- Details
- Category: คมนาคม
- Published: Saturday, 13 June 2015 19:57
- Hits: 1995
'ประจิน'ปลุกผีปากบาราศึกษา 11 ด.
บ้านเมือง : พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือน้ำลึกปากบารา โดยประชุมร่วมกับรองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล และกรมเจ้าท่า (จท.) เพื่อหาข้อสรุปแผนดำเนินการโครงการดังกล่าว โดยที่ประชุมมอบหมายให้กรมเจ้าท่าตั้งคณะทำงาน คณะทำงานโครงการปฏิบัติการข่าวสาร เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาการคัดค้านโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือน้ำลึกปากบารา โดยจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ภายในเดือนสิงหาคม2558 และสำนักงานนโยบายและขนส่งและจราจร (สนข.) ศึกษาเพื่อประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมเชิงยุทธศาสตร์ (SEA) โดยกำหนดกรอบระยะเวลาดำเนินการ 11 เดือน เพื่อสรุปวัตถุประสงค์แนวทางที่ชัดเจน เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม สรุปปัญหา รวมถึงแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน
"ที่ประชุมได้มีการหารือถึงโครงก่อสร้างท่าเทียบเรือน้ำลึกปากบารา โดยมอบให้กรมเจ้าท่า และสำนักงานนโยบายและขนส่งและจราจร รวมถึงศึกษารายละเอียดทั้งหมดใหม่อีกครั้ง โดยให้ระยะเวลาดำเนินการ 11 เดือน เพื่อสรุปรายละเอียดทั้งหมด ทั้งนี้ หากได้ข้อสรุปแล้วจะนำมาสรุปแนวทางเพื่อดำเนินการอีกครั้ง ซึ่งระหว่างนี้จะไม่มีการก่อสร้างโครงการเกิดขึ้น แต่จะมีการทำการศึกษาทบทวน (EHIA) ที่กรมเจ้าท่าจะเป็นผู้ดำเนินการซึ่งจะได้มีการตั้งงบประมาณเบิกจ่ายปี 2559-2560 วงเงิน 120 ล้านบาท ควบคู่กับการศึกษาของคณะทำงาน โครงการปฏิบัติการข่าวสาร เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาการคัดค้านโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือน้ำลึกปากบารา และการศึกษาเพื่อประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมเชิงยุทธศาสตร์ (SEA) ซึ่ง สนข.จะเป็นผู้ดำเนินการโดยใช้งบประมาณกลางปี 2558 วงเงิน 50 ล้านบาท
ทั้งนี้ กรมเจ้าท่าจะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อลงพื้นที่ทำความเข้าใจร่วมกับประชาชนในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม หากได้ผลการศึกษาในส่วนของ EHIA สรุปเรียบร้อยแล้วจะต้องนำเสนอต่อสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) รวมถึงรายละเอียดผลการศึกษา เรื่องของสังคม สิ่งแวดล้อม เพื่อเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)เพื่อสรุปแนวทางดำเนินโครงการอีกครั้ง"ด้านนายจุฬา สุขมานพ อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) กล่าวถึงโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือน้ำลึกปากบารา ว่าจะต้องมีการศึกษารายละเอียดโครงการใหม่อีกครั้ง ซึ่งมีการประเมินวงเงินโครงการ 30,000 ล้านบาท โดยการก่อสร้างจะแบ่งเป็น 3 เฟส แต่เป็นราคาที่ประเมินไว้ตั้งแต่ปี 2550 แล้ว ทั้งนี้ หากรัฐบาลชุดปัจจุบันตัดสินใจที่จะลงทุนก่อสร้างก็ต้องปรับมูลค่าโครงการและผลตอบแทนใหม่หมด ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจต้องลดขนาดโครงการลงให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
รมว.คมนาคม สั่งศึกษาโครงการท่าเรือปากบาราเพิ่ม พร้อมตั้งคณะทำงานชี้แจง ลดกระแสต้าน
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เผยความคืบหน้าโครงการท่าเรือปากบารา จ.สตูล ว่า ที่ประชุมแต่งตั้งคณะทำงานปฏิบัติการข่าวสาร (Information Operation : IO) เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาการคัดค้านโครงการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกปากบารา โดยมีหน้าที่หลัก ในการสร้างความเข้าใจกับประชาชน ลดกระแสต่อต้าน สร้างความยอมรับและร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ และประชาชนทั่วไป
"ที่ประชุมเห็นว่า มีความจำเป็นต้องเพิ่มเติมการศึกษาในด้านสังคม วิถีชีวิต สิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และมิติด้านความมั่นคงเพื่อทบทวนการดำเนินโครงการอีกครั้ง"
รมว.คมนาคม ระบุว่า จะพิจารณาในทุกมิติ บูรณาการข้อมูลใหม่ เพื่อปรับแผนตามเหตุผลและความจำเป็น โดยมติด้านความมั่นคงนั้นจะขอความเห็นจากสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ส่วนประเด็นด้านสังคม สิ่งแวดล้อม จะขอความเห็นจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) และขอยืนยันว่าผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมไม่มีแน่นอน ซึ่งข้อกังวลว่ามีการใช้พื้นที่ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตราเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อมนั้น ข้อเท็จจริงจะใช้พื้นที่อุทยานประมาณ 1.5% จากทั้งหมด 3 แสนไร่ เพื่อเป็นเส้นทางเดินเรือเข้าสู่ท่าเรือ ไม่มีการทำลายอุทยานแต่อย่างใด ขณะที่ประโยชน์ของท่าเรือปากบาราจะทำให้การขนส่งสินค้าจากเดิมที่ผ่านช่องแคบมะละกาเพื่อมายังท่าเรือแหลมฉบัง(ทลฉ.) และท่าเรือกรุงเทพ(คลองเตย) ใช้เวลาลดลงจาก 2 วันครึ่ง-3 วัน เหลือ 1 วันครึ่งเท่านั้นเป็นผลดีต่อภาคการขนส่งและต้นทุนโลจิสติกส์ของไทยอย่างมาก
"การคัดค้านโครงการที่ผ่านมาอาจเพราะให้ข้อมูลไม่เพียงพอ ทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อน ซึ่งต้องทำความเข้าใจกับทุกส่วนที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจนว่าไม่มีนิคมอุตสาหกรรม มีแต่ท่าเรือ และชี้แจงถึงประโยชน์ที่จะเป็นการเปิดประตูการค้า แลนด์บริจด์จะเชื่อมโยงการคมนาคม ทางน้ำ ทางบก ราง ของภาคใต้ ไปยังพื้นที่ท่องเที่ยว และพื้นที่เกษตร ความเป็นอยู่จะดีขึ้น จะให้ความสำคัญกับประเด็นที่เป็นข้อห่วงใยของประชาชนในพื้นที่ เปิดรับความคิดเห็นเชิงวิชาการ สังคม เศรษฐกิจในทุกมิติ หอการค้า อุตสาหกรรม รวมถึงองค์กรเอกชน หรือ NGO เพื่อหาแนวทางที่เหมาะสม"พล.อ.อ.ประจิน กล่าว
นอกจากนี้ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) อยู่ระหว่างจัดทำทีโออาร์ว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษาประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมเชิงยุทธศาสตร์(SEA) วงเงิน 50 ล้านบาท ระยะเวลาศึกษา 11 เดือน(มิ.ย.58-30 เม.ย.59) โดยที่ปรึกษา SEA จะทำให้ร่วมกับคณะทำงาน IO ที่จะลงพื้นที่สร้างความเข้าใจ จากนั้นจะนำข้อเสนอแนะจาก 2 ส่วนมาประกอบกัน ขณะที่กรมเจ้าท่าจะทำการศึกษาทบทวนผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ(EHIA) โดยใช้งบประมาณปี 2559-2560วงเงิน 120 ล้านบาท ระยะเวลาศึกษา 18 เดือน
ด้านนายจุฬา สุขมานพ อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า ตามการศึกษาเดิมปี 2530 โครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือน้ำลึกปากบารา วงเงินรวม 30,000 ล้านบาท แบ่งการก่อสร้างเป็น 3 เฟส โดยหากดูเฉพาะผลตอบแทนทางการลงทุนจะต้องไม่ต่ำกว่า 12% แต่หลังขณะนี้ต้องนำการศึกษาในทุกมิติมาประกอบการตัดสินใจด้วย ส่วนนิคมอุตสาหกรรมเป็นองค์ประกอบที่สนับสนุนกิจการแต่สามารถตั้งนอกพื้นทีได้ โดยไม่จำเป็นต้องสร้างในเขตท่าเรือ ซึ่งมีพื้นที่เหมาะสมตามแนวรถไฟก่อนถึงหาดใหญ่ ซึ่งจะต้องก่อสร้างเส้นทางรถไฟเชื่อมท่าเรือปากบารา-หาดใหญ่ ระยะทาง 80 กม. ส่วนแลนด์บริดจ์ แนวทางรถไฟจะเชื่อม ปากบารา-สงขลา ระยะทาง 140 กม.