค์กรด้านความปลอดภัยการบินของประเทศต่างๆ
นายจรัมพร กล่าวอีกว่า ตั้งแต่วันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา ประเทศต่างๆ ได้รับทราบถึงกรณีไอเคโอพบข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญของกรมการบินพลเรือนของไทย และประเทศต่างๆ ได้เพิ่มการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยของการปฏิบัติการบินในทุกด้านของการบินไทยและผลการตรวจสอบอยู่ในเกณฑ์ดี ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าการบินไทยยังคงรักษามาตรฐานด้านความปลอดภัยสูงสุด
แอร์เอเชียปัดยุ่นระงับบิน
ขณะที่นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารไทยแอร์เอเชีย ปฏิเสธกระแสข่าวที่ว่าสายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ถูกญี่ปุ่นสั่งระงับการบินภายใน 15 วัน หลังจากมีข่าวว่าไอเคโอประกาศปักธงแดงประเทศไทยว่า ไม่เป็นความจริงและยืนยันยังทำการบินได้ตามปกติ ไม่มีการสั่งระงับห้ามหรือลดเที่ยวบินใดๆ
นายชัยรัตน์ แสงจันทร์ กรรมการผู้จัดการ สายการบินเจ็ท เอเชีย เปิดเผยว่า กรณีที่ไทยถูกปักธงแดงแล้วคงต้องรอดูว่าประเทศต่างๆ จะใช้นโยบายอย่างไรกับไทย แต่เบื้องต้นภาครัฐและเอกชนไทยคงต้องรีบชี้แจงว่าสายการบินของไทยได้มาตรฐานอย่างไรบ้าง เพื่อทำความเข้าใจกับต่างชาติ และในกรณีที่ประเทศคู่ค้าไม่มั่นใจก็ต้องเปิดให้ส่งทีมงานมาตรวจสอบกรมการบินพลเรือนและสายการบินของไทยเพื่อเพิ่มความมั่นใจ สำหรับเจ็ท เอเชีย ยังคงยืนหยัดนโยบายบินตามเที่ยวบินประจำเดิมที่มีอยู่แล้วไปก่อน ส่วนเที่ยวบินใหม่ก็ต้องรอดูท่าทีแต่ละประเทศ เบื้องต้นมีแผนจะทำเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลต์) ไปยังประเทศที่ยังไม่มีมาตรการใดๆ ออกมากับไทย พื้นที่ที่มองไว้คือ ตะวันออกกลาง
แจงผลกระทบธงแดง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประกาศธงแดงเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยของไอซีเอโอ อาจส่งผลกระทบต่อการทำการบินของสายการบินของไทยที่ทำการบินไปในเส้นทางระหว่างประเทศ เนื่องจากกรมการบินพลเรือนในประเทศต่างๆ อาจไม่เชื่อมั่นในระบบความปลอดภัยด้านการบินของสายการบินไทย และอาจออกมาตรการคุ้มครอง ผู้โดยสารภายในประเทศ เช่น การออกมาตรการจำกัดเที่ยวบิน ขนาดของเครื่องบินของสายการบินจากไทยที่จะบินเข้าประเทศ เพื่อลดความถี่ในการทำการบินสำหรับสายการบินที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งขั้นร้ายแรงที่สุดอาจสั่งห้ามไม่ให้สายการบินจากประเทศไทยบินเข้าประเทศ เพราะไม่มั่นใจในมาตรฐานความปลอดภัย
นอกจากนี้ ยังอาจทำให้เกิดปัญหาเที่ยวบินดีเลย์หรือล่าช้า เนื่องจากประเทศต่างๆ จะออกมาตรการสุ่มตรวจ ตรวจสอบความปลอดภัยตัวเครื่องบิน อุปกรณ์บนเครื่องบิน มาตรฐานนักบิน ลูกเรือ บริเวณลานจอดเครื่องบินด้วย ซึ่งจะทำให้เสียเวลาในขั้นตอนการตรวจสอบและอาจส่งผลกระทบทำให้เที่ยวบินล่าช้า ซึ่งจากกรณีที่ไอเคโอตรวจพบปัญหา เอสเอสซีการบินของกรมการบินพลเรือนไทยในครั้งแรกนั้น บริษัทการบินไทย ออกมายอมรับว่ากรมการบินพลเรือนของทุกประเทศที่เป็นปลายทางได้ปรับเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบ มาตรฐานการบริการที่ต้องปฏิบัติเกี่ยวกับอากาศยานหรือธุรกิจการเดินอากาศ บริเวณลานจอดอากาศยานมากขึ้นจากเดิม 4 เท่า โดยตั้งแต่เดือนมี.ค.ที่ผ่านมาเครื่องบินของการบินไทยถูกสุ่มตรวจมาตรฐานเดือนละ 20 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ถูกสุ่มตรวจเพียงเดือนละ 5 เที่ยวบิน ซึ่งในระยะยาวอาจจะกระทบกับการท่องเที่ยวทั้งขาเข้าและขาออก และอาจกระทบกับเป้าหมาย 2.3 ล้านล้านบาทในปีหน้าได้
ในระยะยาวยังส่งผลกระทบต่อความนิยมของลูกค้า และส่งผลเสียต่อความสามารถในการแข่งขันของสายการบิน เนื่องจากทำให้ต้นทุนการดำเนินงานสูงขึ้นและจำกัดโอกาสในการขยายและส่งผลกระทบต่อสถานะทางการเงิน อาจได้รับผลกระทบดังที่ปรากฏในกรณีสายการบินฟิลิปปินส์ที่รายได้เติบโตในอัตราเฉลี่ยสะสมเพียง 0.3%ต่อปี ในระหว่างปี 2008-2013 ที่ถูกปรับลดอันดับความปลอดภัย นอกจากนี้ ผลกำไรของสายการบินอาจลดลงจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนการดำเนินงาน อัตราค่าเช่าเครื่องบิน และเบี้ยประกัน ตลอดจนเงื่อนไขการซ่อมบำรุงที่มีความเข้มงวดมากขึ้นอีกด้วย
หุ้นท่าอากาศยานไทยร่วง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาวะการซื้อขายหุ้นเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า ปิดตลาด 1,508.04 จุด ลดลง 6.75 จุด หรือ 0.45% มูลค่าการซื้อขาย 40,625.08 ล้านบาท โดยพบว่าตลาดหุ้นไทยร่วงลงตามธุรกิจขนส่งทางอากาศ นำโดยบริษัทท่าอากาศยานไทยที่ร่วงหนัก โดยดัชนีหุ้นไทยลดลง 6.75 จุด หรือ 0.45% ดัชนีปิดที่ 1,508.04 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 40,625.08 ล้านบาท ดัชนีเคลื่อนไหวระหว่าง 1,506.57-1,518.44 จุด
นักวิเคราะห์ในตลาดกล่าวว่า แรงขายหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวขนาดใหญ่ อย่าง AOT AAV CENTEL MINT กดดันตลาด หลังไอเคโอประกาศธงแดงไทย
ท่องเที่ยวจ่อใช้บินต่างชาติ
ส่วนนายศุภฤกษ์ ศูรางกูร นายกสมาคมไทยบริการการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) เปิดเผยว่า การประกาศธงแดงเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยของไอเคโอจะส่งผลกระทบกับการพิจารณาอนุญาตของกรมการบินพลเรือนแต่ละประเทศที่จะอนุญาตให้ชาร์เตอร์ไฟลต์ไทยบินเข้าเป็นอย่างมาก ซึ่งในระยะยาวอาจกระทบกับการท่องเที่ยวทั้งขาเข้าและขาออก และอาจกระทบกับเป้าหมาย 2.3 ล้านล้านบาทในปีหน้าได้ เพราะสายการบินไทยเป็นหนึ่งในสายการบินของไทยด้วย ดังนั้น ก็อาจจะรวมถึงความไม่ได้มาตรฐานและทำให้ความเชื่อมั่นลดลง
"การประกาศแจ้งของไอเคโอในครั้งนี้มองว่าผลที่ออกมาไม่เหนือความคาดหมาย เพราะไอเคโอไม่สามารถลดมาตรฐานให้ไทยได้ แต่อยู่ที่ว่าต่อไปแต่ละประเทศจะนำผลนี้ไปใช้ในระดับใด บางประเทศไม่เข้มข้นมาก อาจมีระยะเวลาให้ประเทศไทย หรือบางสายการบินที่มีมาตรฐานสูง ให้กรมการบินแต่ละประเทศเข้ามาตรวจสอบโดยตรง เพราะปัจจุบันแต่ละประเทศแข่งขันกันสูง ต่างหาทางรักษาผลประโยชน์ของตน" นายศุภฤกษ์กล่าวและว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการยังไม่ได้รับผลกระทบที่ชัดเจนเนื่องจากอยู่ในช่วงโลว์ซีซั่น ซึ่งต้องจับตาดูว่าจะมีผลกระทบอะไรมากกว่านี้หรือไม่ และหากมีก็อาจต้องปรับเปลี่ยนการทำตลาด เช่น เปลี่ยนไปใช้สายการบินสัญชาติอื่นแทนที่ไม่ใช่ของไทย
สื่อนอกตีข่าวมติไอเคโอ
สำหรับ บีบีซีรายงานว่า ไอเคโอติดธงแดงหรือลดระดับมาตรฐานการบินของไทย หลังจากองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศประกาศเตือนกรมการบินพลเรือนของไทย เหตุผู้ตรวจสอบด้านความปลอดภัยพบว่าหน่วยงานของไทยไม่สามารถตรวจสอบสายการบินของตนได้เพียงพอ ทำให้สายการบินจากไทยบางสายถูกห้ามไม่ให้นำเครื่องเข้าประเทศจีน ญี่ปุ่นและเกาหลี ซึ่งทางการไทยได้ยื่นแผนการแก้ไขข้อวิตกดังกล่าวแล้วตั้งแต่เดือนมี.ค. แต่ปรากฏว่ากรมการบินพลเรือนไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ภายใน 90 วัน ไอซีเอโอจึงต้องติดธงแดงเพื่อลดระดับ
โดยกรมการบินพลเรือนของไทยเป็น 1 ใน 12 หน่วยงานในประเทศกำลังพัฒนา เช่น เนปาล และเซียร์ร่าลีโอน ที่ถูกลดระดับจากกลุ่มที่ 1 ไปกลุ่มที่ 2 เพราะปัญหาด้านมาตรฐานความปลอดภัย
รมว.คมนาคม รับสื่อสารผิดพลาด หลัง ICAO ปักธงแดงไทย ติงการออกใบอนุญาต AOC ผ่านเว็บไซต์ เตรียมประชุม “อาคม” ถกข้อเท็จจริง 22 มิถุนายนนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีที่องค์การการบินระหว่างประเทศ (ICAO) ขึ้นธงแดงออนไลน์ประเทศไทยผ่านเว็บไซต์สาธารณะว่า ทั้งๆที่เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 58 ได้มีการประสานไปยัง นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และได้รับข้อความเกี่ยวกับผลของการเจรจาระหว่างทาง ICAO ซึ่งข้อมูลที่ได้มาระบุว่าทาง ICAO จะคงสถานภาพของไทยตามกฎในระหว่างการแก้ไขปัญหาข้อบกพร่องอย่างมีนัยยะสำคัญ (SSC) โดยจะไม่มีการประกาศขึ้นบนเว็บไซต์แจ้งแบบสาธารณะ พร้อมทั้งจะเป็นตัวกลางในการอธิบายกระบวนการแก้ไขปัญหาของไทยให้นานาประเทศทราบหากมีการสอบถาม ส่งผลให้ภาพรวมของการไปหารือ และแจ้งถึงกระบวนการแก้ไขปัญหาครั้งนี้เป็นไปได้ดี
แต่อย่างไรก็ดี ขณะนี้กลับพบว่าทางเว็บไซต์ของ ICAO ได้มีการติดธงแดงที่เป็นในส่วนการตรวจสอบใบอนุญาตการเดินอากาศ (AOC) โดยน่าจะเกิดจากข้อผิดพลาดในการสื่อสารระหว่างกัน ส่งผลให้ข้อมูลการเจรจาของประธาน ICAO และแนวทางปฏิบัติที่เกิดขึ้นไม่สอดคล้องกัน ซึ่งขณะนี้ได้มีการประสานไปยังนายอาคม เพื่อสอบถามความชัดเจนในการเจรจาอีกครั้งหนึ่ง ขณะที่ผลกระทบทางการบินนั้นยังมองว่าการประกาศธงแดงครั้งนี้จะยังไม่ส่งผลกระทบต่อการบินในเส้นทางต่างประเทศทันที เนื่องจากเรื่องของการอนุญาตทำการบินเป็นอำนาจของรัฐเจ้าบ้าน ซึ่งรัฐเจ้าบ้านที่เป็นสมาชิกก็คงจะรอดูแนวโน้มจากทาง ICAO ว่าจะมีมาตรการชัดเจนอย่างไรต่อไป
“หลังจากได้ข้อมูลการเจรจาที่ทางรัฐมนตรีช่วยชี้แจงกลับมามีรายละเอียดว่าทาง ICAO จะไม่มีมาตรการเพิ่มเติม หรือประกาศแบบพับบลิคบนเว็บไซต์หลังจากนี้อีก 90 วัน แต่จะยังคง SSC ไว้อยู่ ทำให้เข้าใจได้ว่าทาง ICAO จะให้เวลาทำงานกับไทย ซึ่งอาจเป็นการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน อย่างไรจากนี้คงต้องรอให้คณะทำงานที่เดินทางไปกลับมาในวันที่ 19 มิถุนายน และจะประชุมหารือกันในวันที่ 22 มิถุนายนนี้เพื่อทราบถึงข้อเท็จจริง แต่ถึงอย่างไรแนวทางแก้ไขปัญหาในตอนนี้คือการดำเนินงานตามแบบอย่างค่อยเป็นค่อยไป และต้องยอมรับสภาพว่าทำไม่สำเร็จตามกำหนด 90 วัน” พล.อ.อ.ประจิน กล่าว
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย